ศาลจังหวัดสมุทรปราการให้ประกัน
"ก้อง อุกฤษฏ์" วางหลักทรัพย์วงเงิน 250,000 บาท หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดี ม.112 - พ.ร.บ.คอมฯ
วันนี้
(30 มกราคม 2567) ตามที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
รายงานผ่าน X ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำคุก "ก้อง อุกฤษฏ์" 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ในคดีมาตรา112 และ ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ
สืบเนื่องมาจากโพสต์ข่าวของเพจ
Jonh New
World เข้ากลุ่ม #รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ซึ่งเป็นข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมของชาวต่างชาติเพื่อประท้วงพระมหากษัตริย์ไทยที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี
พร้อมข้อความประกอบการแชร์ว่า “อย่างนี้ต้องทรงพระเจริญเต็มที่เลยนะเนี่ย”
คืบหน้าล่าสุด
เวลา 12.20
น. ศูนย์ทนายฯ รายงานเพิ่มเติมว่า
ศาลจังหวัดสมุทรปราการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา
โดยวางหลักทรัพย์ประกันเป็นวงเงิน 250,000 จากหลักทรัพย์เดิมจำนวน
150,000 บาท และเพิ่มจำนวนอีก 100,000 บาท
โดยไม่มีเงื่อนไข
สำหรับ
"ก้อง อุกฤษฏ์" นั้นเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ได้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวเรียกร้อง โดยเข้าร่วมกลุ่ม
“เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย” และต่อมาเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม
"ลูกพ่อขุนฯโค่นล้มเผด็จการ" และกลุ่ม #ทะลุราม เพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและการมีรัฐสวัสดิการ
"ก้อง อุกฤษฏ์" ได้จับไมค์ขึ้นปราศรัยบนเวทีอยู่หลายครั้ง
รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ จนเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112
โดยไม่ได้คาดคิด ถึง 2 คดี ใน 2 สถานีตำรวจ และถูกฟ้องใน 2 ศาล
โดยเมื่อวันที่
26 มกราคม 2567 อุกฤษฏ์ ได้ร่วมวงเสวนา Stand
Together 4 เดินหน้านิรโทษกรรม
ยุติการดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชน ที่จัดโดย iLaw ช่วงหนึ่งของการสนทนา
อุกฤษฏ์ได้เล่าถึงคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
จากกรณีเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทยผ่านเพจเฟสบุ๊กส่วนตัว “John
New World” ซึ่งทำให้เขาถูกตำรวจเข้าจับกุมที่ในที่พัก
พยายามกดดันให้เขารับสารภาพโดยไม่มีทนายความอยู่ด้วย
โชคดีที่ต่อมาเขาได้พบกับผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 อีกหนึ่งคนที่สถานีตำรวจทุ่งสองห้องจึงได้บังเอิญพบกับทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
และได้รับสิทธิตามกฎหมายอย่างที่ควรจะเป็น
และต่อมาอุกฤษฏ์ยังถูกเจ้าหน้าที่จาก
สน.บางแก้ว เข้าอาญัติตัวด้วยข้อหาแชร์โพสต์จากเพจ John New World ในข้อหามาตรา
112 อีกหนึ่งคดี
และยังถูกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ
ปอท. แจ้งข้อหาเพิ่มในคดีแรกจากสามกรรมเป็นห้ากรรม
แม้ว่าข้อกล่าวหาที่เพิ่มเข้ามานั้นอุกฤษฏ์จะไม่ได้มองว่าจะสามารถเข้าข่ายมาตรา 112
ได้ก็ตาม
ทำให้เขามีคดีมาตรา
112 สองคดี โดยคดีแรกศาลอาญาตัดสินลงโทษจำคุกห้าปี 30 เดือน
และคดีที่สองศาลจังหวัดสมุทรปราการตัดสินลงโทษจำคุก 4 ปี
ให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี
โดยไม่มีเหตุให้รอลงอาญาและศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวอุกฤษฏ์ระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา
โดยใช้หลักประกันเดิมในชั้นพิจารณาคดี เป็นหลักทรัพย์จำนวน 150,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยไม่มีเงื่อนไขในการให้ปล่อยตัวชั่วคราว
และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันนี้ตามรายละเอียดข้างต้น