นายกฯ
มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ
เน้นย้ำให้เด็กยึดมั่นรู้รักสามัคคี มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และต่อประเทศชาติ
วันนี้ (10 มกราคม 2567) เวลา 09.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ที่ได้รับการคัดเลือกจากทุกสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 1,220 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับฟังโอวาทจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรี
กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า รู้สึกปลื้มใจที่เด็กไทยทุกคน มีความรู้ ความสามารถ
มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และนำชื่อเสียงที่น่าภาคภูมิมาสู่ประเทศชาติ พร้อมชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่ได้ร่วมกันดำเนินงานและให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี
และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนของชาติ
และให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน
โดยสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้มีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพการศึกษา
คุณภาพชีวิต รวมทั้งการปลูกฝังความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ
เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความภูมิใจในชาติ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญเด็กและเยาวชนทุกคนต้องมีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดา
มารดา ผู้มีพระคุณ และประเทศชาติ มีความรู้รักสามัคคี รักชาติ
ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัยอันดี และอยู่ในกรอบของกฎหมาย
รวมทั้งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ควบคู่คุณธรรม ตลอดจนความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือสังคม
และประเทศชาติ สอดรับกับคำขวัญวันเด็กในปีนี้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์
เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”
นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมเด็กและเยาวชนดีเด่น
และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ รวมถึงสมาชิกประเภททีม ทั้ง 1,220
คน ที่ได้รับรางวัลว่า เป็นผลจากการที่ทุกคนมีความขยัน หมั่นเพียร
ใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนพยายามฝึกฝนให้มีทักษะด้านต่าง ๆ
จนเกิดความสำเร็จ สร้างคุณประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ
อีกทั้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งการศึกษา
และทำในสิ่งที่ตนเองได้ตั้งเป้าหมายไว้
ซึ่งการได้รับรางวัลครั้งนี้ถือเป็นเกียรติประวัติที่สง่างามแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล
รวมทั้งยังเป็นแบบอย่างสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชนรุ่นต่อไป
จากนั้น เด็กหญิงพิมพ์นารา คุปต์อัครภิญโญ
จากโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ธนบุรี กรุงเทพมหานคร และเด็กชายกริษฐ์พล
ปราสาททองโอสถ เยาวชนดีเด่น ด้านทักษะฝีมือ จากโรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา มีนบุรี
ได้เป็นตัวแทนเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติรับมอบของที่ระลึกจากนายกรัฐมนตรี
โดยนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง
สำหรับปีนี้ เด็กและเยาวชนดีเด่นที่ผ่านการคัดเลือกจากส่วนราชการ 17
หน่วยงาน ได้พิจารณาคัดเลือกจากเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี
เรียนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด มีความมานะอดทน
หาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง กตัญญูช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม
ประกอบด้วยเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติใน 5 ด้าน
ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านศิลปวัฒนธรรมและดนตรี ด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ
ด้านกีฬาและนันทนาการ ด้านศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรม จำนวน 604 ราย เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ
จำนวน 279 ราย และประเภททีม จำนวน 337 ราย
ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้กระทำความดีในด้านต่าง ๆ
เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนเอง ตลอดจนปลูกฝังให้มีส่วนร่วมในสังคม
มีความสามัคคี เป็นกำลังสำคัญของชาติ ตามคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2567 ที่ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง
ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” ของนายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรี
โดยหลังกล่าวมอบโอวาท นายกฯได้เดินทักทายกับเด็กและเยาวชน
พูดคุยอย่างเป็นกันเอง โดยมีเด็กบางคนขอเซลฟี่กับนายกฯ
เรียกเสียงกรี๊ดอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง โดยจังหวะหนึ่ง นายกฯได้อุ้มเด็กนักเรียนชายจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรขึ้นมาถ่ายรูปด้วย
พร้อมชี้ไปที่ตราอกเสื้อ เนื่องจากเป็นโรงเรียนเก่าของนายกฯ นั่นเอง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เศรษฐาทวีสิน #วันเด็ก2567 #วันเด็กแห่งชาติ