วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567

กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ยื่นหนังสือขอพบนายกฯเศรษฐา หารือทางออกแนวทางการทำประชามติ กังวลคำถามไม่เปิดกว้าง กำกวม นำไปสู่การไม่สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน ขอรัฐบาลรับฟัง


กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ยื่นหนังสือขอพบนายกฯเศรษฐา หารือทางออกแนวทางการทำประชามติ กังวลคำถามไม่เปิดกว้าง กำกวม นำไปสู่การไม่สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน ขอรัฐบาลรับฟัง

 

วันนี้ (15 มกราคม 2567) เวลา 12.15 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ หรือ #Conforall นำโดย นายณัชปกร นามเมือง หรือ ถา โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw), ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ และนายรัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล เข้ายื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือทางออกการทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตามที่คณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามออกคำสั่งแต่งตั้ง ได้แถลงสรุปผลการศึกษาแนวทางการทำประชามติไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566

 

จากผลสรุปดังกล่าว ทำให้กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญอันประกอบไปด้วยองค์กรภาคประชาชนและภาคประชาสังคมไม่น้อยกว่า 43 องค์กร มีความรู้สึกผิดหวังและมีความห่วงกังวลต่ออนาคตการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากเห็นว่าแนวทางการทำประชามติดังกล่าวจะไม่เป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน เพราะเป็นการตั้งคำถามประชามติที่มีความกำกวมและมีประเด็นให้ต้องตัดสินใจมากกว่าหนึ่งประเด็นในหนึ่งคำถาม อันอาจจะนำไปสู่การบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน หรือไม่สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน

 

อีกทั้ง การตั้งคำถามประชามติในเชิงปิดกั้นความคิด ความเชื่อ ความฝัน ต่อการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งในระหว่างการจัดออกเสียงประชามติ เนื่องจากตัวคำถามไม่ได้เปิดกว้างเพียงพอต่อประชาชนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมือง รวมถึงเป็นการนำสถาบันกษัตริย์เข้ามาสู่ใจกลางความขัดแย้งของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่จำเป็น จนอาจกลายเป็นชนวนที่ทำให้การทำประชามติซึ่งเป็นประตูด่านแรกของการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อย่างที่รัฐบาลมีความตั้งใจไม่ประสบความสำเร็จ

 

ด้วยเหตุนี้ ทางกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ จึงมีความประสงค์ที่จะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในฐานะผู้มีอำนาจพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดออกเสียงประชามติเพื่อหารือทางออกเกี่ยวกับแนวทางการทำประชามติ

 

โดยนายรัชพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ เป็นส่วนหนึ่งของการล่ารายชื่อที่เคยเสนอคำถามประชามติกับคณะรัฐมนตรีไป โดยเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาได้รับข่าวว่า ทางคณะกรรมการศึกษาประชามติฯ ก็ได้มีคำถามประชามติออกมาแล้ว ที่เรามาในวันนี้เพราะรู้สึกว่ายังมีความกังวลว่า คำถามประชามตินี้อาจจะเป็นปัญหาต่อไป โดยเป้าหมายของเราเหมือนกันคือต้องการให้ประชามติผ่าน เราต้องการให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่สำเร็จให้ได้ แต่สิ่งที่กังวลคือการตั้งคำถามประชามติโดยที่เอาเรื่องของเนื้อหา และเจตจำนงของการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชนมารวมกันโดยการห้ามแตะหมวด 1 หมวด 2 อาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดคำถามว่าหมวด 1 หมวด 2 คืออะไรทำไมต้องยกเว้น และการทำให้เกิดการถกเถียง ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่จำเป็น

 

จึงมาวันนี้เพื่อที่จะติดตาม โดยมี 2 ประเด็นที่อยากจะพูดให้ชัดเจน คือ

 

1. การเขียนรัฐธรรมนูญหมายทั้งฉบับ ไม่ได้หมายถึงจะแก้หมวด 1 หมวด 2 หรือว่าจะไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 แต่เราแค่บอกว่าใครจะแก้ หรือไม่แก้หมวด มาตราไหน ก็ให้อยู่ที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เมื่อถึงเวลาก็ไปเลือก สสร.ที่เราอยากให้มาแก้ไขหมวดหรือมาตราตามที่เราต้องการ

 

2. การเขียนคำถามประชามติล็อกว่าจะไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 ในขั้นแรก ไม่ได้หมายความว่าหมวดอื่น ๆ จะไม่ถูกล็อกโดยรัฐสภา ซึ่งเราทราบดีว่าในรัฐสภามี สว.ที่ไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เรามองว่าการระบุลงไปเลยว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะเป็นเกราะป้องกัน ทำให้การพูดคุยกันในสภาทำได้ง่ายขึ้น เพราะมีเสียงของประชาชนผ่านการทำประชามติ คอยสนับสนุนอยู่แล้ว

 

