“พิธา” ร่วมปราศรัยช่วย “คณิศร” สู้ศึกชิงนายกเทศบาลนครอุดรฯ ขอแรงประชาชนสร้างบันไดสามขั้น ออกไปเลือกให้มากที่สุด-บอกต่อวิสัยทัศน์-จับตาซื้อเสียง ชี้ได้คะแนนเท่าครั้งเลือก อบจ. ได้นายกเทศชื่อคณิศรแน่นอน
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ที่ลานหลังพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี พรรคประชาชนจัดเวทีปราศรัยสำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี และสมาชิกสภาเทศบาลนคร (สท.) อุดรธานี ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี หมายเลข 3 โดยเวทีดังกล่าว ศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน, ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียง ได้ร่วมปราศรัยและพบปะประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย
ศรายุทธิ์ กล่าวว่า หลายคนตั้งคำถามว่าการที่พรรคประชาชนมีอุดมการณ์จะสร้างประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน รูปธรรมนั้นประชาชนจะได้อะไร วันนี้มีสิ่งที่เราจับต้องได้แล้วที่ อบจ.ลำพูน หลังได้รับเลือกตั้ง นายก อบจ.ลำพูน จัดกิจกรรมรับฟังความเห็นประชาชน นโยบายเรามีแล้วแต่ต้องฟังเพื่อนำความเห็นมาปรับปรุงการขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
เรื่องความโปร่งใส ทุกวันนี้ต้องถามว่าประชาชนเข้าไปดูเว็บไซต์ของ อบจ. หรือเทศบาล เรามองเห็นจริงหรือไม่ว่าการใช้งบประมาณเป็นอย่างไร วันนี้สิ่งที่เราทำเสร็จแล้ว พร้อมใช้ในรอบงบประมาณที่จะมาถึง คือเอาโครงการทั้งหมดมาลงให้เห็นในเว็บไซต์ว่ามีอะไรบ้าง แต่ละโครงการใช้เงินเท่าไหร่ ความคืบหน้าการเบิกจ่ายเป็นอย่างไร ประชาชนมองเห็น สามารถตรวจสอบได้ว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่ เมื่อตรวจสอบได้ คอร์รัปชันจะไม่เกิด
นี่คือสิ่งเล็กๆ ที่เราพยายามทำ เอาอุดมการณ์วิสัยทัศน์มาแปรให้เป็นรูปธรรมในการทำงาน ก่อนเลือกตั้งสัญญาไว้อย่างไร หลังได้รับเลือกตั้งต้องทำได้ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่า 6 เสาหลัก 26 นโยบายของคณิศรที่ประกาศไว้ทำได้จริง และหวังว่าผู้สมัครของพรรคประชาชนทั่วประเทศจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในการเลือกตั้งเทศบาลวันที่ 11 พฤษภาคมนี้
ด้านศิริกัญญา กล่าวว่า ทุกวันนี้ไปเดินตลาด พ่อค้าแม่ขายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจเงียบ รัฐบาลหลังจากแจกเงินหมื่น เขาบอกว่าจะทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งถ้าจะทำต้องฟังเสียงประชาชน คนอุดรจะได้ประโยชน์หรือไม่ เศรษฐกิจอุดรจะดีขึ้นอย่างไร รัฐบาลจะดันเรื่องนี้ทั้งที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้จะเกิดขึ้นภายใน 1-2 ปีแต่ต้องรออีก 4-5 ปี ถ้าต้องรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นเพราะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะกาสิโน เราจะรอไหวหรือไม่
จึงต้องมาดูนโยบายของนายกเทศมนตรี วันนี้งบประมาณของเทศบาลนครอุดรธานี 1,670 ล้านบาท เอาไปทำเรื่องการค้าขายเศรษฐกิจการพาณิชย์แค่ 3.6 ล้านบาท แบบนี้เศรษฐกิจอุดรจะดีขึ้นได้อย่างไร คุณคณิศรจะเพิ่มงบส่วนนี้เพื่อทำให้เศรษฐกิจอุดรดีขึ้น ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจจะเงียบและซึมลงไปเรื่อยๆ และพี่น้องต้องไม่ให้เขาทำงานอย่างเดียวดาย ต้องเลือกผู้สมัคร สท. ของพรรคประชาชนยกทีม เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้
