“อนุทิน” นำทีมภูมิใจไทย ประกาศนโยบาย แก้ปัญหา เศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม
และภัยพิบัติ
วันที่
24 ธันวาคม 2568 ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ชั้น 3
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
แถลงนโยบายสำหรับเลือกตั้ง โดยมี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว, นายเอกนิติ
นิติทัณฑ์ประภาศ, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์, นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, และนางสาวซาบีดา
ไทยเศรษฐ์ พร้อมกรรมการบริหารและสมาชิกพรรค แถลงนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง
2569 พร้อมเปิดตัว ผู้สมัคร สส. ทั้งระบบเขต-บัญชีรายชื่อ
นายอนุทินกล่าวช่วงต้นว่า
พี่น้องประชาชนชาวไทยและสมาชิกพรรค ผมอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
วันนี้มาถึงไวกว่าที่ผมคาดคิดไว้
แต่ที่ผมได้พบทุกคนความกังวลของผมได้เปลี่ยนแปลงเป็นความมั่นใจ
พรรคภูมิใจไทยวันนี้มีความมั่นใจและพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งเพื่อรับใช้ประเทศไทยและประชาชน
วันนี้สมาชิกพรรคทุกคน
ถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่สุด
ตั้งแต่อยู่พรรคภูมิใจไทยมา
เพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเรารู้สึกได้ว่าประชาชนตั้งความคาดไว้กับการทำงานของพรรคภูมิใจไทย
ฉะนั้นไม่มีทางอื่นที่เราจะต้องมีความพร้อมสูงสุดในทุกด้านทั้งเรื่องความพร้อม
ยุทธศาสตร์ นโยบาย และนี่จึงเป็นที่มาของสโลแกน “ภูมิใจไทย พูดแล้วทำพลัส”
พรรคภูมิใจไทย วันนี้ถือว่ามีประสบการณ์ครบทุกรูปแบบ ไม่ใช่เด็กละอ่อนอีกต่อไป เพราะผ่านประสบการณ์บริหาร เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง เกษตรกรรม อุตสาหกรรมและการต่างประเทศ และทำให้ประเทศไทยมีที่ยืนในทุกมิติของโลก พร้อมย้ำว่าพรรคภูมิใจไทย ที่กล้าเสนอพูดและทำพลัส เพราะหมายความว่าวันนี้พรรคมีความพร้อมสูงสุดในทุกด้านที่ทำได้จริง ทำได้เร็วและทำได้เลย
นายอนุทิน
ระบุว่า ขอโอกาสจริงๆ ครั้งนี้ ทำงานมา 3 เดือนได้แสดงผลงานเป็นที่ประจักษ์
เศรษฐกิจดีขึ้น ราคาพืชผลดีขึ้นทั้ง ข้าว มันสำปะหลัง
ใช้กลไกในการผลักดันให้สินค้าเกษตรราคาพุ่งขึ้น
ได้นำประเทศไทยสู่เวทีโลกด้วยศักดิ์ศรี
สร้างเกียรติภูมิให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียวจากภัยคุกคามต่างชาติ
การแถลงนโยบายพรรคภูมิใจไทย ภายใต้ 4 ปัญหาหลัก คือ เศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม และภัยพิบัติ โดยมีนโยบายสนับสนุนเพื่อแก้ไขปัญหาที่น่าสนใจ ประกอบด้วย คนละครึ่งพลัส, นำเศรษฐกิจเติบโต จีดีพี 3%พลัส, เศรษฐกิจสีเขียว, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ+ (บัตรคนจนใหม่), ค่าไฟต่ำ 3 บาท, รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า, Barter trading เช่นซื้อเครื่องบิน จ่ายด้วยสินค้าเกษตร ผลผลิตไม่ตกค้าง, จ้างผู้สูงอายุทำงาน (สูงวัยมีรายได้), พยาบาลอาสา (15,000/4 ปี ลูกหลานกลับบ้านมีงานทำ ดูแลผู้สูงวัยถึงที่), กองทุนภัยพิบัติ, เรียนฟรีต้องมีจริง, สร้างกำแพงความมั่นคง, ปกป้องคนไทยจากภัยคุกคาม สกัดลักลอบนำเข้า, ทหารอาสา 1 แสนอันตรา เงินเดือน 12,000 บาท, Up-skill Re-skill เป็นนายสิบ, ศูนย์บำบัดยาเสพติดทุกอำเภอ เป็นต้น
