วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2566

ยาใจ ทะลุฟ้า ชวนร่วมกิจกรรม ยืน หยุด ขัง 112 ชั่วโมง ที่ลานหน้าหอศิลป์ เพื่อยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง ของ ตะวัน-แบม เพื่อนที่อดน้ำอดอาหารและยืนหยัดต่อสู้ในเรือนจำ

 


ยาใจ ทะลุฟ้า ชวนร่วมกิจกรรม ยืน หยุด ขัง 112 ชั่วโมง ที่ลานหน้าหอศิลป์ เพื่อยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง ของ ตะวัน-แบม เพื่อนที่อดน้ำอดอาหารและยืนหยัดต่อสู้ในเรือนจำ

 

วันนี้ (22 ม.ค. 66) บรรยากาศกิจกรรม "ยืน หยุด ขัง" ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ที่เริ่มตั้งแต่เวลา 01.12 น. ของวันที่ 22 และจะไปสิ้นสุดวันที่ 26 มกราคม เวลา 17.12 น. สำหรับช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีสมาชิกกลุ่มทะลุ อาทิ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่, ยาใจ ทะลุฟ้า และประชาชนต่างสลับสับเปลี่ยนกันมาร่วมกิจกรรม

 

ยาใจ กล่าวชวนร่วมกิจกรรม ระบุว่า ภายใต้ความเป็นห่วงตะวันและแบมเราต้องยืนหยัดใน 3 ข้อเรียกร้องของทั้งสองคน คือ 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2. ปล่อยนักโทษการเมือง 3. ยกเลิก 112

 

ยาใจเล่าว่า บรรยากาศเมื่อคืนที่ทะลุฟ้ามาเริ่มกางเต็นท์และเริ่มกิจกรรม ยังไม่มีอะไรขัดข้องหรือเจ้าหน้าที่มาขัดขวาง ทำให้สถานการณ์ยังราบรื่นไปได้ด้วยดี

 

ยาใจกล่าวต่อไปว่า รู้สึกเป็นห่วงตะวันและแบม ที่อดอาหารอดน้ำ ซึ่งตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ภายใต้ความเป็นห่วงก็ยังยืนยันในข้อเรียกร้องเพื่อให้ศาลและผู้ปกครองในประเทศได้เห็น เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทุกคน

 

สำหรับสถานการณ์บนท้องถนนในตอนนี้ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ที่จะสามารถกดดันกระบวนการยุติธรรม ศาลหรือผู้พิพากษาเองควรใช้กระบวนการยุติธรรมตรงนี้สร้างความเป็นธรรม หรือคืนสิทธิประกันตัวให้กับเพื่อนที่ถูกจับตั้งแต่ปี 64 แม้บางคนก็ถูกตัดสินพิพากษาไปแล้ว แต่เราก็ต้องยืนยันว่าการออกมาต่อสู้ทางการเมือง เราเป็นนักโทษทางการเมืองเท่านั้น อยากจะเรียกร้องถึงศาลและผู้พิพากษาให้เห็นเจตนาอันบริสุทธิ์ของประชาชน ที่ได้ออกมาเรียกร้องชีวิตที่ดีกว่าตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ยาใจ กล่าว

 

สถานการณ์ตอนนี้เราไม่อาจเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมได้ จะมีความกังวลทุกครั้งที่มีการเรียกไต่สวนถอนประกัน หรือการสั่งฟ้อง ซึ่งพวกเราก็โดนกันมาตั้งแต่ปี 64 ด้วยรูปแบบที่จะมาจัดการกับพวกเราก็คือกระบวนการทางกฎหมาย และการสร้างบรรยากาศ ทางสังคมไม่ให้ออกมาเรียกร้อง ยิ่งช่วงนี้จะเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งอีก บรรยากาศการจำกัดการลงท้องถนนก็จะออกมาเรื่อย ๆ แต่เราก็จะต้องยืนยันในการเรียกร้องและสิทธิการประกันตัวของเพื่อนเรา

 

ส่วนประเด็นที่มีการไปฟ้องมาตรา 112 นักกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ยาใจ มองว่า นี่ก็เป็นการทำให้การถูกดำเนินคดีทุกวันนี้คือช่องโหว่ทางกฎหมาย เราปฏิเสธการถูกดำเนินคดีแบบนี้ไม่ได้ เราจึงต้องยืนยันในการแสดงออกของเรา ส่วนคนที่เห็นต่าง ไม่ควรใช้วิธีการกลั่นแกล้งกันแบบนี้ ควรมีพื้นที่ตรงกลางหรือเวทีแลกเปลี่ยนข้อสงสัยหรือข้อคิดเห็นที่ไม่ตรงกันจะดีกว่า ยาใจกล่าว ทิ้งท้าย

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR

#ตะวัน #แบม #ยกเลิก112 #ยกเลิก116