ชูวิทย์หอบหลักฐานเข้าให้ข้อมูลจเรตำรวจแห่งชาติ
ประกาศดักพบนายกฯ ที่ศูนย์สิริกิติ์เย็นนี้!!!
วันนี้
(9 ม.ค. 2566) เวลา 14.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
หอบพยานหลักฐานเป็นเอกสารและคลิปวีดีโอต่าง ๆ จำนวน 1 กล่องพลาสติกใหญ่
มาเข้าพบคณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติ
เนื่องจากได้รับหมายเรียกให้เข้ามาสอบปากคำและให้ข้อมูลในคดีการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายในคดี
“ผับจินหลิง” และเครือข่ายของนายตู้ห่าว
โดยนายชูวิทย์
ประกาศชัดเจนว่า วันนี้ตั้งใจมาให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ
แต่มองว่าการเรียกเข้ามาครั้งนี้เหมือนเป็นละคร ลิเกโรงใหญ่
เพราะเชื่อว่าจเรตำรวจแห่งชาติจะไม่เอาจริง ทั้งที่จริง ๆ แล้ว
ควรมีคนกลางที่ไม่ใช่ตำรวจมาร่วมในการตรวจสอบด้วยเหมือนในต่างประเทศ
หากวันนี้เข้าไปให้ข้อมูลแล้วทางจเรตำรวจแห่งชาติไม่ได้มีท่าทีจะเอาจริงในการเอาผิดกับตำรวจชุดดังกล่าว
ก็จะเดินออกจากห้องทันที
สำหรับหลักฐานที่นำมามอบให้จเรตำรวจแห่งชาติวันนี้มีทั้งหลักฐานการตัดต่อภาพวงจรปิดของ
“ผับจินหลิง” และ “ผับลีลา” ซึ่งมีภาพการตั้งบ่อนการพนันในจุดดังกล่าว
หลักฐานการออกหมายจับช้า การไม่ตั้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าว ทั้งที่เวลาผ่านมานาน
การไม่ดำเนินคดีเรื่องบ่อนการพนันในผับจินหลิง โดยนายชูวิกล่าวว่า พยานหลักฐานที่นำมาวันนี้เป็นเพียงบางส่วน
โดยยังมีพยานหลักฐานอยู่อีกจำนวนมาก
แต่ต้องดูท่าทีของจเรตำรวจแห่งชาติว่าจะเอาจริงในเรื่องนี้หรือไม่
แต่เชื่อว่าจเรตำรวจมีข้อมูลทุกอย่างอยู่แล้ว
นอกจากนี้นายชูวิทย์ยังยืนยันว่า
สิ่งที่ทำทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
หรือต้องการกลั่นแกล้งทางการเมืองกับบุคคลใด และไม่ได้คิดจะไปสังกัดพรรคไหน
ไม่ได้รับใบสั่งจากใคร สิ่งที่ทำเป็นการทำตามสิทธิของประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ในการเข้าให้ข้อมูลวันนี้จะตั้งข้อสังเกตเรื่อง
พันตำรวจโท คมไพร และรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6
ที่ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ในขณะที่เกิดคดีว่า
ใครเป็นคนดูแลตำรวจทั้งสองนายนี้มาตั้งแต่เป็นชั้นประทวน ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า
หลังมีการจับผับจินหลิง มีการสั่งย้ายนายตำรวจเพียงแค่นายเดียว ทั้งที่คดีอื่น ๆ
ต้องสั่งย้ายทั้ง 5 เสือของสน.ที่เกิดเหตุ เหมือนกับกรณีของผู้เสียชีวิตภายในผับ top one พื้นที่
สน.สุทธิสาร และกรณีผับเครือข่ายของนายตู้ห่าวที่พัทยา
ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจที่ทำสำนวนคดีนายหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นคนส่งข้อมูลและพยานหลักฐานไปให้ตนเอง
เรื่องนี้มองว่าตำรวจนายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้อง
แต่ตนเองมีข้อมูลที่ได้จากแหล่งอื่นไม่ใช่เพียงตำรวจนายดังกล่าวเพียงคนเดียว
และเชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวจะไม่ทำให้ตำรวจนายอื่น ๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำคดีของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
จะไม่กล้าส่งข้อมูลอื่นๆมาให้อีก
ทั้งนี้
นายชูวิทย์ยังกล่าวถึงเรื่องที่อัยการเข้ามาดูคดีนายตู้ห่าว
ที่จนถึงขณะนี้อัยการยังไม่มีการรับคดีของนายตู้ห่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร
แต่เข้ามาทำหน้าที่ที่ปรึกษาเท่านั้น ซึ่งสำนวนคดีอยู่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ซึ่งอาจทำให้คดีเกิดความเสียหายได้ มองว่าเหมือนเป็นการเล่นละครอีกโรงหนึ่ง
ก่อนจะเดินทางเข้าห้องประชุมนายชูวิทย์ยังประกาศว่า
ในช่วงเย็นจะไปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจะมีการประกาศเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
เพื่อถามคำถามนายกรัฐมนตรี สั้น ๆ ว่า บรรดาเครือญาติคนใกล้ชิดท่านแต่ละคน
ล้วนมีปัญหาทั้งนั้น จริงหรือไม่? อยากจะให้อธิบาย ถ้าไม่รู้
ไม่เกี่ยวก็ตอบมาให้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องหงุดหงิด เสียอารมณ์
ทั้งนี้นายชูวิทย์จะนำตะเกียงและเทียนไปด้วย
หากเข้าไม่ถึงตัวนายกรัฐมนตรีก็จะหาที่นั่ง จุดตะเกียงรอเข้าพบและให้ข้อมูลต่าง ๆ จนได้
พร้อมกันนี้
นายชูวิทย์ยังได้เหยียบกล่องหลักฐานโชว์สื่อพร้อมกับกล่าวว่า “นี่เป็นโรงลิเกโรงใหญ่”
และกล่าวว่า
“ผมตั้งคำถามเรื่องทุจริตคอรัปชั่นล้วน
ๆ ไม่มีเรื่องอื่น ผมจะเลือกท่าน (นายกฯ) ท่านก็ควรแสดงวิสัยทัศน์ให้ประชาชนเห็น” พร้อมย้ำว่า
ตนพร้อมสนับสนุนนายกฯ อยู่แล้ว
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #ชูวิทย์กมลวิศิษฐ์ #ทุนจีนสีเทา #ตู้ห่าว