วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2566

“ชูวิทย์” อยากให้ “รังสิมันต์ โรม” อภิปราย “ทุนจีนสีเทา” ในสภา และควรหาวิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

 


“ชูวิทย์” อยากให้ “รังสิมันต์ โรม” อภิปราย “ทุนจีนสีเทา” ในสภา และควรหาวิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก


วันนี้ (10 ม.ค. 2566) ที่ โรงแรม เดอะ เดวิส กรุงเทพฯ สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดเผยถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคไทยศรีวิไลย์จะเป็นพรรคแรกที่นำประเด็นทุนจีนสีเทาเข้าอภิปรายในสภา ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับรถบัสหนีภาษี โดยจะขอหลักฐานเพิ่มเติมกับนายชูวิทย์ แต่ต้องรอดูว่านายชูวิทย์ จะให้หลักฐานเพิ่มเติมมากน้อยเพียงใด  เนื่องจาก นายชูวิทย์ เคยกล่าวไว้ว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการเมือง


นายชูวิทย์ กล่าวว่า การที่นายมงคลกิตติ์ บอกว่าจะนำเรื่องทุนจีนสีเทาเข้าไปอภิปรายในสภานั้น ตนมองว่าเป็นการเรียกราคา นายมงคลกิตติ์ จะอภิปรายได้ถึง 5 นาทีหรือไม่ ตนมองว่าคนนี้ไม่ไหว การอภิปรายในสภาไม่ใช่เพียงแค่ลีลาอย่างเดียว แต่ต้องมีข้อมูลชัดเจน โดยข้อมูลที่ตนพูดตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานี้ คนที่จะนำไปอภิปรายในสภาจะต้องมีความสามารถ ต้องย่อเนื้อหาให้ประชาชนเข้าใจได้ในเวลาจำกัน ให้เห็นว่าสิ่งนี้คือข้อบกพร่องของรัฐบาล ซึ่งหากนายมงคลกิตติ์ มาขอข้อมูลจากตน ตนไม่ให้ แต่หากเป็นพรรคก้าวไกลมาขอไปอภิปราย ก็มองว่าน่าสนใจ โดยตนมองว่านายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ก็ไม่เลว น่าสนใจ เพราะน่าจะสามารถโยงใยข้อมูลเกี่ยวกับทุนจีนสีเทาของตนเองได้


สาเหตุที่มองว่า “โรม” เหมาะสมที่จะนำเรื่องทุนจีนสีเทาเข้าไปอภิปรายนั้น เพราะเขาเคยอภิปรายเรื่องตำรวจมาก่อน รวมทั้งพูดเรื่องตั๋วช้าง และเป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งคิดว่าเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ส่วนหากเป็นคนรุ่นเก่าอย่าง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็ได้เช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ตนจะอยากให้นำเรื่องนี้เข้าไปสู่การอภิปรายในสภา เพื่อให้ฝ่ายค้านทุกคนช่วยกัน เพราะหลังจากหมดประเด็นของนายตู้ห่าวแล้ว จะมีนายตู้อื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย หลังจากนี้ตนคิดว่าควรหาวิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อีก นายชูวิทย์ กล่าวในที่สุด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ #ทุนจีนสีเทา