'โรม' เรียกร้องสปิริตจาก"ประยุทธ์"
ช่วยแสดงออกว่าเตรียมตัวเก็บของออกจากทำเนียบ "อย่ารอส้มหล่น"
หวังจะกลับมาได้อีก ซัด ‘วิษณุ’
หยุดชี้นำส.ว.และสังคม
เมินตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ชี้ปิดสวิตช์ ม.272 ดีกว่า
วันนี้
(1 มิ.ย. 66) เวลา 10.15 น.
ที่ทำการพรรคก้าวไกล หัวหมาก 12 บางกะปิ กรุงเทพฯ
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงกรณีที่นายวิษณุ
หยิบยกกรณีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อครั้งคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร
อดีตภรรยาของนายทักษิณ ชินวัตร ลงคะแนนเลือกตั้ง มาเปรียบเทียบ นายรังสิมันต์
มองว่าเป็นคนละกรณีไม่ควรเอามาเปรียบเทียบกัน ขอยืนยันว่าเรื่องหุ้นไอทีวี
พรรคก้าวไกลมีการเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว แต่ไม่ขอลงรายละเอียด
ในทางการเมืองเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้ง
หวังผลทางการเมืองเพราะมีการปล่อยข่าวออกมาในช่วงใกล้เลือกตั้ง
ไม่ได้มีความกังวลอะไร
นายรังสิมันต์
กล่าวอีกว่า การที่นายวิษณุ พูดเช่นนี้เพื่อชี้นำ ส.ว. ชี้นำสังคมหวังผลทำให้
ส.ว.เกิดความลังเลใจ และหวังส้มหล่นหรือไม่ เหตุใดต้องใช้กระบวนการเช่นนี้
โดยไม่เคารพต่อเจตจำนงของประชาชน ขออย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องความเห็นทางกฎหมายของนายวิษณุมาก
อดีตอาจจะเป็นปรมาจารย์ที่นิสิตนักศึกษาให้ความ
แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่านายวิษณุไม่ได้ถูกทุกเรื่อง ยกตัวอย่าง
การออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 เพื่อเลื่อนบังคับใช้บางมาตราในพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม
การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
โดยรังสิมันต์
ได้กล่าวแนะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับวันรอออกจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าหากตนเองเป็นพลเอกประยุทธ์
จะแสดงความยินดีกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ในฐานะที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ช่วยแสดงออกว่าเตรียมตัวเก็บของออกจากทำเนียบ
โดยรังสิมันต์ย้ำว่า "อย่ารอส้มหล่น"
โดยวาระนี้ควรเป็นการเตรียมส่งมอบงานให้รัฐบาลใหม่
เพราะผลของการเลือกตั้งมีความชัดเจนว่า รัฐบาลชุดที่แล้วจะไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อไป
ทั้งนี้พรรคก้าวไกลมีการเตรียมความพร้อมตั้งทีมคณะทำงานช่วงเปลี่ยนผ่าน
(Transition
Team) แต่เราไม่เห็นความพร้อมของรัฐบาลชุดที่แล้ว
ไม่แสดงสปิริตแสดงความยินดี
แต่เห็นท่าทีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ในการหวังส้มหล่นจากรัฐบาลพรรคก้าวไกล เพื่อหวังจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
"ไม่สายเกินไป
หากจะยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งเพื่อทำให้เปลี่ยนผ่านรัฐบาลเป็นไปในทางที่ควรจะเป็น
การสร้างสปิริตเช่นนี้จะเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
เพื่อให้เกิดความราบรื่นต่อรัฐบาลใหม่" รังสิมันต์กล่าว
ส่วนที่นายจเด็จ
อินสว่าง ส.ว. เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า นายจเด็จ
ติดปัญหาเรื่องเดียวคือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ซึ่งต้องไปว่ากันในสภาฯ นึกไม่ออกว่าจะทำกระบวนการเช่นนั้นทำไม
เพราะประเทศเราไม่ได้เจอวิกฤตที่ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้สวย สิ่งที่ต้องทำคือ คืนความเป็นปกติให้สังคม
ยอมรับมติมหาชนจากการเลือกตั้ง และเมื่อตั้งรัฐบาลได้แล้ว จึงค่อย ๆ
ถอดสลักและอุปสรรคต่าง ๆ
ขอให้พรรคก้าวไกลได้ทำงานพิสูจน์ตนเอง
หากประชาชนไม่เห็นด้วย การเลือกตั้งรอบหน้าเราก็ไปต่อไม่ได้
หากใช้วิธีการที่ไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยประเทศไทยก็จะมีแต่วิกฤต
ทั้งนี้นายจเด็จ ไม่ใช่ตัวแทนของ ส.ว.ทุกคน เพราะมีส.ว.หลายคนสนับสนุนพรรคก้าวไกล
เคยโหวตปิดสวิตซ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272
ซึ่งหากปิดสวิตซ์ได้การเดินหน้าของรัฐบาลก้าวไกลจะไม่มีปัญหาอะไรเลย
พร้อมย้ำว่าการพูดคุยต่อ ส.ว.เป็นไปตามขั้นตอนของคณะกรรมการเจรจา
มีการพูดคุยเป็นระยะ ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร
ส่วนกรณีที่อาจจะมีบุคคลไปยื่นร้องเรียนว่านายปิยบุตร
แสงกนกกุล ครอบงำพรรค หลังวิพากษ์วิจารณ์การทำงานพรรคก้าวไกลนั้น ยอมรับว่า
นายปิยบุตรกับพรรคก้าวไกลไม่ได้มีความเห็นตรงกันทุกเรื่อง
นายปิยบุตรเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
แต่ยังมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
คนร้องมีเจตนาต้องการทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล
เตะขัดขานายพิธาเพื่อไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะหลายอย่างไม่เป็นความจริง
ซึ่งพรรคก้าวไกลเตรียมการ พร้อมต่อสู้ทางกฎหมาย และจะดำเนินคดีกับบุคคลที่ใส่ร้าย
นำเรื่องเท็จไปร้อง เพราะมีความผิดตามกฎหมาย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #จัดตั้งรัฐบาล #เลือกตั้ง66 #รัฐบาลก้าวไกล