“แพทองธาร”
ย้ำใช้เทคโนโลยียกระดับชีวิตเกษตรกร พร้อมเป็นเซลล์แมนเปิดตลาดต่างประเทศ
พลิกชีวิตเกษตรกรไทย “ชาวบ้าน” โอด “ยาเสพติด” ระบาดหนักคุกคามชีวิตลูกหลาน
ฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯทักษิณ” หวังช่วยแก้วิกฤต
15
มกราคม 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม
พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด
ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร , ส.ส.อุดรธานี
, ส.ส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
ร่วมกันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา บ้านโพนสวรรค์
ตำบลโคกกลาง อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ของนายอนันต์ ศรีพันธุ์
ส.ส.อุดรธานี
โดยประชาชนจำนวนมากได้ให้การต้อนรับและให้กำลังใจนางสาวแพทองธารอย่างอบอุ่น
โดยได้มอบผ้าขาวม้าพร้อมมัดเอวให้นางสาวแพทองธารและแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ร่วมลงพื้นที
ขณะที่ประชาชนได้สะท้อนถึงสถานการณ์ปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดอย่างหนักในพื้นที่
คุกคามลูกหลานและเยาวชน สร้างความกังวลให้ผู้ปกครอง
จึงได้ฝากนางสาวแพทองธารและพรรคเพื่อไทยช่วยหาหนทางผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
อีกทั้งยังฝากความคิดถึงไปถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
ที่เคยช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดได้เป็นผลสำเร็จและยังคงหวังที่จะให้กลับมาช่วยแก้ไขปัญหา
สำหรับบรรยากาศการล้อมวงพูดคุยกับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา
ได้สะท้อนปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างหนัก ที่บางช่วงขายได้ในระดับ 5 กิโลกรัม 100
บาท ขณะที่ในอดีตเคยขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัม 80-100 บาท
อีกทั้งยังประสบปัญหาราคาปุ๋ยและปัจจัยการผลิตที่พุ่งสูง
ส่งผลต่อการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของเกษตรกร พร้อมฝากให้พรรคเพื่อไทย
หากได้เป็นรัฐบาลอีกครั้งให้เร่งพิจารณาเร่งแก้ไขปัญหา
โดยนางสาวแพทองธาร
กล่าวว่า ปัญหาพี่น้องเกษตรกรเป็นวาระหลักของพรรคเพื่อไทย
ซึ่งเราเห็นว่าจำเป็นอย่างต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพื่อพัฒนาผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต
อีกทั้งเทคโนโลยียังจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้นทั้งระบบ
นอกจากนี้ยังจะช่วยพี่น้องด้วยการเปิดตลาดในต่างประเทศ จะขออาสาเป็นเซลล์แมน
เพื่อนำสินค้าการเกษตรไปขายต่างประเทศ หรือคือการมองหาตลาดใหม่ๆ ให้เกษตรกร
เพื่อรับประกันว่าเมื่อได้ผลผลิตแล้วจะต้องขายได้อย่างแน่นอน
ซึ่งปัญหาราคายางพารานั้นในอดีตเราเคยทำได้ ยกระดับราคาตั้งแต่ยังอยู่ 20
บาทจนกระทั่งราคาถึง 100 บาทต่อกิโลกรัมมาแล้ว
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย