วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2567

ประธาน กมธ.ตร. เผย รพ.ตร. ให้ความร่วมมือ หายข้องใจ พบปฏิบัติต่อผู้ต้องขังเท่าเทียมกัน ชี้ “ทักษิณ” ไม่ได้ผิดอะไร แต่เป็นหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่ต้องตอบคำถามและส่งเอกสารชี้แจงตามที่ขอไป ฝากถึงนายกฯ ของบ 2 ล้าน ซ่อมกล้องวงจรปิด

 


ประธาน กมธ.ตร. เผย รพ.ตร. ให้ความร่วมมือ หายข้องใจ พบปฏิบัติต่อผู้ต้องขังเท่าเทียมกัน ชี้ “ทักษิณ” ไม่ได้ผิดอะไร แต่เป็นหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่ต้องตอบคำถามและส่งเอกสารชี้แจงตามที่ขอไป ฝากถึงนายกฯ ของบ 2 ล้าน ซ่อมกล้องวงจรปิด


วันนี้ (12 มกราคม 2567) ภายหลังคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการฯ เข้าศึกษาดูงานที่รพ.ตำรวจ โดยมี พลตำรวจตรีสามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์ (สบ 7) รพ.ตำรวจ ให้ข้อมูลและตอบคำถามกับคณะกรรมาธิการฯ และได้พาขึ้นไปตรวจดูบริเวณชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ที่นายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวอยู่


นายชัยชนะ ได้เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับรพ.ตำรวจ ได้รับทราบว่า ขณะนี้มีผู้ต้องขังที่มารับรักษาตัวแบบค้างคืนเพียงรายเดียว คือ นายทักษิณ ชินวัตร นอกนั้นเป็นผู้ต้องขังที่มารักษาอาการป่วยแบบมาเช้าเย็นกลับ ซึ่งวันนี้ได้หารือตามกรอบระเบียบ และได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปที่บริเวณชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา เพื่อดูวิธีการการคุมขังผู้ต้องขัง


เบื้องต้นพบว่าบริเวณชั้น 14 มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับตำรวจท้องที่ คือ สน.ปทุมวัน และตำรวจสันติบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 นาย ตำรวจ สน.ปทุมวัน 3 นาย และตำรวจสันติบาล 3 นาย ยืนประจำอยู่ แต่อยู่ในจุดใดบ้างไม่สามารถบอกได้ เป็นความลับด้านความมั่นคง


ส่วนภายในชั้น 14 และส่วนของห้องพักผู้ป่วย ตนไม่ได้เข้าไป เพราะเป็นเรื่องของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ จึงไม่สามารถเข้าพบผู้ต้องขังได้ และพื้นที่ดังกล่าวก็มีผู้ป่วยคนอื่น ๆ พักรักษาตัวอยู่ด้วย


จากนั้น เจ้าหน้าที่รพ.ตำรวจ ได้พาลงมาตรวจดูที่ชั้น 7 ซึ่งวันนี้มีผู้ต้องขังจากเรือนจำพิเศษมีนบุรี มารับการรักษาเกี่ยวกับโรคต้อกระจก 2 ราย โดยผู้ต้องหาแต่ละราย มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมอยู่ 2 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารพ.ตำรวจและกรมราชทัณฑ์ มีการปฏิบัติกับผู้ต้องขังที่มารักษาตัวอย่างเท่าเทียมกัน


โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะมีการผลัดเปลี่ยนเวรกันครั้งละ 24 ชั่วโมง และต้องมีการรายงานผู้บังคับบัญชาทุก 2 ชั่วโมงผ่านทางไลน์ สำหรับในห้องที่ผู้ต้องขังพักอยู่ ต้องไม่ล็อกประตู ผู้คุมต้องสามารถเปิดเข้าไปได้ทุกเวลา


สำหรับวิธีการรักษา เป็นข้อมูลทางการแพทย์ ที่ไม่สามารถบอกได้ ส่วนเรื่องอาการป่วย รพ.ตำรวจก็ได้ชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อถามว่านายทักษิณ จะต้องรักษาตัวไปอีกนานเท่าไหร่ นายชัยชนะ ตอบว่า ตนจะไม่ก้าวล่วงการรักษาของแพทย์ แต่แพทย์ก็มีบอกมาว่า มนุษย์เรา เมื่อเข้าวัย 70 ปี ก็สามารถป่วยได้อยู่ตลอดเวลา

 

นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า การมาที่รพ.ตำรวจในวันนี้ ถือว่าไม่ผิดหวัง เพราะได้ขึ้นดูชั้น 14 และในส่วนของรพ.ตำรวจ ถือว่าได้ข้อมูลครบถ้วน ปฏิบัติอย่างถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ซึ่งตนไม่ข้องใจกับทางรพ.ตำรวจ แต่ข้องใจกับทางกรมราชทัณฑ์


หลังจากนี้ กรมราชทัณฑ์ต้องส่งเอกสารตามที่ได้ขอไป ได้แก่ รายชื่อผู้คุมที่มาปฏิบัติงาน มีการผลัดเปลี่ยนเวรอย่างไร / รายละเอียดเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ว่าเกินสิทธิที่เบิก สปสช. หรือไม่ และส่วนที่เกินมีการใช้เงินส่วนตัวหรือไม่ ใช้ระเบียบข้อใด และสำเนา ใบ รท.101 คือ ข้อมูลการส่งออกรักษาภายนอก รวมถึงประวัติก่อนเข้าเรือนจำว่ามีการกรอกไว้หรือไม่ อย่างไร


โดยสิ่งไหนให้ได้หรือไม่ได้ กรมราชทัณฑ์ก็ต้องตอบมา ถ้าได้เอกสารแล้วตรวจพบว่ามีสิ่งใดไม่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินการต่อไป ตนมองว่า นายทักษิณไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ไม่ต้องการเป็นจำเลยสังคม ก็ต้องชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ตอบสิ่งที่สังคมสงสัยให้ได้ว่านายทักษิณพักรักษาตัวอยู่ที่นี่อย่างไร


ภายหลังให้สัมภาษณ์ นายชัยชนะ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า ของบ 2 ล้านบาท มาซ่อมกล้องวงจรปิดอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา เพราะเสียแทบทั้งตึก ตั้งแต่ก่อนนายทักษิณเข้ารักษาตัวแล้ว”


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กมธตร #โรงพยาบาลตำรวจ #ราชทัณฑ์ #ทักษิณชินวัตร