“ณัฐวุฒิ”
ประกาศท้า! “ประยุทธ์” ถ้าได้เป็นนายกฯ ต่อ กล้ามั้ย? พูดให้ชัด! ปมแก้วาระ 8 ปี
เมื่อวันที่
17 มกราคม 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
ได้กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุดเต้น EP.65 ซึ่งเผยแพร่ทางยูทูปช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official ตอน “ฟันธง ! ถ้าได้เป็นนายกฯ ต่อแก้วาระ 8 ปีแน่ ไม่จริงก็ปฏิเสธมา
ณัฐวุฒิท้า ประยุทธ์กล้ามั้ย” โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า
ส.ว.
2 คน ในกรรมาธิการพัฒนาการเมืองออกมารับตรงกันในประเด็นที่ผมเปิดไว้
เรื่องเตรียมจะแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระนายกรัฐมนตรี 8 ปี พูดตรงกันด้วยว่าหากนายกฯ
เป็น “คนดี” ก็ควรจะอยู่ต่อได้ยาว ๆ
สิ้นสงสัยแล้วล่ะครับว่าคิดจะทำกันแบบนี้แน่
ๆ แม้ภายหลังจะมีส.ว.คนอื่นพยายามกลบเกลื่อนไกล่เกลี่ยว่าเป็นเพียงแค่เรื่องที่กำลังศึกษากันเท่านั้น
ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
แต่ถ้ามองย้อนหลังแผนประทุษกรรมคนพวกนี้อะไรที่จะเป็นความอัปยศของระบอบประชาธิปไตยแล้ว
พวกเขาจะทำ!
มีการตีไพ่รอไว้แบบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องให้ส.ว.มีอำนาจโหวตนายกฯ
หรืออื่น ๆ มีข้ออ้างด้วยว่าจะแก้ได้ยังไง ในเมื่อสภากำลังจะหมดวาระ
ผมไม่ได้หมายความว่าพวกคุณจะแก้เดี๋ยวนี้
แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หลังการเลือกตั้ง ฟันธง!
ว่าสภาชุดหน้าหยิบเรื่องนี้ไปแก้ไขให้อยู่ยาวอย่างแน่นอน
ใครจะปฏิเสธรับฟังไม่ได้ทั้งนั้นล่ะครับ มีคนเดียวที่คนจะรอฟังคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กล้าออกมาพูดให้ชัดนะครับ ว่าถ้าเป็นนายกฯ อีกที ไม่มีแผนจะแก้กติกาให้อยู่ยาว ๆ
ผมท้า ท่านกล้ามั้ยล่ะ?
ส่วนการเมืองหลังจากนี้ในซีกรัฐบาล
เราก็จะเห็นแต่ดราม่ารายวันระหว่าง “รวมไทยสร้างชาติ” กับ “พลังประชารัฐ” นะครับ
อำนาจได้กัดกินความเป็นพี่น้องของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร
ไปเสียสิ้นแล้วนะครับ หลังจากนี้จะมีแต่เรื่องผลประโยชน์
จะมีแต่เรื่องจังหวะก้าวทางการเมือง
พอ
พล.อ.ประยุทธ์ เปิดตัวเข้า “รวมไทยสร้างชาติ” หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร
ก็ออกจดหมายเปิดใจสะท้อนความรู้สึกสะท้อนตัวตนออกมา
แล้วเจ้าตัวก็เดินทางไปพะเยานะครับ มีภาพ ร.อ.ธรรมนัส ผู้ต้องหาคดีพยายามล้มนายกรัฐมนตรีคุกเข่ามอบพวงมาลัย
คุณวิรัตน์ รัตนเศรษฐ ประกาศว่านี่คือภาพระหว่าง “พ่อกับลูก” ที่ผูกพันกันมายาวนาน
บีบหัวใจ พล.อ.ประยุทธ์ ตรง ๆ อ่ะครับ เพราะรู้ก็รู้กันอยู่ว่า “ประยุทธ์” กับ “ธรรมนัส”
เขาเห็นเงากันยังไม่ได้เลย
รุ่งขึ้นเช้า
พล.อ.ประวิตร ไม่เข้าประชุมครม. ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ใช้มติครม. ตั้งคนของ “รวมไทยสร้างชาติ”
ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มอีก 2 คน ทั้งที่เวลาทำงานอาจจะเหลือไม่ถึง 1
เดือนก็ได้หากมีการยุบสภา
มีกระแสข่าวว่า
พล.อ.ประวิตร พยายามจะผลักดันเม็ดเงินไปถึงมือประชาชนผ่านบัตรประชารัฐ แต่
พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ยอมผ่าน ไม่ยอมอนุมัติให้ หากเปลี่ยนเป็นบัตรรวมไทยสร้างชาติ
เผลอ ๆ อาจจะตกลงกันได้ ให้มันรู้กันไปซิครับว่าไผเป็นไผ ชั่วโมงนี้ “รวมไทยสร้างชาติ”
เขาใหญ่ “พลังประรัฐ” ถอยไปก่อน!
