ธิดา ถาวรเศรษฐ : 12 ธ.ค.
68 : ความผิดหวังในเวทีรัฐสภาของขบวนการประชาธิปไตย
1) พรรคเพื่อไทย
ที่เป็นแนวร่วมของขบวนการประชาธิปไตยมายาวนาน เพราะถูกรัฐประหาร ถูกยุบพรรค
ยึดทรัพย์ และถูกดำเนินคดีที่ไม่มีอายุความ ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
จากการที่มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
แต่การข้ามขั้ว ตระบัดสัตย์
และสัญญาในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2566
แม้แต่การทวงความยุติธรรมของคนเสื้อแดง
ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาขึ้นสูงสุดในหมู่ประชาชนผู้ยืนหยัดฝ่ายประชาธิปไตย
เมื่อเป็นรัฐบาลข้ามขั้ว ก็ไม่ยอมสนับสนุนขบวนการประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ การนิรโทษกรรมประชาชน
การทวงความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตในกรณีปี 2553
นี่จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยไม่อาจไว้วางใจให้เป็นตัวแทนของประชาชนส่วนนี้
2) พรรคประชาชน ที่เป็นความหวัง
ในฐานะผู้ถือธงนำของฝ่ายรักประชาธิปไตย ต่อต้านฝ่ายจารีตอำนาจนิยมชัดเจน
ได้รับเสียงจากประชาชนถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2566 จนเสียงมากกว่าพรรคเพื่อไทยอย่างพลิกปากกาเซียน
ขบวนการประชาชนเสรีประชาธิปไตยหวังว่า
2 พรรคนี้สามารถจะเป็นรัฐบาลได้เมื่อรวมเสียง 2 พรรค แต่สถานการณืพลิกผัน ล้ม MOU
กลายเป็นได้รัฐบาลอุดมการณ์จารีตอำนาจนิยม
ชัดเจนที่ต่อต้านพรรคก้าวไกลและไม่ยอมรับการแก้ไข (ไม่ใช่ยกเลิก) กฎหมายอาญามาตรา
112
ปรากฏการณ์ของรัฐบาลหลังการเลือกตั้งปี
2566 ภายใน 2 ปี มีนายกฯ 3 คน
แสดงถึงความไม่ลงตัวทางการเมืองและการเป็นพันธมิตรของรัฐบาลฝ่ายจารีตนิยม
เมื่อพรรคประชาชนทำ
MOA กับพรรคภูมิใจไทย ด้วยความคิดที่ว่าจะได้ปูทางไปสู่การสร้างรัฐธรรมนูญใหม่
โดยฉบับใหม่ที่คืนอำนาจให้ประชาชน
ดิฉันก็ได้แสดงความคิดเห็นแตกต่าง
ไม่เห็นด้วยแบบเดียวกับผู้รักประชาธิปไตยจำนวนมาก
ถามว่า
เราคิดแตกต่างกันตรงไหน?
คุณธนาธรพูดชัดเจนที่ต้องการให้ความเป็นเจ้าของสว.ของพรรคภูมิใจไทย
เป็นกุญแจเพื่อนำไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน
โดยไม่แตะความเลวร้ายของกระบวนการฮั้วสว. หรือคดีเขากระโดง
และที่สำคัญที่สุดคือ
ไม่ได้มองเห็นจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นผู้ถือธงตัวจริงของฝั่งจารีตอำนาจนิยม
และขัดขวางการเดินหน้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ก้าวหน้าในรัฐสภาครั้งแล้วครั้งเล่า
สำหรับดิฉัน
มองคนที่ปฏิบัติตามจุดยืน ดังนั้น หลักการจุดยืนทางอุดมการณ์
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ถามว่า
ผู้นำ/แกนนำพรรคประชาชน ดูไม่ออกหรือ ดิฉันว่าเขารู้ดูออก
แต่จะคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ตามความคิดแบบที่ไม่ยึดปัญหาการฮั้วสว.
ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญเสียหายที่สุด ถ้ามีการทำรัฐประหาร สว.ก็มาจากการแต่งตั้ง
แต่นี่เป็นสว.จัดตั้งโดยการใช้เงินจัดการ สุดท้ายสว.ที่มาจากการวางแผนจัดการ
ก็แสดงตน แสดงจุดยืน โดยพรรคภูมิใจไทยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ซ้ำยังอ้างว่าทำตาม MOA
และตามข้อเรียกร้องให้ยุบสภา เห็นฤทธิ์ของคำพูด “You know me a little go” ไหม? จะให้สว.จัดตั้งของจารีตนิยมเป็นกุญแจเปิดประตูสู่การเขียนรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย
เป็นไปได้หรือ????
โปรดรำลึกด้วยว่า
ไม่มีสัจจะในหมู่ (โจร) นักการเมือง คำพูดไพเราะ สวยหรู ดูดีนั้นมีไว้โชว์ในเวลาหนึ่ง
ๆ เท่านั้น และการพลิกลิ้นเร็วกว่า ปฏิบัติเร็วกว่า เป็นเรื่องที่ทำเพื่อความได้เปรียบทางการเมืองของพรรคการเมืองไทยปกติ
ไม่มีคำว่า “ตรงไปตรงมา” ในการทำงานการเมืองของพรรคการเมือง และถ้าพรรคใดใช้วิธีตรงไปตรงมากับพวกไม่มีสัจจะ
ผลจะเป็นอย่างไร???
นี่ไม่รู้จะได้เลือกตั้งเมื่อไหร่
ถ้าชายแดนยังไม่ (ยอม) สงบไปอีกนาน
“จนกว่าจะรู้เดียงสา”
ต้องยืมคำพูดมาเฟียพ่อสอนลูกว่า
“อย่าให้ศัตรูรู้แม้แต่ความคิดของเราว่าเราคิดอย่างไร”
นี่คือมาเฟียธุรกิจการเมือง!!!
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ธิดาถาวรเศรษฐ #ขบวนการประชาธิปไตย #เวทีรัฐสภา
