วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย เดินหน้าทำงาน ถกปัญหาประเทศต่อเนื่อง เน้นสร้างรายได้ประชาชนทุกกลุ่ม

 


ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย เดินหน้าทำงาน ถกปัญหาประเทศต่อเนื่อง เน้นสร้างรายได้ประชาชนทุกกลุ่ม


วันที่ 1 มิถุนายน 2566  คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษา ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา และกรรมการด้านเศรษฐกิจ เช่น นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ ​​กรรมการ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ​​กรรมการ นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ​กรรมการ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ​​กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ร่วมประชุมหารือในประเด็นเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง


ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ได้หารือเพื่อเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นสำคัญที่เป็นแรงผลักในการขับเคลื่อนประเทศ ใน 5 ประเด็นหลักได้แก่


1. การส่งออก พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการหาตลาดใหม่ โดยเน้นที่ตลาดกลุ่มตะวันออกกลาง รวมทั้งการสร้างสินค้าและบริการ ให้ตรงกับความต้องการของตลาด ดูแลค่าค่าเงินบาทให้คงตัว เพื่อส่งเสริมรายได้จากการส่งออกจากประเทศ เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศในระยะสั้น


2.การส่ งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หรือ (Foreign direct invesment :  FDI)  ต้องดำเนินการด้วยความยืดหยุ่นสูง และมีความชี้เฉพาะในตัว ด้วยมาตรการที่ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของนักลงทุนรายอุตสาหกรรม และนักลงทุนรายประเทศ  พร้อมเน้นย้ำไม่มีมาตรการตัดเสื้อโหลให้ทุกคนพึงพอใจ เหมือนอย่างเป็นปัญหาในปัจจุบัน


3. หนี้เอสเอ็มอี หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือหนี้เสีย (NPL) สูงขึ้นคิดเป็น 20%  หรือเป็นเอสเอ็มอีจำนวน 1 ใน 5 กำลังประสบปัญหาหนี้ ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอนาคต  พรรคเพื่อไทยมีความกังวลในเรื่องนี้ ดังนั้นนวัตกรรมทางการเงิน และวิศวกรรมทางการเงิน จะเข้ามาตอบโจทย์และแก้ปัญหาเอสเอ็มอี รวมถึงการใช้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐช้อนหนี้จากสถาบันการเงิน เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้


4. สังคมสูงวัย  เป็นปัญหาระยะยาวและระยะสั้นที่ต้องรีบแก้ไข ซึ่งทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยมองใน 2 มิติ คือ ปัญหา และโอกาส โดยในส่วนของปัญหา คือ แรงงานลดลงและผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้รายได้ลดลง รายจ่ายมากขึ้น หากเป็นอย่างนี้ต่อไปหมายความว่ากำลังเดินไปสู่ทางตัน  แก้ไขได้ใน 2 มิติคือ ต้องเพิ่มจำนวนแรงงาน และอัตราการเกิด และการเพิ่มผลิตภาพแรงงานให้สูงขึ้นและเก่งขึ้น ในส่วนของโอกาส คือ กำลังซื้อจากคนชรา ต้องคิดค้นการสร้างรายได้จากกำลังซื้อกลุ่มนี้ ด้วยศูนย์กลางทางการแพทย์ ศูนย์กลางอาหารออร์แกนิค ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและพำนักระยะยาว


5. ระบบภาษีที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ต้องไม่กระทบต่อภาคการลงทุน และไม่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวหรือเดินช้าในระยะยาว ที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ


ดร.เผ่าภูมิ  กล่าวว่า ประเด็นต่าง ๆ จะนำไปคุยกับแกนนำพรรคร่วม และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหาจุดลงตัวสำหรับประชาชนทุกคน โดยในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน ในสัปดาห์หน้า พรรคเพื่อไทยจะพูดคุยในนโยบาย หลัก ยอมรับว่ามีความแตกต่าง ซึ่งต้องหาจุดลงตัว ส่วนนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ต้องใช้งบประมาณ 560,000 ล้านบาท ในขณะที่นโยบายพรรคแกนนำก็ใช้เงินเท่ากันในนโยบายรัฐสวัสดิการ ซึ่งต้องเป็นไปตามพรรคแกนนำเป็นหลัก  ดังนั้นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของพรรคเพื่อต้องชะลอไป


ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนว่าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะรีดภาษีมากกว่าการหารายได้เข้าประเทศ  ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ขอก้าวล่วง ในมิติของนโยบายพรรคการเมืองอื่น เพราะทุกนโยบายมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน นโยบายของพรรคเพื่อไทยเราชัดเจนในนโยบายทุนนิยมที่มีหัวใจ เศรษฐกิจโตเท่าเทียม เศรษฐกิจโตสูง และโตเท่าเทียม


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย