วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2566

“ณัฐวุฒิ” ประกาศท้า! “ประยุทธ์” ถ้าได้เป็นนายกฯ ต่อ กล้ามั้ย? พูดให้ชัด! ปมแก้วาระ 8 ปี

 


“ณัฐวุฒิ” ประกาศท้า! “ประยุทธ์” ถ้าได้เป็นนายกฯ ต่อ กล้ามั้ย? พูดให้ชัด! ปมแก้วาระ 8 ปี

 

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุดเต้น EP.65 ซึ่งเผยแพร่ทางยูทูปช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official ตอน “ฟันธง ! ถ้าได้เป็นนายกฯ ต่อแก้วาระ 8 ปีแน่ ไม่จริงก็ปฏิเสธมา ณัฐวุฒิท้า ประยุทธ์กล้ามั้ย” โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า

 

ส.ว. 2 คน ในกรรมาธิการพัฒนาการเมืองออกมารับตรงกันในประเด็นที่ผมเปิดไว้ เรื่องเตรียมจะแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระนายกรัฐมนตรี 8 ปี พูดตรงกันด้วยว่าหากนายกฯ เป็น “คนดี” ก็ควรจะอยู่ต่อได้ยาว ๆ

 

สิ้นสงสัยแล้วล่ะครับว่าคิดจะทำกันแบบนี้แน่ ๆ แม้ภายหลังจะมีส.ว.คนอื่นพยายามกลบเกลื่อนไกล่เกลี่ยว่าเป็นเพียงแค่เรื่องที่กำลังศึกษากันเท่านั้น ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

 

แต่ถ้ามองย้อนหลังแผนประทุษกรรมคนพวกนี้อะไรที่จะเป็นความอัปยศของระบอบประชาธิปไตยแล้ว พวกเขาจะทำ! มีการตีไพ่รอไว้แบบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องให้ส.ว.มีอำนาจโหวตนายกฯ หรืออื่น ๆ มีข้ออ้างด้วยว่าจะแก้ได้ยังไง ในเมื่อสภากำลังจะหมดวาระ

 

ผมไม่ได้หมายความว่าพวกคุณจะแก้เดี๋ยวนี้ แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หลังการเลือกตั้ง ฟันธง! ว่าสภาชุดหน้าหยิบเรื่องนี้ไปแก้ไขให้อยู่ยาวอย่างแน่นอน ใครจะปฏิเสธรับฟังไม่ได้ทั้งนั้นล่ะครับ มีคนเดียวที่คนจะรอฟังคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล้าออกมาพูดให้ชัดนะครับ ว่าถ้าเป็นนายกฯ อีกที ไม่มีแผนจะแก้กติกาให้อยู่ยาว ๆ ผมท้า ท่านกล้ามั้ยล่ะ?

 

ส่วนการเมืองหลังจากนี้ในซีกรัฐบาล เราก็จะเห็นแต่ดราม่ารายวันระหว่าง “รวมไทยสร้างชาติ” กับ “พลังประชารัฐ” นะครับ อำนาจได้กัดกินความเป็นพี่น้องของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ไปเสียสิ้นแล้วนะครับ หลังจากนี้จะมีแต่เรื่องผลประโยชน์ จะมีแต่เรื่องจังหวะก้าวทางการเมือง

 

พอ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดตัวเข้า “รวมไทยสร้างชาติ” หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ก็ออกจดหมายเปิดใจสะท้อนความรู้สึกสะท้อนตัวตนออกมา แล้วเจ้าตัวก็เดินทางไปพะเยานะครับ มีภาพ ร.อ.ธรรมนัส ผู้ต้องหาคดีพยายามล้มนายกรัฐมนตรีคุกเข่ามอบพวงมาลัย คุณวิรัตน์ รัตนเศรษฐ ประกาศว่านี่คือภาพระหว่าง “พ่อกับลูก” ที่ผูกพันกันมายาวนาน บีบหัวใจ พล.อ.ประยุทธ์ ตรง ๆ อ่ะครับ เพราะรู้ก็รู้กันอยู่ว่า “ประยุทธ์” กับ “ธรรมนัส” เขาเห็นเงากันยังไม่ได้เลย

 

รุ่งขึ้นเช้า พล.อ.ประวิตร ไม่เข้าประชุมครม. ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ใช้มติครม. ตั้งคนของ “รวมไทยสร้างชาติ” ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มอีก 2 คน ทั้งที่เวลาทำงานอาจจะเหลือไม่ถึง 1 เดือนก็ได้หากมีการยุบสภา

 

มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร พยายามจะผลักดันเม็ดเงินไปถึงมือประชาชนผ่านบัตรประชารัฐ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ยอมผ่าน ไม่ยอมอนุมัติให้ หากเปลี่ยนเป็นบัตรรวมไทยสร้างชาติ เผลอ ๆ อาจจะตกลงกันได้ ให้มันรู้กันไปซิครับว่าไผเป็นไผ ชั่วโมงนี้ “รวมไทยสร้างชาติ” เขาใหญ่ “พลังประรัฐ” ถอยไปก่อน!