ขณะที่น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า ก่อนอื่นเลยก็ขอฝากคุณสมคิดให้ช่วยทำอย่างไรก็ได้ให้ทาง"Conforall" ได้เข้าพบนายกฯเศรษฐา เพื่อหารือในประเด็นคำถามประชามติ

 

และในส่วนคำถามของ"Conforall" ที่มีการล่ารายชื่อ 211,904 รายชื่อ เข้าไปแล้ว ณ ตอนนี้อยู่ในขั้นไหนแล้ว อยู่ในมือของครม.แล้วใช่ไหม ครม.ได้เห็นคำถามของพวกเราแล้วหรือ และได้เห็นหรือเปล่าว่า 211,904 รายชื่อกว่าที่พวก้ราจะได้มาในช่วงเวลาแค่ 5 วัน พวกเราต้องทุ่มแรงดายแรงใจนาดไหน ความตั้งใจของประชาชนทีายื่นคำถามไป ก็อยากให้ครม.ตอบกลับว่าตอนนี้คำถามประชาชนอยู่ตรงไหนแล้ว ได้เห็นหรือเปล่า

 

ด้านนายสมคิด กล่าวว่ากรณีที่ยื่นหนังสือเรื่องคำถามการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในที่ประชุมของคณะกรรมการฯ พยายามจะบอกเงื่อนไข แต่มีเสียงสะท้อนมาว่า ทำไมต้องมีเงื่อนไข ซึ่งความจริงมีหลายกลุ่มถามเราว่า จะต้องเปิดกว้างในคำถามก่อนหรือไม่ และจะเสี่ยงหรือไม่

 

นายสมคิดระบุด้วยว่า สามารถมองได้สองมุม มุมหนึ่งบอกว่าถ้าเปิดกว้างไปก็เสี่ยงที่จะไม่ผ่านประชามติ อีกมุมหนึ่งบอกว่าเปิดกว้างก็ผ่าน จึงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ การมายื่นหนังสือในวันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้ได้ฟังประชาชนจำนวนหนึ่งว่ามีความต้องการแบบไหน

 

ประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญนายสมคิดระบุว่า ทุกพรรคการเมืองมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไข ดังนั้นในส่วนของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตอนนี้ รายละเอียดยังไม่มี โดยทั้งนี้แต่ละพรรคมีเป้าหมายของแต่ละพรรคอยู่แล้วเพียงอต่จะเอามารวมกันอย่างไรถึงจะเดินได้ บวกเกินไปก็ไม่ได้ลบเกินไปก็ไม่ดี สิ่งเหล่านี้ต้องมาคุยกัน

 

ส่วนเรื่องรายชื่อที่ทางกลุ่มฯ ยื่นมาตนเพียงแต่ทราบแต่ว่ายังไม่เห็นเรื่อง แต่จะเร่งติดตามให้ โดยให้ฝ่ายสำนักเลขาฯติดตามว่าเรื่องต่าง ๆ ที่ร้องไปถึงไหนแล่ว ขอยืนยันว่าเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นของภาคประชาชน ตนไม่เคยทิ้ง

 

โดยอยากให้ทุกส่วนมั่นใจว่า เราต้องการแก้รัฐธรรมนูญ เราจะยืนอยู่กับรัฐธรรมนูญ 60 ไม่ได้ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ทำงานยากเพราะติดขัดไปหมด ตนมั่นใจว่าทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลเห็นตรงกันว่าจะแก้ เพียงแต่ไปตกลงในรายละเอียดเท่านั้นเอง

 

ทั้งนี้นายสมคิดทิ้งท้ายว่า จะช่วยประสานงานให้กลุ่ม"Conforall" เข้าพบนายกฯเพื่อที่จะได้พูดคุยกันต่อไป

 

ทั้งนี้ทางกลุ่ม"Conforall" ระบุว่า จะรอจนถึงสิ้นเดือนนี้หรือก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติเคาะคำถามประชามติและจัดทำ โดยภัสราวลี กล่าววาาถ้าเกิดสิ้นเดือนนี้ยังไม่สามารถเข้าพบนายกฯได้ก็จะมีการทวงถามต่อไป แต่จะทวงถามในรูปแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับ ท่าทีของท่านนายก

 

ด้านรัชพงษ์ กล่าวเสริมว่า ต้องทำให้ชัดเจน แม้ว่าจะมีคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติฯ จะมีการเสนอคำถาม แต่นั่นเป็นเพียงแค่ข้อเสนอ ไม่ใช่มติคณะรัฐมนตรีซึางตามกฏหมายต้องเป็นมติคณะรัฐมนตรีเท่านั้น โดยมีนายเศรษฐา นายกฯนั่งเป็นประธาน ดังนั้นความรับผิดชอบ การตัดสินใจอำนาจหน้าที่อยู่ในมือของคุณเศรษฐา นายกฯเพียงคนเดียว ก็ต้องมาติดตามดูว่านายเศรษฐาจะคิดอย่างไรในเรื่องนี้ รัชพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #conforall #ประชามติ #รัฐธรรมนูญใหม่