วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568

‘เท้ง’ เยี่ยมครอบครัวพลทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจพี่น้องที่ศูนย์อพยพศรีสะเกษ เสนอพักหนี้ครอบครัวที่ขาดรายได้ เงินเยียวยาและเบี้ย ชรบ. พร้อมปรับระเบียบการเบิกจ่ายท้องถิ่นด้วย

 


‘เท้ง’ เยี่ยมครอบครัวพลทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจพี่น้องที่ศูนย์อพยพศรีสะเกษ เสนอพักหนี้ครอบครัวที่ขาดรายได้ เงินเยียวยาและเบี้ย ชรบ. พร้อมปรับระเบียบการเบิกจ่ายท้องถิ่นด้วย


เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.) โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กโดยระบุว่า เยี่ยมครอบครัว พลทหาร เทอดศักดิ์ ที่เสียชีวิตในสมรภูมิปราสาทคนา และพี่น้องในศูนย์อพยพใน 3 อำเภอ จังหวัดศรีสะเกษ


“ยังคิดถึง และอยากให้เขาอยู่” - เสียงจากคุณอา ผู้ดูแลพลทหารเทอดศักดิ์ตั้งแต่เล็ก เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิต


ครอบครัวได้เล่าให้ฟังว่า กองทัพดูแลดี เยียวยาให้แล้วบางส่วน และรอให้พี่ชายของเทอดศักดิ์เรียน กศน. จบ ม.3 ก็จะบรรจุเข้ารับราชการให้มาดูแลครอบครัวแทนเทอดศักดิ์ต่อไป


เมื่อถามถึงเงินเยียวยาอื่น ๆ จากรัฐบาล เช่น เงิน 10 ล้านให้กับทหารที่เสียชีวิต ทางครอบครัวไม่ได้เรียกร้อง เพราะไม่มีอะไรทดแทนชีวิตที่เสียไปได้ ซึ่งเข้าใจว่าหน่วยงานน่าจะกำลังดำเนินการให้อยู่ แต่ยังไม่ได้รับเงินในส่วนนี้


เป็นเวลาราว 20 นาที ที่ได้นั่งพูดคุยกับครอบครัวของพลทหารเทอดศักดิ์ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับคุณอาและครอบครัว อยากให้นึกถึงหน้าหลานและมีกำลังใจไปต่อ เพราะทุกวันนี้ยังมีอาการเครียด กินยานอนหลับจากหมอก็ยังนอนไม่ค่อยหลับ ด้วยความเสียใจและคิดถึง


ช่วงเช้า ผมไปเยี่ยมศูนย์อพยพใน 3 อำเภอ จังหวัดศรีสะเกษ เกือบทุกศูนย์ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้านไปแล้วส่วนหนึ่ง นอกจากความรู้สึกอยากกลับบ้านที่อยู่ในใจพี่น้องชายแดนทุกคน มีประเด็นที่เป็นข้อเสนอจากในพื้นที่ ดังนี้ครับ


1) เนื่องจากทุกครอบครัวขาดรายได้ และเกือบทุกคนก็มีหนี้ โดยเฉพาะหนี้กองทุนหมู่บ้าน ที่ปกติช่วงปลายปี จะเป็นช่วงที่ต้องจ่ายงวดหนี้คืนกองทุน - เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งหลายระลอกในปีนี้ ทุกครอบครัวในพื้นที่ปะทะที่รับจ้างขาดรายได้มาแรมเดือน ทุเรียน ยาง พืชผลเสียหาย เพราะดูและเก็บเกี่ยวไม่ได้ - อยากให้มีนโยบายพักหนี้ โดยเฉพาะหนี้กองทุนหมู่บ้าน ที่ขณะนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละกอง อยากให้พักหนี้เหมือน ๆ กันทุกกองทุน (ทุกหมู่บ้าน) รวมถึงหนี้ ธกส. ด้วย


2) เบี้ย ชรบ. 120 บาท/วัน เพิ่งได้รับไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ แต่เป็นของเหตุปะทะครั้งก่อนช่วงเดือน ก.ค. - อยากทราบความชัดเจนของการจ่ายเบี้ย ชรบ. ในช่วงเหตุปะทะรอบนี้


3) เงินเยียวยารายครัวเรือน - ปัจจุบันจ่ายให้เฉพาะบ้านที่อพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง แต่จากการสอบถามแกนนำผู้ใหญ่ในพื้นที่พบว่าโดยเฉลี่ย จะมีบ้านที่เขาขออยู่ต่อ ไม่อพยพไปอยู่ศูนย์ด้วยเหตุผลความจำเป็น มีจำนวนราว ๆ 10% - ซึ่งบ้านที่ไม่อพยพจะไม่ได้รับเงินเยียวยา แต่ทุกบ้านล้วนได้รับผลกระทบเนื่องจากประกอบอาชีพไม่ได้เหมือนกับคนอื่น ๆ - อยากให้รัฐบาลทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายในส่วนนี้ ให้เยียวยาถ้วนหน้าทุกครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่อพยพ


4) ระเบียบการเบิกจ่ายท้องถิ่น ที่ปัจจุบันเทศบาล/อบต. ปลายทางที่เป็นเจ้าของพื้นที่ที่ดูแลศูนย์อพยพต้องเป็นคนสำรองจ่ายไปก่อน โดยตามระเบียบจะสามารถเบิกคืนได้สูงสุด 5 วัน ทำให้เทศบาล/อบต. ปลายทางที่เขาพร้อมดูแลประชาชนต่างพื้นที่ที่อพยพมาดูแล้วต้องแบกรับ คชจ. แทน - มีเสียงสะท้อนว่า อยากให้ปรับระเบียบให้นำงบประมาณจากเทศบาล/อบต. ต้นทางในพื้นที่อพยพ โอนมาสนับสนุนให้กับพื้นที่ปลายทางได้ ก็จะทำให้เกิดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


สำหรับเรื่องเฉพาะหน้าแต่สำคัญ วันนี้มีการประชุม ASEAN Ministerial Meeting ที่มีวาระสำคัญคือการพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศไทย-กัมพูชา และได้ข้อสรุปว่าจะมีการพูดคุยการเพื่อหารือรายละเอียดการหยุดยิงผ่านกลไก GBC ในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ผมหวังป็นอย่างยิ่งว่าจะมีข่าวดีที่พี่น้องชายแดนอยากได้ยินในเร็ววันนี้ นั่นก็คือการได้ “กลับบ้าน”


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #ชายแดนไทย #กัมพูชา #ศรีษะเกษ