 

เรื่องแบบนี้ “นักเลง” หรือ “ชายชาติทหาร” เขาไม่ทำกันนะครับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จากแคนดิเดตของ “พรรคพลังประชารัฐ” อยู่ดี ๆ ไปสมัครเข้า “รวมไทยสร้างชาติ” พรรคซึ่งตัวเองแอบให้ลูกน้องไปตั้งไว้ หลังจากนั้นก็ตั้งแต่คน “รวมไทยสร้างชาติ” มาดำรงตำแหน่งโน่นนั่นนี่ อะไรที่ “พลังประชารัฐ” ขอ ก็ทำเฉย ๆ ซะอย่างนั้น แบบนี้มีแต่พวกกะล่อนคบไม่ได้เขาทำกันครับ!

 

ข่าวการยุบสภาว่าอาจจะเกิดขึ้นเร็วก็เริ่มดังหนาหูขึ้นมาอีกแล้วนะครับ แม้ว่าคุณธนกร  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะบอกว่ารอหลังหมดวาระของสภา28 กุมภาพันธ์ จะมีการยุบแน่ ๆ

 

แต่ผมไม่เห็นเหตุผล ไม่เห็นประโยชน์ว่าจะรอหลังหมดวาระสภาทำไม ก็ในเมื่อ ณ ปัจจุบัน สภามันทำงานไม่ได้ มันล่มรายวัน นัดประชุมวันไหนล่มวันนั้นอยู่แล้ว ดังนั้น การอ้างรอหมดวาระสภาจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เชื่อถือได้ เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการยุบสภาก่อนหมดวาระด้วยซ้ำไป

 

อย่าลืมนะครับ ว่าญัตติสำคัญเพียงเรื่องเดียวที่คาอยู่ และถ้าสภายังไม่หมดวาระ ยังไงก็ต้องเกิดขึ้น คือการอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้านตามมาตรา 152 แม้ว่าจะไม่มีผลล้มรัฐบาลแน่ ๆ เนื่องจากไม่มีการยกมือโหวตก็ตาม แต่คราวนี้จะเป็นการอภิปรายครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ไม่มี ส.ส. ในพรรคของตัวเองคอยปกป้องดูแล ก็คน “พรรคพลังประชารัฐ” ใครเขาจะยกมือช่วยล่ะครับ

 

ส่วนลูกน้องของ พล.อ.ประยุทธ์ จำนวนหนึ่งก็ลาออกจาก ส.ส. ไปแล้ว ที่ยังตกค้างอยู่ในสภาก็ไม่ใช่คนที่จะลุกขึ้นมาสู้รบตบมืออะไรกับฝ่ายค้านเขาได้ อย่าทำเป็นเล่นไปนะครับ เรื่องนี้อาจจะกำลังบีบหัวใจนายกฯ อยู่ก็ได้ เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรีที่นั่งโดดเดี่ยวให้ฝ่ายค้านรุมกระหน่ำอยู่ 2 วัน ไม่มีพรรคพวกส.ส.พรรคไหนคอยช่วยเหลือเนี่ย เสียวไม่ใช่น้อยนะครับ

 

“ภูมิใจไทย” ที่เขาเคยช่วย เที่ยวนี้ผมว่าเขาไม่ช่วยล่ะ เพราะว่าเดี๋ยวก็ยุบสภา ต้องไปแข่งกันแล้ว ส่วน “ประชาธิปัตย์” เขารักษาตัวรอดเป็นยอดดีมาแต่ไหนแต่ไร

 

ดังนั้น ถ้าจะมีการยุบสภาเร็ว ๆ นี้ เหตุผลสำคัญอาจเป็นเพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยากเผชิญหน้ากับการอภิปรายของฝ่ายค้านในสภาพโดดเดี่ยว ถ้าเป็น “โดดเดี่ยวผู้น่ารัก” ก็ไปอย่างนะครับ แต่ผมว่าเป็น “โดดเดี่ยวผู้น่าเกลียดน่าชัง” ในสายตาประชาชน!

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #เพื่อไทย #ประยุทธ์