“รังสิมันต์-รอมฎอน” กมธ.ความมั่นคงฯ
รับหนังสือนักกิจกรรมชายแดนใต้กรณีถูกใช้กฎหมายปิดปาก
ชี้วิธีคิดหน่วยงานความมั่นคงมีปัญหา-แก้ปัญหาไม่ได้
ห่วงการดำเนินคดีจะก่อผลเสียต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ จ่อเชิญหน่วยงานชี้แจง 25
ม.ค. นี้
วันที่
17 มกราคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา
นักกิจกรรมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ
กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ
เพื่อร้องเรียนกรณีที่แม่ทัพภาคที่ 4 ฟ้องร้องดำเนินคดีนักกิจกรรมในพื้นที่
ทั้งกรณีการสวมชุดมลายู
และการจัดกิจกรรมระดมทุนช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ โดยมี
รังสิมันต์ โรม และรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
เป็นตัวแทนคณะกรรมาธิการฯ เข้ารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว
รังสิมันต์ระบุว่า
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ถ้ารัฐยังใช้วิธีคิดภายใต้กรอบ “ความมั่นคง” แบบเดิมก็คงจะได้ผลแบบเดิม
ที่ผ่านมาแม้ตนและเพื่อน
สส.จากหลายพรรคจะได้ทำหน้าที่ผู้แทนเป็นปากเป็นเสียงอย่างเต็มที่แล้ว
แต่ลำพังกลไกรัฐสภาอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ
ภาคประชาชนหลายฝ่ายก็พยายามทำทุกวิถีทางในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น
แต่ต้องยอมรับว่าวิธีคิดที่ผ่านมาของรัฐอาจจะทำให้ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ทั้งนี้
คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ซึ่งมี สส.จากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายคน
และมีตัวแทนจากหลายพรรคการเมือง ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยในวันที่ 25 มกราคมนี้จะมีการประชุมกันในประเด็นการใช้กฎหมายและการคุกคามต่อทั้งนักกิจกรรมและประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้
ซึ่งตนหวังว่าจะมีตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึง กอ.รมน. เข้าร่วมด้วย
เพื่อนำไปสู่การหาทางออกร่วมกันได้
“ยืนยันว่าเราอยากเห็นสันติภาพในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จริง
การแก้ปัญหาต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่
ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นสะพานในการแก้ปัญหาที่ประชาชนได้รับความไม่เป็นธรรมให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด”
รังสิมันต์กล่าว
ขณะที่รอมฎอนระบุว่า
ความน่าสนใจของกรณีนี้คือ นิยามของคำว่า “ความมั่นคง” ควรครอบคลุมกว้างแค่ไหน
โดยขณะนี้คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ
ไม่ได้ดูแค่เรื่องของการทหารหรือความมั่นคงในแบบจารีตเท่านั้น
แต่เราดูไปไกลกว่านั้น ซึ่งรวมถึงการสร้างสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ดังนั้น รัฐต้องมีนิยามเกี่ยวกับความมั่นคงใหม่
ซึ่งมีความเกี่ยวโยงและเป็นธรรมกับประชาชนมากขึ้น
“จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากมิติของการดำเนินคดีแล้ว
ยังมีผลกระทบในทางการเมืองและนโยบายการสร้างสันติสุขของรัฐบาล
ซึ่งจะส่งผลต่อผู้คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียมากมาย ดังนั้น
สภาผู้แทนราษฎรควรจะได้เป็นพื้นที่ในการพูดคุยและหาทางออกร่วมกัน
เราอาจจะได้นิยามความหมายใหม่ของคำว่าความมั่นคงที่เป็นธรรมต่อประชาชนมากขึ้น”
รอมฎอนกล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ชายแดนใต้ #ความมั่นคง