แรงงานยานภัณฑ์-แนวร่วมอีก 3 บริษัทที่ถูกเลิกจ้าง ช่วยตักตะไคร่น้ำ หน้าศาลาแก้วอาคารรัฐสภา จี้นำงบปรับปรุงสภามาเยียวยาแรงงาน หลังเรียกร้องกระทรวงแรงงานหลายครั้ง ปักหลักฝั่งตรงข้ามทำเนียบนานนับเดือนไม่คืบ
วันนี้ (30 พ.ค. 68) เวลา 10.30 น. ตัวแทนกลุ่มแรงงานยานภัณฑ์และแนวร่วมทวงเงินค่าชดเชยอีก 3 บริษัท (บอดี้แฟชั่นฯ, แอลฟ่าสปินนิ่ง, เอเอ็มซีสปินนิ่ง) เดินทางมายื่นหนังสือที่รัฐสภาถึง นายภัณฑิล น่วมเจิม, นายสหัสวัต คุ้มคง, นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรค ปชน. รวมถึง สส. ทั้งหมด โดยมีนายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส. ปชน. อีกคนเข้าร่วมด้วย โดยทางกลุ่มแรงงานได้เรียกร้องให้มีการแบ่งเงินงบประมาณแผ่นดินมาใช้ดูแลแรงงานที่ถูกเลิกจ้างลอยแพไม่ได้รับเงินค่าชดเชยตามกฎหมาย และได้ผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากต่อการดำรงชีพ ภายหลังที่มีข่าวจากการอภิปราย พ.ร.บ. งบประมาณ 2569 ถึงการใช้งบประมาณถึง 8,000 ล้านบาทในการปรับปรุงอาคารรัฐสภาในหลายจุด อาทิเช่น โรงภาพยนต์ ฉากด้านหลังเก้าอี้ของประธานสภา เรือนกระจกภายนอกอาคาร และลานจอดรถใต้ดิน เป็นต้น
ต่อมาสำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รายงานทางเพจเฟซบุ๊กว่า นายเซีย จำปาทอง กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ที่ผ่านมาพี่น้องแรงงานได้มายื่นหนังสือที่สภาหลายครั้ง กรณีที่ถูกเลิกจ้าง นายจ้างปิดกิจการไปแล้วแต่ไม่ได้จ่ายเงินค่าชดเชยให้ลูกจ้าง ซึ่งได้ประสานงานกับคณะ กมธ.การแรงงาน และ สส.พรรคประชาชน ได้รับทราบข้อมูลมาในระดับหนึ่ง ในวันนี้พี่น้องแรงงานเดินทางมายื่นหนังสืออีกครั้งเพื่อขอให้มีการจัดสรรเงินงบประมาณ ปี 2569 มาช่วยเหลือเยียวยา เพราะพี่น้องแรงงานได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลานานแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง จึงขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาดูแลช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องแรงงาน ทั้งนี้ ตนยินดีรับเรื่องและนำปัญหาของพี่น้องแรงงานไปผลักดันต่อเพื่อหาช่องทางในการช่วยเหลือเยียวยา และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้และให้ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายภัณฑิล น่วมเจิม กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับการติดต่อจากพี่น้องแรงงานที่ถูกเลิกจ้างซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งงบประมาณของเรามีงบกลางมากที่สุด มีงบให้หน่วยงานต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต้องได้รับการจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไข และในการอภิปรายงบประมาณจะต้องมีงบประมาณที่นำมาแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนด้วย
โดยผู้ใช้แรงงานกลุ่มนี้ได้ปักหลักประท้วงบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลมานานกว่า 3 เดือนแล้ว (หากรวมกับช่วงที่ปักหลักหน้าโรงงานยานภัณฑ์อีก 2 เดือนก็เป็นเวลาทั้งหมดราว 5 เดือน) เพื่อเรียกร้องให้ ครม. อนุมัติงบกลางจำนวน 466 ล้านบาทตามหนังสือด่วนที่สุดของกระทรวงแรงงาน จัดทำโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ลงนามโดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว. แรงงาน ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 68 ทั้งนี้ทาง ครม. ยังไม่ได้อนุมัติงบประมาณตามนี้เพื่อเยียวยาผู้ใช้แรงงานที่ถูกนายจ้างละเมิดสิทธิตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน 2541 หลายข้อ ทำให้เกิดความเดือดร้อนจากปัญหาค่าครองชีพ หนี้สิน และสภาวะว่างงาน เนื่องจากอาชีพส่วนใหญ่จะเน้นรับแต่ผู้สมัครที่มีอายุน้อย
โดยหนังสือที่ยื่นต่อ สส. ในวันนี้มีเนื้อหาดังต่อไปนี้:
เรียน สส. ภัณฑิล น่วมเจิม, สส. สหัสวัต คุ้มคง, สส. เซีย จำปาทอง และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน
เรื่อง ขอให้งบประมาณแผ่นดินได้ถูกจัดสรรเพื่อการแก้ไขปัญหาและความทุกข์ร้อนของประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินภาษี โดยเฉพาะ แรงงานที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้เงินค่าชดเชยตามกฎหมาย ซึ่งปักหลักประท้วงข้างทำเนียบฯ มากว่า 5 เดือนแล้ว
บริษัทยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2495 ด้วยทุนจดทะเบียน 2.5 ล้านบาท ดำเนินการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่จนประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวาง ต่อมาบริษัทยานภัณฑ์ได้ขยายสาขาการผลิตไปสู่ชิ้นส่วนรถยนต์ประเภทต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายทั่วประเทศ ปี 2547 และซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อขยายการผลิตพร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,600 ล้านบาท แต่ทว่าในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการปิดกิจการและเลิกจ้างลอยแพพนักงานกว่า 800 ชีวิต โดยไม่มีการจ่ายเงินค่าชดเชยการเลิกจ้างหรือเงินค่าทดแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งล้วนเป็นหน้าที่ของนายจ้างตามกฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมส่วนรวม
เงินค่าชดเชยการเลิกจ้างควรจะเป็นหลักประกันความมั่นคงของผู้ใช้แรงงาน แต่สุดท้ายแล้วพนักงานยานภัณฑ์กลับต้องปักหลักประท้วงที่ข้างถนนด้านหน้าโรงงานของตัวเอง มาตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 และต่อมาก็ได้ย้ายมาปักหลักที่บริเวณสำนักงาน ก.พ.ร. เก่า ข้างทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2568 มาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาทั้งหมดกว่า 5 เดือนแล้ว ที่ผู้เดือดร้อนได้เคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมอยู่ข้างถนนด้วยแรงสนับสนุนจากเพื่อน ๆ จากหลายกลุ่มและองค์กร
หลายครั้งหลายครา กลุ่มพนักงานได้เรียกร้องให้รัฐบาลใช้งบกลางเพื่อเร่งเยียวยาปัญหาฉุกเฉินของแนวร่วมคนงาน 4 กลุ่ม คนงานแอลฟ่าสปินนิ่ง เอเอ็มซีสปินนิ่ง บอดี้แฟชั่นฯ และยานภัณฑ์ รวมแล้วไม่เกินสามพันคน ใช้เงินทั้งหมดราว 466 ล้านบาท อ้างอิงจากข้อมูลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ทั้งนี้ ทางกลุ่มคนงานยืนยันว่าไม่ได้เป็นการขอเงินเปล่า ๆ หากคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลางมาให้กับคนงานแล้ว ทรัพย์สินของนายจ้างที่ถูกกรมบังคับคดียึดเอาไว้ก็จะถูกยกให้เป็นของรัฐบาล ซึ่งทางรัฐบาลสามารถเอาคืนคลังต่อไปได้ในภายหลัง
ข้อเสนองบกลางดังนี้ ได้ถูกสานต่อโดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้ลงนามรับรองเรื่องการของบไปแล้วเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 และเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ภายหลังการติดตามทวงถามอย่างต่อเนื่อง ตัวแทนคนงานได้รับทราบจากทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าการขอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจาก 8 หน่วยงาน คือ กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กระทรวงการคลัง, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงอุตสาหกรรม, และสำนักงบประมาณ นั้นได้รับหนังสือความเห็นตอบกลับมาอย่างครบถ้วนแล้ว และพร้อมสำหรับการทำสรุปข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเป็นการต่อไป
ทว่าจนถึงเวลานี้ทางคณะรัฐมนตรียังไม่มีการพิจารณาวาระการอนุมัติงบเพื่อช่วยเหลือกลุ่มพนักงานซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาข้างต้น ด้วยภาระหนี้สินและค่าครองชีพของพนักงานหลายคนที่กำลังทยอยเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมบุตร เงินผ่อนรถยนต์ เงินผ่อนบ้าน หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งมีแต่จะกดทับซ้ำเติมในความล่าช้าของรัฐบาล
หากในกรอบงบประมาณปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เงินภาษีประชาชนถึง 8,000 ล้านบาทสามารถถูกใช้ไปกับกรณีการเสริมเกียรติ์และปรับปรุงอาคารรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงหนัง 4D การปรับปรุงศาลาแก้ว การปรับปรุงฉากด้านหลังประธานสภา หรือ การสร้างโรงจอดรถใต้อาคารรัฐสภา และ สิ่งฟุ่มเฟือยอื่น ๆ หลายอย่าง สมาชิกผู้แทนราษฎรทุกท่านก็อาจแบ่งปันงบประมาณเหล่านี้มาเป็นเงินเยียวยาประชาชนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากจากการกระทำของนายจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีพ ได้เช่นกัน เงินที่ท่านอาจมองว่าไม่มาก สามารถช่วยชีวิตของพวกเราได้จำนวนหลายหมื่นหรือหลายแสนคน หากท่านมีความตั้งใจที่จะลงมือช่วย
จึงเรียนมาเพื่อขอความเห็นใจคนที่ทำงานจ่ายภาษีหล่อเลี้ยงรัฐบาลและรัฐสภาแห่งนี้มาทั้งชีวิต และ ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ทำหน้าที่ด้วยหมุดหมายในการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง
ด้วยความเคารพ
ตัวแทนกลุ่มพนักงานยานภัณฑ์ และแรงงานผู้ได้รับความเดือดร้อน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ยานภัณฑ์ #งบประมาณ2569 #งบ69