"โมกหลวงริมน้ำ" เผยบันทึกจากห้องพิจารณาคดีศาลอาญา "เก็ท โสภณ" ถูกนำตัวใส่โซ่กุญแจล่ามข้อเท้า สืบพยานในคดีชุมนุม #ม็อบ2พฤษภา64
วานนี้ (18 ม.ค. 66) เพจเฟสบุ๊ค #โมกหลวงริมน้ำ เผยแพร่บันทึกจากผู้สังเกตการณ์ในห้องพิจารณาคดีที่ 905 สืบพยานคดี #REDEM โดยมีรายละเอียดดังนี้
9.00 น. เป็นเวลาที่รถขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพจะมาถึงศาลอาญารัชดา เพื่อไต่สวนคดีความที่หลากหลายกัน 1 ในนั้นคือคดี “ผู้เห็นต่างทางการเมือง” ในห้องพิจารณาคดีที่ 905 ผู้สังเกตการณ์ (ต่อไปนี้จะใช้คำว่า “เรา”) และพ่วงตำแหน่งผู้ใกล้ชิด นั่งรอเวลาที่ “เก็ท” จะถูกเบิกตัวมาที่ห้องพิจารณาคดี ด้วยหัวใจที่เป็นกังวลต่อการกลัวภาพที่เห็นว่าเก็ทจะถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน
เมื่อเวลา 9.30 น. ระหว่างที่รอ เราได้ยินเสียงคล้ายพวงกุญแจถูกลากมาบนพื้นตลอดทางจนถึงห้องที่ 905 เก็ทได้ถูกนำตัวมาที่ห้องพิจารณาคดีที่ 905 พร้อมกับภาพที่ทำให้เรารู้สึกตัวชา และไม่กล้ามองเก็ท ทำให้เราได้แต่มองไปทิศทางอื่น เพื่อให้ความรู้สึกเจ็บปวดต่อภาพที่เราเห็นน้อยลง เก็ทมาพร้อมผู้คุม 2 คน ที่ปักคำว่าทัณฑสถานบนเครื่องแบบสีกรมท่า เก็ทถูกตัดผมให้เกรียน ใส่ชุดสีส้มอิฐของผู้ถูกคุมขัง และแขนเสื้อถูกปักด้วยผ้าสีแดงบนแขนเสื้อ พร้อมกับโซ่กุญแจข้อเท้าที่ล่ามข้อเท้าบาง ๆ ของเก็ทไว้
เก็ทค่อย ๆ เดิน ช้า ๆ ลากเท้าทีละนิด ๆ เพราะเดินไม่สะดวก ประกอบกับสายโซ่กุญแจข้อเท้าที่สั้น มุ่งตรงมาหาเราที่ไม่กล้าแม้แต่จะมองตาเก็ท และพยายามก้มหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้เก็ทรู้สึกเป็นห่วงเราที่รอเก็ทอยู่ข้างนอกเรือนจำ ระหว่างที่เก็ทมาถึงตรงที่เรานั่ง เก็ทได้แตะไหล่เราเบา ๆ พร้อมคำทักทายที่สดใส และรอยยิ้มที่มอบให้เราเสมอ เราได้ถามไถ่สารทุกข์กันก่อนที่จะเริ่มไต่สวน เก็ทบอกว่า “อันนี้ (พร้อมชี้ให้เห็นถึงโซ่กุญแจข้อเท้าที่ล็อคข้อเท้าอยู่) เจ็บมากเลย” ทำให้เราสังเกตเห็นว่าที่ข้อเท้าของเก็ทแดงจนถลอกไปหมด เก็ทพยายามเลื่อนให้กุญแจข้อเท้าอยู่ให้สูง เพราะจะได้ไม่ไปขัดข้อเท้าให้เกิดเป็นแผลเพิ่ม
“เขาไม่ให้ใส่ถุงเท้า แล้วก็ไม่ให้เชือกรั้งยกขึ้นเวลาเดิน มันเจ็บจริง ๆ" เก็ทบ่นให้ฟังพร้อมกับทำปากขมุบขมิบใส่เราว่า “ไม่อยากใส่เลย คุณเอามันออกให้ได้มั้ย” พร้อมกับแอบยิ้มทะเล้นมุมปากตามสไตล์ของเก็ท ที่มักจะยิ้มให้คนรอบข้างเสมอ
เราถามเก็ทว่าทำไมเก็ทถึงมีผ้าแดงปักที่แขนเสื้อ แล้วทำไมคนอื่นที่มาจากเรือนจำเหมือนกันไม่มี เก็ทบอกเราว่า “ปกติคนปักจะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง พวกเขามองว่าคดีของผมร้ายแรง และได้รับความสนใจ ผมเลยเป็นผู้ที่ถูกปักผ้าแดงที่มีน้อยนิด ในเรือนจำก็มีเสี่ย ป. นะ ที่เปิดพนันออนไลน์ก็ถูกปัก” เมื่อเราได้ฟังดังนี้ เราได้แต่คิดวนเวียนในใจว่า เพียงเห็นต่างพวกเราต้องมีความผิดกันร้ายแรงขนาดนี้เลยหรือ ?
ในระหว่างพิจารณาคดี ผู้คุมอนุญาตให้เก็ทแตะมือเราไว้ได้ตลอดการพิจารณา เพราะเก็ทบอกพวกเขาไปว่ากลัวว่าจะไม่ได้เจอเราอีก และเมื่อสืบพยานเสร็จ เราได้พูดคุยกันเล็กน้อย พร้อมกับเก็ทที่เดินกลับมาบีบมือเราว่า “คุณอยู่ข้างนอกก็เข้มแข็งไว้นะ” จากนั้นเก็ทก็ร่ำลาเพื่อน ๆ ที่มาให้กำลังใจ พวกเราทุกคนกอดเก็ทไว้แน่นมากก่อนที่เก็ทจะไป
เก็ทต้องกลับไปที่ห้องขังใต้ถุนศาลเมื่อสืบพยานเสร็จ เราและเพื่อน ๆ ใช้สายตามองส่งเก็ท อยู่ด้านหลัง ภาพที่เราเห็นคือเก็ทที่หันหลังให้ มีรอยแดงจากการใส่กุญแจทื่ข้อเท้าเต็มไปหมด ก้าวได้ทีละก้าวอย่างช้า ๆ ขนาบข้างด้วยชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ในชุดทัณฑสถาน จนเก็ทและผู้คุมลับสายตาเราไป เราถึงรู้สึกได้ถึงขอบตาที่เริ่มชื้นขึ้นอีกครั้ง ก่อนน้ำตาจะไหล เรานึกถึงคำพูดเก็ทก่อนจะถูกนำตัวไปที่เรือนจำในวันที่ 9 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา
เก็ทบอกเราว่า “ร้องไห้ทำไม เดี๋ยวผมก็ออกมาแล้ว เข้มแข็งไว้นะ ไม่ค่อยอยากให้ร้องไห้แล้ว” พร้อมกับลูบหัวเราเพื่อร่ำลาก่อนผู้คุมจะนำตัวเก็ทออกไป เมื่อเรานึกถึงคำนี้ ทำให้เราต้องพยายามเข้มแข็งอยู่ข้างนอกตลอดเวลา สู้ไปพร้อมกับเก็ทที่อยู่ข้างใน เก็ทกลับไปที่เรือนจำแล้ว แต่เสียงกุญแจข้อเท้าที่ลากพื้นยังติดวนเวียนอยู่ในหัว และใจของเราอยู่เลย...
ปีนี้ ความอยุติธรรมต้องได้รับการเปลี่ยนผ่าน
เพียงเห็นต่าง พวกคุณถึงกับต้องคุมขัง ถูกล่ามโซ่ ต้องทำลายกันเลยหรือ ?
สมควรแล้วหรือที่จะใส่โซ่ตรวนผู้เห็นต่าง ?
ผู้บันทึก : ปลาหมึกย่าง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์