วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2566

ผบ.ตร. ฟันตร.เอี่ยวคดีตู้ห่าว พ้นราชการ 6 นาย แจงปมรถตู้หลานนายกฯ 33 คัน

 


ผบ.ตร. ฟันตร.เอี่ยวคดีตู้ห่าว พ้นราชการ 6 นาย แจงปมรถตู้หลานนายกฯ 33 คัน


วันที่ 12 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีตู้ห่าวว่า ขณะนี้การสอบสวนเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะสรุปสำนวนเสนออัยการสูงสุดภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งอยู่ในกรอบระยะเวลาที่อัยการสูงสุดจะต้องเสนอส่งให้ศาลภายใน 20 มกราคม 2566


ทั้งนี้เราได้ร่วมกันสอบสวนร่วมกับอัยการอยู่แล้ว โดยมีคณะของอัยการสูงสุดมาให้คำแนะนำหรือดูแล ทางตำรวจจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ส่วนตัวมั่นใจในพยานหลักฐานว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะลงโทษผู้กระทำผิดในคดีนี้ได้ ซึ่งมีผู้ต้องหาหลัก 37 คน จับกุมได้ 19 คน หลบหนี 18 คน ไม่รวมคดีเสพต่าง ๆ อีก 70 กว่าคน


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กล่าวต่อว่า มั่นใจว่ามีหลักฐานทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานอย่างอื่นต่าง ๆ จำนวนมาก ได้สอบปากคำพยานไม่ต่ำกว่า 400 ปาก


ส่วนกรณีที่มีตำรวจเข้าไปพัวพันในเรื่องนี้ด้วย ทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในคดีนี้จะแบ่งเป็นคดีหลักคือคดีฟอกเงิน ซึ่งเป็นพ.ต.อ.หญิง ภรรยาของนายตู้ห่าว เกี่ยวข้องกับคดีหลักคือคดีฟอกเงิน ส่วนอีก 5 นาย ทั้ง รองผบก.น.6, พลขับ, รองผกก.จร.สน.ลาดพร้าว, และพนักงานสอบสวนสน.ยานนาวา 2 นาย รวมทั้งหมด 6 นาย ได้มีการตั้งคณะกรรมการวินัยร้ายแรงไปแล้ว และส่งสำนวนการดำเนินคดีไปที่ป.ป.ช. โดยเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และอยู่ในอำนาจของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วทั้งหมด 6 นาย


เมื่อถามว่าทั้งหมดจะสามารถที่จะอุทธรณ์ได้หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องไปสู้กันทางคดีต่อไป เราถือว่าเป็นคดีสำคัญและอาจจะมีความเกี่ยวเนื่องกันในคดีหลักคือคดีฟอกเงิน ส่วนอีก 5 นายเป็นคดีต่อตำแหน่งหน้าที่ เรียกรับสินบน ในส่วนอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็ได้สั่งให้ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ส่วนอำนาจของตร.คือภรรยาของนายตู้ห่าว ทางตร.ก็ได้สั่งให้ออกจากราชการแล้วเช่นกัน ส่วนนายตู้ห่าวได้แจ้งข้อหาฟอกเงินแล้ว เพราะจะสรุปสำนวนส่งอัยการในเร็ว ๆ นี้


ส่วนคดีจินหลิงเป็นคดีสมคบ ยาเสพติด คดีองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เราได้ดูหลักฐานความเกี่ยวเนื่องย้อนไปถึงปี 2563 ซึ่งเรื่องรถทัวร์เป็นก่อนกระทำความผิดไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยตรง แต่เราจะประสานข้อมูลกับป.ป.ส. เพิ่มเติม ในเรื่องความเกี่ยวเนื่องของทรัพย์สิน และปปง.เรื่องเส้นทางการเงิน ถ้ามีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป


เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อ ว่าคดีนี้จะมีมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวตอบว่า ไม่มีแน่นอน เพราะเราดำเนินการอย่างชัดเจน เพียงแต่จะไม่บอกทุกขั้นตอน เพระเกรงว่าผู้ที่จะวางแผนต่อสู้คดีเขาจะรู้ตัว แต่ตอนนี้ถือว่าใกล้เวลาที่จะต้องส่งสำนวนแล้ว จึงมาแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ


ส่วนประเด็นรถทัวร์ที่เป็นของหลานนายก ทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า กรณีนี้ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นไปแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นได้ข้อมูลจากป.ป.ส.มาส่วนหนึ่งว่ารถทัวร์ที่หลานนายกไปทำธุรกรรมการเช่าซื้อ เรื่องการทำธุรกิจท่องเที่ยวมีมาตั้งแต่ปี 2562 ประมาณ 33 คัน จากจำนวนหลายร้อยคันที่นายตู้ห่าวได้ทำธุรกิจ


ที่มา : มติชนออนไลน์


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทุนจีนสีเทา #ตู้ห่าว