เรื่องแบบนี้
“นักเลง” หรือ “ชายชาติทหาร” เขาไม่ทำกันนะครับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ
จากแคนดิเดตของ “พรรคพลังประชารัฐ” อยู่ดี ๆ ไปสมัครเข้า “รวมไทยสร้างชาติ”
พรรคซึ่งตัวเองแอบให้ลูกน้องไปตั้งไว้ หลังจากนั้นก็ตั้งแต่คน “รวมไทยสร้างชาติ”
มาดำรงตำแหน่งโน่นนั่นนี่ อะไรที่ “พลังประชารัฐ” ขอ ก็ทำเฉย ๆ ซะอย่างนั้น
แบบนี้มีแต่พวกกะล่อนคบไม่ได้เขาทำกันครับ!
ข่าวการยุบสภาว่าอาจจะเกิดขึ้นเร็วก็เริ่มดังหนาหูขึ้นมาอีกแล้วนะครับ
แม้ว่าคุณธนกร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะบอกว่ารอหลังหมดวาระของสภา28
กุมภาพันธ์ จะมีการยุบแน่ ๆ
แต่ผมไม่เห็นเหตุผล
ไม่เห็นประโยชน์ว่าจะรอหลังหมดวาระสภาทำไม ก็ในเมื่อ ณ ปัจจุบัน สภามันทำงานไม่ได้
มันล่มรายวัน นัดประชุมวันไหนล่มวันนั้นอยู่แล้ว ดังนั้น
การอ้างรอหมดวาระสภาจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เชื่อถือได้ เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการยุบสภาก่อนหมดวาระด้วยซ้ำไป
อย่าลืมนะครับ
ว่าญัตติสำคัญเพียงเรื่องเดียวที่คาอยู่ และถ้าสภายังไม่หมดวาระ ยังไงก็ต้องเกิดขึ้น
คือการอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้านตามมาตรา 152
แม้ว่าจะไม่มีผลล้มรัฐบาลแน่ ๆ เนื่องจากไม่มีการยกมือโหวตก็ตาม
แต่คราวนี้จะเป็นการอภิปรายครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ไม่มี ส.ส. ในพรรคของตัวเองคอยปกป้องดูแล
ก็คน “พรรคพลังประชารัฐ” ใครเขาจะยกมือช่วยล่ะครับ
ส่วนลูกน้องของ
พล.อ.ประยุทธ์ จำนวนหนึ่งก็ลาออกจาก ส.ส. ไปแล้ว
ที่ยังตกค้างอยู่ในสภาก็ไม่ใช่คนที่จะลุกขึ้นมาสู้รบตบมืออะไรกับฝ่ายค้านเขาได้
อย่าทำเป็นเล่นไปนะครับ เรื่องนี้อาจจะกำลังบีบหัวใจนายกฯ อยู่ก็ได้
เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรีที่นั่งโดดเดี่ยวให้ฝ่ายค้านรุมกระหน่ำอยู่ 2 วัน ไม่มีพรรคพวกส.ส.พรรคไหนคอยช่วยเหลือเนี่ย
เสียวไม่ใช่น้อยนะครับ
“ภูมิใจไทย”
ที่เขาเคยช่วย เที่ยวนี้ผมว่าเขาไม่ช่วยล่ะ เพราะว่าเดี๋ยวก็ยุบสภา ต้องไปแข่งกันแล้ว
ส่วน “ประชาธิปัตย์” เขารักษาตัวรอดเป็นยอดดีมาแต่ไหนแต่ไร
ดังนั้น
ถ้าจะมีการยุบสภาเร็ว ๆ นี้ เหตุผลสำคัญอาจเป็นเพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์
ไม่อยากเผชิญหน้ากับการอภิปรายของฝ่ายค้านในสภาพโดดเดี่ยว ถ้าเป็น “โดดเดี่ยวผู้น่ารัก”
ก็ไปอย่างนะครับ แต่ผมว่าเป็น “โดดเดี่ยวผู้น่าเกลียดน่าชัง” ในสายตาประชาชน!
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #เพื่อไทย #ประยุทธ์