พรุ่งนี้
กกต. ลงดาบ 60 สว.ชุดแรก “ดีเอสไอ” เตรียมดำเนินคดีฮั้ว ยื่นเพิกถอนสิทธิ
จากกรณีที่
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ได้อนุมัติให้ทำการสอบสวนกรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
(สว.) ต่อมา ดีเอสไอ ร่วมกับ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.
ในฐานะผู้นำกลุ่มสว.สำรอง เข้าสังเกตการณ์ ตรวจสถานที่คัดเลือก สว.ระดับประเทศ
และจำลองเหตุการณ์ ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
เพื่อประกอบการสอบสวนคดีพิเศษในคดีฟอกเงิน สว. (คดีพิเศษที่ 24/2568)
และใช้ประกอบการไต่สวนของ กกต.
อย่างไรก็ตาม
ดีเอสไอได้เริ่มดำเนินการสอบสวนรวมเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ภายหลังรับเป็นคดีพิเศษ
มีการสอบปากคำพยานทั่วประเทศ สอบปากคำพยานกลุ่ม สว.สำรอง
ตรวจสอบข้อมูลทางธุรกรรมธนาคารของบุคคลในขบวนการ ข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์
รวมทั้งรับโอนสำนวนการสอบสวนจาก สภ.รัตนาธิเบศร์ และ สภ.โกสุมพิสัย
ที่มีผู้กล่าวหาในความผิดฐานอั้งยี่ มาสอบสวนรวมสำนวนในคดีพิเศษดังกล่าว
ล่าสุด
วันนี้ (7 พฤษภาคม 2568) รายงานข่าวแจ้งว่า
ภายหลังจากที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งมี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก
รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน
และมีกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่มาจาก กกต. และดีเอสไอ ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา
(สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567
กระทั่งวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวนปากคำพยาน
ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวของกลุ่มคณะบุคคล, การตรวจสอบเส้นทางการเงินที่สะพัดไม่ต่ำกว่า
500 ล้านบาท ตั้งแต่การเลือก สว. ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ, การกาคะแนน การนับผลคะแนนที่มีการเลือกหมายเลขเดียวกัน ซ้ำ ๆ กันหลายชุด
เป็นต้น
เมื่อได้นำข้อมูลไปวิเคราะห์แล้วพบการกระทำที่เข้าข่ายมีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
จึงส่งหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกอบการพิจารณาตามกฎหมายเลือกตั้ง
อาทิ การพิจารณาเพิกถอนสิทธิ สว. นั้น ล่าสุดมีเสียงลือสะพัดว่าบรรดา 138 สว.
พูดกันว่ามีการเคลียร์กันแล้ว ข้างบนเคลียร์กันแล้ว หลังรู้ตัวว่าภายใน 1-2
สัปดาห์นี้จะถูกเจ้าหน้าที่ กกต. เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมายเลือกตั้ง
พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 อย่างไรก็ตาม
การสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และดีเอสไอ
รวม 7 ราย ได้ดำเนินการเก็บพยานหลักฐานสำคัญเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่อง
และเป็นการตรวจสอบเชิงลึกอย่างละเอียดรอบคอบ ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏจากคำให้การของพยานและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์
ดังนั้น
ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค. 68) กกต. จะมีการทยอยเรียกแจ้งข้อกล่าวหาบรรดาสมาชิกวุฒิสภา
(สว.) ลอตแรกจำนวน 60 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็น สว.คนดัง
ตามความผิดกฎหมายเลือกตั้ง พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ประกอบด้วย :-
มาตรา
32 ห้ามมิให้กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง
ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือในคณะกรรมการระดับอำเภอ
ผู้อำนวยการการเลือก
หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำการอื่นใดอันเป็นการขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการระดับจังหวัด
คณะกรรมการระดับอำเภอ ผู้อำนวยการการเลือก
หรือคำสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
กรรมการ
เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง
ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือในคณะกรรมการระดับอำเภอ
ผู้อำนวยการการเลือก หรือพนักงานเจ้าหน้าที่
ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ
หรือคำสั่งของคณะกรรมการหรือปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
หากได้กระทำโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา
หรือทางปกครอง
มาตรา
36 ผู้สมัครอาจแนะนำตัวได้ตามวิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้สมัคร จะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนำตัว
ต้องปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง มาตรา 32
มาตรา
62 เมื่อคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตามมาตรา 42 วรรคสอง แล้ว
ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น
อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว
ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา
ให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาว่าผู้นั้นมิได้กระทำความผิด
เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา
ว่าผู้นั้นกระทำความผิดให้สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาผู้นั้นสิ้นสุดลงนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่
ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งอยู่ในบัญชีสำรองด้วย
และเมื่อศาลฎีกา มีคำพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด
ให้คณะกรรมการสั่งลบรายชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีสำรอง และให้นำความในมาตรา 46
วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
มาตรา
70 ผู้สมัครผู้ใดไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา 36
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
มาตรา
77
ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา
หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือก
หรือเพื่อจงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี (1)
จัด ทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน
หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด
รายงานข่าว
ระบุว่า ซึ่งบุคคลที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา
ล้วนมีพฤติการณ์และพยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำความผิด
ไม่ได้ถูกเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยสุจริตเที่ยงธรรม หรือกล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ คือ
มาโดยการฮั้ว ซึ่งกระบวนการหลังจากนั้น วุฒิสภาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ
กกต. เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เนื่องจาก กกต. เป็นระบบไต่สวน ฉะนั้น
หากเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วไม่มาพบเจ้าหน้าที่
ก็ถือว่าประสงค์ไม่ให้การชี้แจง แต่จะไม่ถึงขั้นขอศาลออกหมายจับ แต่ กกต.
จะเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาเรื่องการทุจริตเพื่อออกใบแดง และส่งเรื่องเพิกถอนสิทธิ
สว. ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อไป
รายงานข่าว
ระบุด้วยว่า ส่วนกรณีที่ดีเอสไอดำเนินการเรื่องความผิดคดีอาญาอื่น คือ
ฐานฟอกเงินและอั้งยี่นั้น สำนวนนี้ดีเอสไอคือหัวเรือหลักในการสอบสวนบุคคลที่ร่วมกระทำทุจริตรับเงิน
เป็นกลุ่มโหวตเตอร์ พลีชีพ จัดฮั้ว ซึ่งเบื้องต้นมีจำนวนหลายร้อยคน ดังนั้น
เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้น ดีเอสไอต้องสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ
เพื่ออัยการส่งศาลอาญารัชดาภิเษก