วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2566

ชาวหนองคายแห่ฟังปราศรัยเพื่อไทยล้นหลามร่วม 20,000 คน ‘ชลน่าน’ ชี้คนไทยทนลำบากมา 8 ปี ขอ ปชช.เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้ถล่มทลาย

 


ชาวหนองคายแห่ฟังปราศรัยเพื่อไทยล้นหลามร่วม 20,000 คน ‘ชลน่าน’ ชี้คนไทยทนลำบากมา 8 ปี ขอ ปชช.เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้ถล่มทลาย   


วันที่ 28 มกราคม 2566 ที่เวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทย #แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น ณ ตลาดคลองถม อำเภอโพนพิสัย  จังหวัดหนองคาย ซึ่งมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และใกล้เคียงเข้ามาฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นรวมกว่า 20,000 คน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินไม่ได้ หากเขต 2 หนองคายไม่ชนะเลือกตั้ง เขตนี้มีผู้สมัคร ส.ส.ผู้หญิง 5 คน ขอให้จดจำนางสาวชนก จันทาทอง พรรคเพื่อไทยเท่านั้น พรรคเพื่อไทยคัดเลือกผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ที่มีความรู้ความสามารถลงทั้งหมด 400 เขต เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะไม่แบ่งใจให้ใคร ตนเชื่อว่าเราจะได้เลือกตั้งบัตรสองใบ ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอให้พี่น้องประชาชนจดจำหมายเลขผู้สมัครและจดจำโลโก้พรรค เข้าคูหาแล้วกาเพื่อไทย


“เราทนลำบากมา 8 ปี ถูกปล้นอำนาจไป ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่ประกาศนโยบายจับต้องได้ ประชาธิปไตยกินได้ พร้อมคืนราคายางพาราให้พี่น้องกลับมาลืมตาอ้าปากได้ ตอนนี้เราเริ่มแล้วแม้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล เราเริ่มแล้วที่สกลนครเพิ่มผลผลิตเป็น 100% นี่คือนโยบายประชาธิปไตยที่กินได้ หรือนโยบาย 1 ครอบครัว 1 soft power เช่น หนองคายมีพ่อบ้านเก่งเรื่องบั้งไฟพญานาค ให้ไปลงทะเบียน 1 คน 1 ครอบครัว สร้าง soft power สร้างงานสร้างรายได้ แปลงโอกาสให้เป็นรายได้ของเรา” นพ.ชลน่าน กล่าว


ต่อมา นายสุทิน คลังแสง ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กู้มาแล้วแจก หารายได้ไม่เป็น ซ้ำยังขึ้นภาษีทางตรง ทางอ้อม และภาษีทางโค้ง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน ภาษีทางโค้ง มาจากการประกาศเพิ่มราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องดีที่ราคาเพิ่มขึ้น พี่น้องประชาชนที่ขายที่ดินในหลายจังหวัดจะได้ประโยชน์ แต่ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ จะขายที่ดินให้ใคร เพราะแม้ชาวบ้านประกาศขาย ก็ไม่มีใครซื้อ เพราะราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อผู้ขาย นอกจากนี้ค่าไฟยังแพงขึ้น ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบจากปัจจุบันที่ประชาชนหันไปทางไหนก็มีแต่หนี้ ธกส. หนี้สหกรณ์ และหนี้นอกระบบ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจจะเข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินของพี่น้องประชาชน 


ด้านนายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในรัฐบาลถัดไปที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จะพัฒนาโครงการ 30 บาทให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มีเทเลเมดิซีน หรือระบบแพทย์ทางไกล ให้ผู้ป่วยได้พูดคุยกับหมอ รับยาผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลหรือส่งไปรษณีย์ไปที่บ้านเพื่อความสะดวก นโยบายเพื่อไทยทำได้ ทำจริง และทำสำเร็จมาแล้ว ดังนั้น เลือกตั้งคราวหน้า กาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรคไม่แบ่งให้ใคร ให้นางสาวแพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรี


ส่วน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ของไทย เป็นเมืองหน้าด่านเชื่อมกับประเทศลาวและติดต่อไปยังประเทศจีน ซึ่งกำลังมีระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงครอบคลุมอย่างกว้างขวาง เมื่อประเทศจีนสร้างระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงขยายมายังลาว และเวียดนาม ได้พาสินค้าต่างๆ ขึ้นไปค้าขายกับประเทศจีนซึ่งมีพลเมืองเป็นพันล้านคนอย่างคึกคัก เป็นเมืองที่มีอนาคตทั้งการค้าและการท่องเที่ยว แต่น่าเสียดายที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งมีโครงการรถไฟความเร็วสูงถูกรัฐประหารล้มไป  รัฐบาลภายหลังการทำรัฐประหารก็สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเหมือนกัน แต่สร้างจากกรุงเทพไปนครราชสีมา ผ่านมา 8 ปียังสร้างไม่เสร็จและไม่รู้จะเสร็จเมื่อใด  รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับไม่เคยคิดจะทำอะไร พี่น้องต้องอยู่อย่างยากลำบากหากพลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ


ดังนั้น ภารกิจแลนด์สไลด์คือเอาประยุทธ์ออกไป เอาความกินดีอยู่ดีกลับมา เอารถไฟฟ้าความเร็วสูงกลับมา เอาอนาคตชาวหนองคายกลับมา กาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ กาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย