วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2566

“ณัฐวุฒิ” เปรียบ รทสช.คือเหล้าเก่าในขวดแตก มีการเตรียมแก้ ม.158 วาระนายกฯ 8 ปี ให้ “ประยุทธ์” อยู่ยาว


“ณัฐวุฒิ” เปรียบ รทสช.คือเหล้าเก่าในขวดแตก มีการเตรียมแก้ ม.158 วาระนายกฯ 8 ปี ให้ “ประยุทธ์” อยู่ยาว


เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุดเต้น EP.64 ซึ่งเผยแพร่ทางยูทูปช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official ตอน “รทสช.เหล้าเก่าในขวดแตก แหกแผนประยุทธ์เตรียมแก้วาระนายกฯ 8 ปีอยู่ยาว” โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า


พล.อ.ประยุทธ์ เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติเรียบร้อยแล้วนะครับ ผมนั่งดูอยู่พักนึงยังตอบตัวเองไม่ได้จนเดี๋ยวนี้ว่าเป็นงาน “เปิดตัว” หรือว่า “ปิดตัว” กันแน่!


คือมันไม่เห็นอะไรใหม่อ่ะครับ เนื้อหาก็เลื่อนลอยจับต้องไม่ได้ แทนที่จะเป็นการประกาศวิสัยทัศน์ว่าเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งทีประเทศไทยจะเห็นเป็นรูปธรรมจากความสามารถของท่านบ้าง ก็ไม่มี มัวแต่หยอกเอินกับแม่ยกหน้าเวทีหัวเราะหัวใคร่กันก็เท่านั้น


ส่วนบุคลากรหรือองค์ประกอบบนเวที ผมเห็นแล้ว “เกรดเอ” ทั้งนั้นนะครับ


“เอวัง” ฮะ นี่พูดจริง ๆ หลายคนอาจจะเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง แต่วันนี้เลยจุดสูงสุดของตัวเองมาแล้ว ในขณะที่อีกบางคนไม่ทราบเหมือนกันว่าเอาขึ้นไปยืนประดับฉากหลัง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ยังไง?


รวมความแล้วพรรคนี้ไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่นะครับ แต่เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก หมายความว่าแตกมาจากพลังประชารัฐ แตกมาจากประชาธิปัตย์ แตกมาจากพรรคเล็กพรรคย่อยต่าง ๆ มารวมกันอยู่บนเวที


เราไม่เห็นนักบริหาร เราไม่เห็นนักวิชาการ เราไม่เห็นเทคโนแครตหน้าตาใหม่ ๆ เข้ามาร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ เลย อย่างน้อยก็จนถึงวันนี้


การประกาศแต่งตั้ง 3 ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เสกสกล, ชัช เตาปูน หรือ คุณชุมพล กาญจนะ จากสุราษฎร์ธานี ภาพหนึ่งก็เกิดคำถามอยู่แล้วนะครับว่าตั้งมา จะเอาอะไร? ส่วนอีกภาพหนึ่งก็อธิบายกับประชาชนเหมือนกันว่า การเป็นนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับบุคคลที่มีศักยภาพในด้านต่าง ๆ เพียงพอที่จะเข้ามาร่วมงานกันในพรรคนี้ได้เลย


แต่ถึงกระนั่นก็ตามคนพวกนี้รู้ทั้งรู้นะครับว่าตั้งพรรคก็มีแต่แพ้เลือกตั้ง แต่ยังหวังเต็มร้อยที่จะเป็นแกนนำรัฐบาล จะผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี รวมไทยสร้างชาติเขาขอแค่เกิน 25 คนเท่านั้นล่ะครับ เสนอชื่อแคนดิเดตนายกได้ หลังจากนั้นไปหวังเอาคะแนนจาก 250 ส.ว. ซึ่งหมายมั่นปั้นมือกันเต็มที่


เกมแบบนี้อาจจะหวังความสำเร็จก็ได้ แต่ผมว่าไม่ง่ายนัก ลองคิดดูก็แล้วกันนะครับ หากผลเลือกตั้งออกมา สมมุติว่าเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้น้อยกว่า พล.อ.ประวิตร ได้น้อยกว่าภูมิใจไทย คิดหรือครับว่า พล.อ.ประวิตรและทีมงาน จะยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดดข้ามหัวไปเป็นนายกฯ ง่าย ๆ แค่คิดเท่านี้ก็ปวดหัวล่ะครับ


แต่ถ้าเกิดฟ้าผ่ากลางแดด พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ขึ้นมาจริง ๆ หลังการเลือกตั้งอย่าไปคิดนะครับว่าแกพอใจจะอยู่เพียงแค่ 2 ปีแค่นั้น เขาเตรียมการสับไพ่รอกันไว้แล้ว


กรรมาธิการพัฒนาการเมืองของ ส.ว. เขาตั้งวงศึกษาประชุมกันเพื่อพิจารณาหาข้อติดขัดปัญหาอุปสรรคจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สรุปออกมาได้ 10 กว่าประเด็น หนึ่งในนั้นก็คือมาตรา 158 ที่ว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พูดให้ชัดก็คือ ส.ว. ชุดนี้เข้าประชุมแล้วก็สรุปกันว่า การกำหนดให้คนเป็นนายกฯ ได้ไม่เกิน 8 ปี มีปัญหา ต้องแก้ไข!


