วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2566

ศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน 20 วัน “สมบัติ ทองย้อย” คดีหมิ่น “ประยุทธ์”

 


ศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน 20 วัน “สมบัติ ทองย้อย” คดีหมิ่น “ประยุทธ์”


วันที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมิ่นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีนายสมบัติ ทองย้อย วัย 52 ปี จำเลยซึ่งถูก อภิวัฒน์ ขันทอง ประธานกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แจ้งความกล่าวหาว่าได้โพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กมีเนื้อหาดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะเจ้าพนักงาน จำนวน 2 โพสต์ (ในช่วงเดือน มิ.ย. 2562 และ ส.ค. 2563)


ความผิดในฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานฯ, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 328 และตัดต่อภาพทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียงฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 16


ระหว่างกระบวนการสืบพยาน ศาลสั่งงดสืบพยานปาก พล.อ.ประยุทธ์ ผู้เสียหาย เห็นว่าไม่เป็นที่แน่นอนว่าพยานจะสามารถมาเบิกความได้


ในนัดตรวจพยานหลักฐานเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 อัยการโจทก์แถลงติดใจสืบพยานทั้งหมด 5 ปาก ได้แก่ ผู้กล่าวหา, พยานคนกลางผู้ได้อ่านข้อความตามฟ้อง, เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบการใช้บัญชีเฟซบุ๊กของจําเลย, พนักงานสอบสวน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นผู้เสียหายของคดีนี้


ฝ่ายจำเลย ทั้งทนายและจำเลยร่วมกัน แถลงถึงแนวทางการต่อสู้คดีว่าจำเลยโพสต์ข้อความตามฟ้องจริง แต่ข้อความดังกล่าวไม่เป็นการหมิ่นประมาทและดูหมิ่น และในการต่อสู้คดีจะนำสืบพยานฝ่ายจำเลยรวม 4 ปาก ประกอบด้วย จำเลย, ผู้รวบรวมสถิติจาก iLaw และนักวิชาการ 2 ราย ซึ่งจะให้ความเห็นเรื่องอำนาจของประชาชนในการตั้งคำถาม กับบทบาทในการตรวจสอบในการใช้อำนาจของนายกฯ และการฉ้อฉลเชิงอำนาจ


ทั้งนี้ หลังจากที่ศาลเจ้าของสำนวนทำการปรึกษากับอธิบดีศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว ก็ได้มีคำสั่งไม่ให้ออกหมายเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ให้ส่งเป็นหนังสือเชิญแจ้งให้มาเป็นพยานแทน


ในระหว่างที่มีการสืบพยาน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้เสียหาย มิได้มาเบิกความต่อศาลตามที่ได้รับหนังสือเชิญแจ้ง โดย อภิวัฒน์ ขันทอง ซึ่งเป็นผู้แจ้งความในคดีได้แถลงต่อศาลว่า เหตุที่ผู้เสียหายไม่สามารถมาเบิกความต่อศาลได้เนื่องจากไปปฏิบัติราชการอยู่ต่างประเทศ คือไปเข้าร่วมประชุมเวทีสุดยอดผู้นำอาเซียน - สหภาพยุโรป ที่ประเทศเบลเยี่ยม


จากนั้นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจึงเห็นสมควรให้งดสืบพยานปากผู้เสียหาย โดยระบุพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานไม่สามารถมาเบิกความได้ ประกอบกับคดีนี้จำเลยยังถูกคุมขังอยู่ ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และหากเลื่อนนัดออกไปก็ไม่เป็นที่แน่นอนว่าพยานจะสามารถมาเบิกความได้ จึงเห็นสมควรให้งดสืบพยานปากดังกล่าว


ศาลได้ลงคำพิพากษาตัดสินจำคุกนายสมบัติ ทองย้อย 8 เดือนกับอีก 20 วัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #หมิ่นประยุทธ์