ผู้สมัครคนอื่นไม่มีใครลงลงสมัครในนามพรรคการเมือง พรรคประชาชนส่งคณิศรเพียงคนเดียวเท่านั้น แสดงว่าพรรคคัดมาแล้วเป็นอย่างดี ถ้าได้รับเลือกตั้ง พรรคประชาชนทั้งแกนนำและอดีตแกนนำจะมาช่วยทำงาน ยกตัวอย่าง อบจ.ลำพูน ภายใน 2 เดือนสามารถส่งมอบหลายนโยบาย ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์อีวีที่จะเริ่มทดลองเดินรถในบริเวณที่วิ่งผ่านหลายโรงเรียนในเขตเมืองลำพูน น้ำประปาดื่มได้ที่จะเริ่มใน 2 ตำบล นอกจากนี้ แผ่นพับนโยบายที่พี่น้องมีในมือวันนี้ ขอให้เก็บไว้ แล้วเอามาตรวจการบ้านว่าผู้สมัครของเราได้ทำตามที่เคยสัญญาหรือไม่ พรรคประชาชนเราจะช่วยตรวจสอบด้วย
ด้านพิธาระบุว่าในการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งที่แล้ว ชาวอุดรธานีได้ให้คะแนนคณิศรมาทั้งหมด 270,000 คะแนน ชาวอุดรธานีในเทศบาลนครอุดรธานีให้มา 21,000 คะแนน ถ้าชาวอุดรยังเชื่อในการเลือกตั้งเหมือนเดิม ออกมาใช้สิทธิใช้เสียง ไม่ต้องเอาให้ถึงตอนก้าวไกล เอาแค่เท่า อบจ. นายกเทศมนตรีคนต่อไปชื่อคณิศรแน่นอน
พิธากล่าวต่อไปว่าแต่เรื่องแบบนี้ก็ประมาทไม่ได้ ตนจึงขอแรงชาวอุดรธานีช่วยกันทำบันไดสามขั้นเพื่อส่งคณิศรเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานีคนต่อไป ขั้นแรก คนที่เป็นส้มขาประจำที่เลือกกันมาตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล และเลือกคณิศรตอนเป็น อบจ. ต้องออกไปใช้สิทธิอย่างพร้อมเพรียงกัน อีกครึ่งหนึ่งคือขาจรที่อาจไม่ได้อยู่ในพื้นที่เมื่อครั้งเลือกตั้ง อบจ. คราวก่อนที่เป็นวันเสาร์ ทั้งลูกหลานและคนที่ต้องออกไปทำงานนอกอุดรธานี ช่วยกลับบ้านมาวันวิสาขบูชา ทำบุญตอนเช้าแล้วเข้าคูหากาเบอร์ 3 ต่อ
บันไดขั้นที่สอง รบกวนสมาชิกพรรคและชาวส้มช่วยกันบอกวิสัยทัศน์ของคณิศรที่เรียบง่าย ตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้วที่เพลง “ซาอุดร” ของคาราบาวกำลังดังจนถึงวันนี้ ชาวอุดรธานีมีแรงงานที่ไปขายแรงอยู่ต่างประเทศทุกที่ ตนไปที่ไหนก็เจอคนอุดรธานีเต็มไปหมด เพราะอยู่ที่บ้านไม่มีงานทำ ทำงานได้เงินเดือนก็ส่งกลับมาที่อุดรธานี นานๆ จะได้เจอครอบครัวที คณิศรบอกว่าอยากให้อุดรธานีเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับคนทุกคน ให้ทุกคนได้กลับมาทำงานที่อุดรธานีบ้านเรา ลูกหลานมีโรงเรียนที่ดี พ่อแม่มีระบบสาธารณสุขที่ดีดูแล ความฝันและวิสัยทัศน์ของคณิศรเรียบง่ายแค่นี้
บันไดขั้นที่สาม แม้คำนวณกันแล้วในพื้นที่ 46 ตารางกิโลเมตร คณิศรเจอประชาชน เดินมาตลอด แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ เห็นว่ามีสมุดรายการแจกเงินซื้อเสียงตกอยู่ที่เชียงใหม่ จะมีที่อุดรธานีด้วยหรือไม่ ชาวอุดรธานีต้องช่วยกันเป็นตาสับปะรดสอดส่อง เงินที่เขาให้มา 1,000-2,000 บาท แลกกับเวลา 4 ปี คำนวณแล้วเท่ากับพวกเขาให้ค่าพวกเราแค่คนละ 70 สตางค์ต่อวันเท่านั้น ตนเชื่อว่าคนอุดรธานีมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ให้เขาดูถูกเรา ถ้าทำได้ตามทั้งสามขั้นนี้ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานีคนต่อไปชื่อคณิศรแน่นอน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #อุดรธานี #เทศบาลประชาชน