วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2567

สภาฯ มีมติเอกฉันท์ รับหลักการ “พ.ร.บ.อากาศสะอาด” ทั้ง 7 ฉบับ “ภัทรพงษ์” อภิปรายสรุปจุดเด่น “ร่างฯ ก้าวไกล” บังคับจัดทำรายงานปล่อยมลพิษทางอากาศตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีบทลงโทษทั้งทางแพ่ง-อาญา-มาตรการทางสังคม

 


สภาฯ มีมติเอกฉันท์ รับหลักการ “พ.ร.บ.อากาศสะอาด” ทั้ง 7 ฉบับภัทรพงษ์” อภิปรายสรุปจุดเด่น “ร่างฯ ก้าวไกล” บังคับจัดทำรายงานปล่อยมลพิษทางอากาศตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีบทลงโทษทั้งทางแพ่ง-อาญา-มาตรการทางสังคม

 

วันที่ 17 มกราคม 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการจัดการอากาศสะอาดจำนวน 7 ฉบับ จากทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และภาคประชาชน ต่อเนื่องมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 โดย ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคก้าวไกล ผู้เสนอ “ร่าง พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการปล่อยมลพิษข้ามพรมแดน” ได้เป็นผู้อภิปรายสรุปในส่วนของพรรคก้าวไกล

 

ภัทรพงษ์ระบุว่า สถานการณ์อากาศเป็นพิษเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไขทั้งระบบ ซึ่งร่างฯ ของพรรคก้าวไกลมีจุดเด่นที่ครอบคลุมการแก้ไขปัญหาใน 7 ประเด็นหลัก ได้แก่

 

1) สิทธิของประชาชนในการเข้าตรวจโรค และสวัสดิการในการรับการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

 

2) การกระจายอำนาจในการจัดการปัญหาระดับจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟป่าหรือ PM2.5 ไปยังนายก อบจ. เพราะประชาชนต้องการให้คนที่ตนเลือกตั้งเข้ามาเป็นหัวเรือในการขับเคลื่อน มากกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีอายุเฉลี่ยเพียง 1-2 ปีแล้วย้ายไป

 

3) ปัญหาไฟจากภาคเกษตร ร่างฯ ของพรรคก้าวไกลระบุชัดเจนในการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องมีการจัดทำงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันและสร้างแรงจูงใจให้เกิดการลดการเผาในภาคเกษตรให้ชัดเจนมากขึ้น

 

4) ปัญหาจากการนำเข้าข้าวโพดอาหารสัตว์ ร่างฯ ของพรรคก้าวไกลระบุอย่างชัดเจนไม่ให้มีการนำเข้าข้าวโพดอาหารสัตว์ที่มีที่มาจากการเผา

 

5) ในด้านระบบการแจ้งเตือน ร่างฯ ของพรรคก้าวไกลระบุชัดเจนมากที่สุด ว่าการแจ้งเตือนต้องเกิดขึ้นแบบเฉพาะเจาะจงพื้นที่ เมื่อมีค่า PM2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐานที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนดไว้เกิน 24 ชั่วโมง

 

6) ในด้านคณะกรรมการหลักที่มีอำนาจกำกับดูแลปัญหา ร่างฯ ของพรรคก้าวไกลกำหนดให้ใช้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติชุดเดิมที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเพิ่มเติมบทบาทหน้าที่สำคัญคือ การจัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นพิษเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพราะที่ผ่านมา ภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ แก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 อย่างไรประชาชนไม่เคยทราบ แต่ด้วยร่างฯ นี้ เราจะเห็นการจัดทำรายงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สภาฯ พิจารณาร่วมกันทุกปี

 

7) ในด้านการจัดการปัญหาที่ต้นตอ ร่างฯ ของพรรคก้าวไกลกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดทำรายงานการปล่อยมลพิษทางอากาศครอบคลุมทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และต้องมีมาตรการลงโทษที่ชัดเจนทั้งทางแพ่งและทางอาญา รวมทั้งมาตรการเปิดเผยรายชื่อผู้กระทำผิดให้สาธารณะได้รับทราบ

 

ภัทรพงษ์กล่าวต่อไปว่า หลังจากร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการจัดการอากาศสะอาดทั้ง 7 ฉบับผ่านวาระหนึ่งในวันนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณากฎหมายดังกล่าวต่อไป และจะมีการนำข้อดีของแต่ละร่างฯ มาประกอบกัน เพื่อให้ได้ พ.ร.บ.ที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของประชาชนมากที่สุด จึงขอให้ประชาชนทุกคนร่วมกันติดตามการปรับปรุงรายละเอียดของกฎหมายในชั้นกรรมาธิการต่อไป

 

หลังการอภิปรายสรุปจากผู้เสนอร่างกฎหมายทุกภาคส่วน สภาฯ ได้มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดทุกฉบับ โดยลงคะแนนเห็นด้วย 443 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 0 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง โดยกำหนดระยะเวลาในการแปรญัตติ 15 วัน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #ประชุมสภา #pm25