บทบัญญัติกรอบเวลา 8 ปีนี้ เดิมมีไว้เพื่อสกัดคนจากพรรคเพื่อไทย ฝ่ายประยุทธ์และพวกต่างบอกว่าเป็นกรอบเวลาที่เหมาะสม แต่พอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาครบ 8 ปีจริง ๆ คนพวกนี้คือ ส.ว. ที่ประยุทธ์ตั้งไว้ กลับบอกว่ามีปัญหา!


สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเพื่อไทยไม่สามารถแลนด์สไลด์ได้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จะหักทุกด่านเข้าเป็นนายกฯ แล้วก็ใช้เสียง ส.ส. บวกกับ ส.ว. ที่ตัวเองตั้งไว้ แก้ไขกติกาให้อยู่ต่อไปได้อีกอย่างน้อย 4 ปี และไม่มีกรอบจำกัด


อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหลนะครับ เพราะว่า ส.ว. เขามีกรรมาธิการพิจารณาศึกษาเรื่องนี้ไว้เป็นหลักฐานแล้ว


หรือถ้า พล.อ.ประยุทธ์กับพวก จะเถียงว่าที่ผมพูดมันไม่จริง พูดมาให้ชัดเลยครับว่า การเลือกตั้งคราวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ 2 ปี ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น กล้าหรือเปล่า?


อีกเรื่องที่ต้องเล่าสู่กันฟังเหมือนกัน คือคณะกรรมาธิการส.ว.ชุดนี้ชี้ว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็เป็นปัญหา???


เรื่องนี้ก็เหมือนกับวาระ 8 ปีนั่นแหละครับ คือร่างไว้จะสกัดรัฐบาลของเพื่อไทย มีบทบัญญัติด้วยนะครับว่า ถ้ารัฐบาลจากการเลือกตั้งมาแล้วไม่เดินตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นความผิดตามกฎหมาย แต่รัฐบาลนี้อยู่จะครบ 4 ปีร่อมร่อ ถามหัวใจตัวเองว่าเคยเห็นความคืบหน้าของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นี่ไหม?


แต่กลไกตรวจสอบ เงียบสนิท!!! ไม่มีใครคิดที่จะลุกขึ้นมาสอบถามหรือดำเนินการตามกฎหมาย


ดังนั้น เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ คิดจะอยู่ต่อ ส.ว. ก็เลยต้องเตรียมทางออกไว้ให้ไงครับ จะแก้ไขยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อีกแล้ว!!!


ตั้งใจวางกับดักคนอื่น แต่เมื่อตัวเองมาเจอเอง ก็พยายามจะใช้อำนาจพวกมากลากไป แก้ไขกติกาเอาเปรียบเขาจนได้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลคนพวกนี้จะอยู่กันอีกนานและจะมีการแก้ไขกติกาเข้าข้างตัวเองโดยไม่แคร์สายตาใคร


พล.อ.ประยุทธ์ เคยเหยียดหยามนักการเมืองว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย เชื่อถือไม่ได้ แต่สิ่งที่ท่านและพวกกำลังทำ เลวร้ายกว่าหลายเท่า


ไม่มีนักการเมืองคนไหนเคยทำได้แบบนี้ ลองทักษิณกับพวกทำแบบที่ประยุทธ์ทำอยู่นี่จะเห็นขบวนการคนดีออกมาส่งเสียงเรียกร้องกดดันสารพัด จนกองทัพไม่มีทางเลือกต้องออกมาแอ่น แอน แอ๊น


เวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลนี้ไม่มีอะไรเป็นที่หวังแล้วล่ะครับ ฝ่ายบริหารเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องรัฐบาลปัจจุบันกันแล้ว เขาคิดแต่ว่าจะทำยังไงให้ได้เป็นรัฐบาลอีกรอบหน้า ส่วนสภาก็ล่มเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ และเชื่อว่าจะล่มแล้วล่มอีกอยู่อย่างนี้ มีที่จะเป็นชิ้นเป็นอันตามดูได้บ้างก็คือการอภิปรายตามมาตรา 152 ของฝ่ายค้าน ซึ่งถึงที่สุดรัฐบาลก็จะเดินหน้าอยู่ต่ออยู่ดี


สำหรับประชาชนระหว่างรอเลือกตั้งก็ดูกันไปเพลิน ๆ นะครับว่า พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร จะหักเหลี่ยมกันไปถึงขนาดไหน คนหนึ่งก็ “ทรงอย่างบ๊อง ติงต๊องอย่างบ่อย” ส่วนอีกคน “ทรงอย่างเป๋ เดินเซอย่างบ่อย” ไม่รู้เมื่อไหร่ทั้งคู่จะรู้สึกตัวนะครับว่า พังแล้ว เพราะสำหรับผม คณะนายทหาร 3ป ที่เข้ามายึดอำนาจและสืบทอดอำนาจมาจนถึงปัจจุบัน พังไม่มีชิ้นดีละครับ ลุง!!!


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #เพื่อไทย #ประยุทธ์จันทร์โอชา