พี่สาว
“ต้าร์ วันเฉลิม” ร้องกมธ.กฎหมายฯ
เร่งติดตามกรณีน้องชายถูกบังคับให้สูญหายที่ประเทศกัมพูชา 3 ปีผ่าน
คดีไม่คืบหน้า
วันนี้
(24 มกราคม 2567) เวลา 16.30 น.ณ
ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์
รองประธานคณะ กมธ. การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คนที่หนึ่ง และคณะ
รับยื่นหนังสือจาก น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาววันเฉลิม
สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เรื่องขอให้สอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวง กรณีนายวันเฉลิม
สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกบังคับให้สูญหายที่ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2563 หลังจากที่เคยยื่นหนังสือมาแล้วหลังเกิดเหตุการณ์ไม่นานเมื่อปี 2563
และ 2564 แต่ต่อมาการสืบสวนสอบสวนของทุกหน่วยงานหยุดชะงัก
ทั้งที่หลักฐานจำนวนมากทั้งเอกสารและพยานบุคคลได้นำเสนอต่อหน่วยงานรัฐไทยและกัมพูชาไปแล้วตลอด
3 ปีที่ผ่านมาคดีไม่คืบหน้า
ทั้งนี้
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย 63 นายวันเฉลิม
สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองถูกลักพาตัวขึ้นรถตู้สีดำที่บริเวณแม่โขง
การ์เดน คอนโดมิเนียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ซึ่งก่อนการถูกบังคับให้สูญหายนายวันเฉลิม เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองในประเทศไทย
ได้ลี้ภัยไปอาศัยอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา หลังการรัฐประหารโดย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอซา และพวก (คสช.) ในปี 2557 ต่อมาพี่สาวและครอบครัวของนายวันเฉลิม
ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากมารดาของนายวันเฉลิม
ได้ออกมาต่อสู้เรียกร้องและยื่นหนังสือต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและมีหน้าที่และอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์การบังคับให้สูญหายดังกล่าว
อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อัยการสูงสูด ศูนย์ป้องกันการทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย
กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นต้น
บัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมากว่า
3 ปีแล้ว
กลับยังไม่มีความคืบหน้าในการค้นหาชะตากรรมของนายวันเฉลิมแต่อย่างใด
ยังไม่มีการเปิดเผยรายงานการสืบสวนสอบสวน
ไม่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงและความคืบหน้าในการสืบสวนของหน่วยงานรัฐต่อญาติและทีมทนายความที่ติดตามคดี
ทำให้ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรมและยังไม่สามารถนำผู้กระทำความผิดทั้งในประเทศและต่างประเทศมาลงโทษได้
จึงขอยื่นหนังสือต่อคณะ
กมธ.
ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรียกหรือประสานเจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้องในประเทศและต่างประเทศทั้งปวงที่จะปรากฏในทางสอบสวนมาให้ข้อมูลถึงการดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงและข้อมูลเกี่ยวกับการถูกลักพาตัวหรือการบังคับให้สูญหาย
เพื่อให้ญาติและครอบครัวได้รับความเป็นธรรมและทราบชะตากรรมของวันเฉลิม
เพื่อนำผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษ
เพื่อให้ความเป็นธรรมและเป็นการเยียวยาครอบครัวของนายวันเฉลิม
น.ส.ชลธิชา
แจ้งเร็ว โฆษกคณะ กมธ. กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนคณะ กมธ.
รับเรื่องร้องเรียนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กรณีที่เกิดขึ้น ผ่านมา 3 ปีแล้ว
แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งที่ควรจะเป็นคดีตัวอย่างเพราะมีพยานหลักฐานอย่างชัดเจน
ที่สำคัญกรณีนี้เป็นหนึ่งในกรณีที่ทางคณะ กมธ. ให้ความสำคัญ เพราะปัจจุบันมี
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 แล้ว เราต้องกลับมาพิจารณาว่าเมื่อมีกฎหมายดังกล่าวแล้ว
การบังคับใช้มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่
และการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวช่วยคุ้มครองการรับรองสิทธิและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนได้มากน้อยเพียงใด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของผู้ลี้ภัยทางการเมืองในช่วงรัฐประหาร หลังจากนี้คณะ กมธ.
จะนำหนังสือเรื่องร้องเรียนเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนของคณะ กมธ.
และจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงต่อไป
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ต้าร์วันเฉลิม #กมธกฏหมาย