วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568

“ลิซ่า” ชี้สงขลาไม่ได้ท่วมแค่หาดใหญ่ อำเภอรอบนอกยังหนัก ประชาชนจมน้ำกว่า 2 เดือน ความช่วยเหลือไปไม่ถึง เสนอรัฐบาลเร่งจัดงบขุดลอกคลอง 24 สายตลอดคาบสมุทรสทิงพระ แก้ปัญหาระยะยาวไม่ใช่แค่ปะผุ

 


“ลิซ่า” ชี้สงขลาไม่ได้ท่วมแค่หาดใหญ่ อำเภอรอบนอกยังหนัก ประชาชนจมน้ำกว่า 2 เดือน ความช่วยเหลือไปไม่ถึง เสนอรัฐบาลเร่งจัดงบขุดลอกคลอง 24 สายตลอดคาบสมุทรสทิงพระ แก้ปัญหาระยะยาวไม่ใช่แค่ปะผุ


วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลาว่า ขณะนี้อำเภอหาดใหญ่เข้าสู่ระยะฟื้นฟู ตนจึงได้ออกสำรวจพื้นที่อำเภอรอบนอกของจังหวัด พบว่าหลายอำเภอใกล้เคียงอำเภอหาดใหญ่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ และน้ำยังไม่มีทีท่าจะลดลง เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 1-2 เดือนกว่าจะระบายออกหมดและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 


พื้นที่หนึ่งที่ตนมีโอกาสได้เข้าไปเห็นปัญหาด้วยตัวเอง คือบ้านดอนคัน ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ มีประชากรไม่ต่ำกว่า 300 คนที่ยังต้องใช้ชีวิตกับน้ำท่วมขัง และน้ำกำลังเน่าส่งกลิ่นเหม็น กระทบคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นบริเวณใกล้ทะเลสาบ มีน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้ด้วยปริมาณฝนมากกว่าปกติ ส่งผลให้ท่วมขังยาวนานเป็นเวลากว่า 2 เดือน 


ผลกระทบไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ชนบท ความช่วยเหลือจึงเข้าไปไม่ถึง ประชาชนขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม และเนื่องจากส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นเกษตรกร เมื่อน้ำท่วมขัง ปลาที่เลี้ยงในบ่อก็เสียหายไปกับกระแสน้ำ ชาวประมงไม่สามารถออกไปหาปลาในทะเลสาบ ทำให้ขาดรายได้ 


ภคมนกล่าวต่อว่า ข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้พี่น้องประชาชนบริเวณคาบสมุทรสทิงพระไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแช่น้ำเป็นเวลา 2-3 เดือนแบบนี้ 


(1) ระยะสั้น ต้องเร่งระบายน้ำอย่างเต็มศักยภาพจากทุกคลองที่มีในปัจจุบัน 


(2) ระยะยาว รัฐต้องมีแผนขุดลอกคลองหรือสายน้ำเดิมซึ่งเชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบกับอ่าวไทย ประมาณ 24 สายน้ำตลอดคาบสมุทรสทิงพระ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติดั้งเดิมของทะเลสาบสงขลา เนื่องจากปัจจุบันทางระบายน้ำระหว่างทะเลสาบสงขลากับอ่าวไทย มี 3 ทางหลัก คือปากทะเลสาบสงขลา คลองพังยาง และคลองหนัง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำที่มีปริมาณมากในปีนี้ 


การขุดลอกและฟื้นฟูคลองดังกล่าวจะช่วยให้ในช่วงที่ทะเลสาบสงขลามีปริมาณน้ำเยอะ น้ำสามารถระบายออกสู่อ่าวไทยตามธรรมชาติได้โดยเร็วตามแนวความกว้างของแผ่นดินในระยะเฉลี่ย 3-5 กิโลเมตร ตรงกันข้ามหากเรารอให้น้ำระบายออกทางปากทะเลสาบสงขลา ระยะการเดินทางของน้ำ 70 กิโลเมตร การระบายน้ำจะล่าช้ามาก พี่น้องที่อยู่ริมแอ่งทะเลสาบตอนกลางกับตอนบน ต้องจมน้ำเป็นเวลา 2-3 เดือนอย่างที่เป็นอยู่ 


ภคมนกล่าวว่า ตนเสนอให้รัฐบาลช่วยเจียดงบประมาณมาฟื้นฟูคลองทั้ง 24 คลองนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อเสริมคุณภาพชีวิตให้พี่น้องรอบทะเลสาบสงขลา และในระยะยาว ควรสำรวจพื้นที่ที่มีการรุกล้ำลำคลองที่เคยใช้ระบายน้ำ หากจำเป็นต้องมีกระบวนการเจรจาและการชดเชยตามมา ขอให้รัฐบาลจัดการหาทางออกที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนเชื่อว่ารัฐบาลทำได้หากมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหา


รวมถึงฝากไปยังศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ให้ผู้มีอำนาจช่วยดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่รอบนอกอย่างอำเภอระโนด อำเภอสทิงพระด้วย เนื่องจากความช่วยเหลือไปไม่ถึงพี่น้องประชาชน พวกเขายังต้องการอาหารและน้ำดื่มไม่ต่างจากอำเภอหาดใหญ่และอำเภอใกล้เคียงหาดใหญ่ 


“เมื่อน้ำท่วมหาดใหญ่จบ หลายคนอาจคิดว่าปัญหาจบแล้ว ฟื้นฟูเมืองแล้วทุกอย่างจะกลับมาปกติ แต่ความจริงไม่ใช่เลย ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่จมน้ำ อีกหลายพื้นที่ที่ประชาชนเดือดร้อนไม่น้อยไปกว่ากัน แต่พวกเขายังไม่ได้รับการดูแล”


“ดังนั้นรัฐบาลต้องดูแลประชาชนอย่างทั่วถึงเป็นธรรม ช่วยฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ให้ได้รับความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันต้องเร่งช่วยชีวิตพี่น้องประชาชนในอำเภอรอบนอกอย่างสทิงพระ กระแสสินธุ์ และระโนด อย่าให้ความเจริญและความช่วยเหลือกระจุกตัวอยู่แค่ในตัวเมือง พี่น้องประชาชนจำนวนมากยังรอคอยความช่วยเหลือรายวันให้ไปถึง” รองโฆษกพรรคประชาชนทิ้งท้าย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #น้ำท่วมใต้ #สงขลา