วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2567

พี่สาว “ต้าร์ วันเฉลิม” ร้องกมธ.กฎหมายฯ เร่งติดตามกรณีน้องชายถูกบังคับให้สูญหายที่ประเทศกัมพูชา 3 ปีผ่าน คดีไม่คืบหน้า


พี่สาว “ต้าร์ วันเฉลิม” ร้องกมธ.กฎหมายฯ เร่งติดตามกรณีน้องชายถูกบังคับให้สูญหายที่ประเทศกัมพูชา 3 ปีผ่าน คดีไม่คืบหน้า

 

วันนี้ (24 มกราคม 2567) เวลา 16.30 น.ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ รองประธานคณะ กมธ. การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คนที่หนึ่ง และคณะ รับยื่นหนังสือจาก น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาววันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เรื่องขอให้สอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวง กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกบังคับให้สูญหายที่ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2563 หลังจากที่เคยยื่นหนังสือมาแล้วหลังเกิดเหตุการณ์ไม่นานเมื่อปี 2563 และ 2564 แต่ต่อมาการสืบสวนสอบสวนของทุกหน่วยงานหยุดชะงัก ทั้งที่หลักฐานจำนวนมากทั้งเอกสารและพยานบุคคลได้นำเสนอต่อหน่วยงานรัฐไทยและกัมพูชาไปแล้วตลอด 3 ปีที่ผ่านมาคดีไม่คืบหน้า

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย 63 นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองถูกลักพาตัวขึ้นรถตู้สีดำที่บริเวณแม่โขง การ์เดน คอนโดมิเนียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งก่อนการถูกบังคับให้สูญหายนายวันเฉลิม เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองในประเทศไทย ได้ลี้ภัยไปอาศัยอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา หลังการรัฐประหารโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอซา และพวก (คสช.) ในปี 2557 ต่อมาพี่สาวและครอบครัวของนายวันเฉลิม ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากมารดาของนายวันเฉลิม ได้ออกมาต่อสู้เรียกร้องและยื่นหนังสือต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและมีหน้าที่และอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์การบังคับให้สูญหายดังกล่าว อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อัยการสูงสูด ศูนย์ป้องกันการทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นต้น

 

บัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมากว่า 3 ปีแล้ว กลับยังไม่มีความคืบหน้าในการค้นหาชะตากรรมของนายวันเฉลิมแต่อย่างใด ยังไม่มีการเปิดเผยรายงานการสืบสวนสอบสวน ไม่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงและความคืบหน้าในการสืบสวนของหน่วยงานรัฐต่อญาติและทีมทนายความที่ติดตามคดี ทำให้ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรมและยังไม่สามารถนำผู้กระทำความผิดทั้งในประเทศและต่างประเทศมาลงโทษได้

 

จึงขอยื่นหนังสือต่อคณะ กมธ. ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรียกหรือประสานเจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้องในประเทศและต่างประเทศทั้งปวงที่จะปรากฏในทางสอบสวนมาให้ข้อมูลถึงการดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงและข้อมูลเกี่ยวกับการถูกลักพาตัวหรือการบังคับให้สูญหาย เพื่อให้ญาติและครอบครัวได้รับความเป็นธรรมและทราบชะตากรรมของวันเฉลิม เพื่อนำผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษ เพื่อให้ความเป็นธรรมและเป็นการเยียวยาครอบครัวของนายวันเฉลิม

 

น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว โฆษกคณะ กมธ. กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนคณะ กมธ. รับเรื่องร้องเรียนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กรณีที่เกิดขึ้น ผ่านมา 3 ปีแล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ควรจะเป็นคดีตัวอย่างเพราะมีพยานหลักฐานอย่างชัดเจน ที่สำคัญกรณีนี้เป็นหนึ่งในกรณีที่ทางคณะ กมธ. ให้ความสำคัญ เพราะปัจจุบันมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 แล้ว เราต้องกลับมาพิจารณาว่าเมื่อมีกฎหมายดังกล่าวแล้ว การบังคับใช้มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ และการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวช่วยคุ้มครองการรับรองสิทธิและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของผู้ลี้ภัยทางการเมืองในช่วงรัฐประหาร หลังจากนี้คณะ กมธ. จะนำหนังสือเรื่องร้องเรียนเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนของคณะ กมธ. และจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงต่อไป

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ต้าร์วันเฉลิม #กมธกฏหมาย