"พิธา"
ฟังคำตัดสินศาลรธน. มั่นใจความบริสุทธิ์ ปัดตอบนั่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ลั่นไม่ยึดติดตำแหน่ง ด้อมส้มแห่ให้กำลังใจ ยกเป็น "นายกฯ ในดวงใจ"
วันนี้
(24 มกราคม 2567) เวลา 12.45 น. ที่หน้าอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน
หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมารับฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
ในคดีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคก้าวไกล
เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)
ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง
สส.บัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
โดยศาลได้เริ่มประชุมหารือกันตั้งแต่เวลา 09.30 น. และจะแถลงคำวินิจฉัยในเวลา
14.00 น. ผ่านช่องทางยูทูปศาลรัฐธรรมนูญ
นายพิธา
กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน และสมาชิกพรรคก้าวไกล
ทุกคนในพรรคที่คอยให้กำลังใจ ที่ทำงานหนักตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ที่ช่วยทำคำแถลงปิดคดี ส่วนตน มั่นใจในข้อเท็จจริง และความบริสุทธิ์ของตัวเอง
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแผนการดำเนินงานของพรรค ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร
ก็จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป เสาร์ อาทิตย์นี้ก็ลงพื้นที่เหมือนเดิม
ในกรณีที่กลับเข้าสภาได้ ส่วนจะเข้าได้เมื่อไหร่นั้น
คงต้องคุยกับประธานสภาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการจัดการเรื่องเอกสารจะต้องใช้เวลา
โดยตนจะให้ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการ
"วันนี้ขอฟังคำวินิจฉัยก่อน
ผมยังมั่นใจในบรรทัดฐานคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองสูงสุดก่อนหน้านี้
ซึ่งหากใครได้ลงรายละเอียดจะเข้าใจว่าการเป็นสื่อมวลชนนั้นจะต้องมีใบประกอบกิจการอะไรบ้าง"
เมื่อถามว่ามีข้อกังวลใจอะไรบ้างหรือไม่
นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีข้อกังวลใจ
ไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงในอดีตหรือสถานการณ์ในปัจจุบัน
รวมทั้งอนาคตก็ยังรับใช้พี่น้องประชาชนเหมือนเดิม
ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคก้าวไกลในการจัดทำแผนการทำงานของพรรคก้าวไกล ในปี
2567
“ส่วนมติของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นเอกฉันท์หรือไม่นั้น
ตนไม่อาจก้าวล่วงในเรื่องนี้ได้ คงต้องรอฟังอย่างเดียว”
กังวลหรือไม่ว่าอาจจะซ้ำรอยกับกรณีของ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพิธา กล่าวว่า กรณีของนายธนาธร
มีเอกสารที่สามารถพิจารณาได้ว่ายังสามารถประกอบกิจการได้ แต่กรณีของบริษัทไอทีวี
ทาง กสทช. ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีคลื่นความถี่ ไม่สามารถกลับมาทำธุรกิจได้
ที่สำคัญคือตนได้โอนหุ้นให้กับน้องชายแล้วตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าในอนาคต
จะเกิดอะไรขึ้น กับทางบริษัทไอทีวี
ส่วนกระบวนการหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่
นายพิธา กล่าวว่า ตนและนายชัยธวัช ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ตนแค่ต้องการทำงาน
ในช่วงเดือนเม.ย.นี้
ระหว่างที่
นายพิธา เดินผ่านเวทีแสดงดนตรีสดภายในอาคารศูนย์ราชการ
ศิลปินบนเวทีได้ร้องเพลงไม่เป็นรอง วง Cocktail เพื่อต้อนรับ นายพิธา
ได้ชี้นิ้วไปที่ศิลปิน พร้อมกับร้องเพลงดังกล่าวคลอตามไปด้วย
จากนั้น
นายพิธา พร้อมด้วย นายชัยธวัช
ได้เดินมายังจุดคัดกรองก่อนเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีเพื่อฟังคำวินิจฉัย
และได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำแนวรั้วเพื่อรักษาความปลอดภัย
เนื่องจากมีกลุ่มสื่อมวลชนและผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้
มวลชนยังได้ ตะโกนให้กำลังใจว่า "นายกฯ พิธา" เป็นระยะ ทั้งนี้ นายพิธา
และนายชัยธวัช ได้หันกลับมาโบกมือและส่งยิ้มให้มวลชนอีกครั้ง
ระหว่างขึ้นบันไดเลื่อนเข้าสู่ห้องพิจารณาคดี
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #หุ้นไอทีวี #ถือหุ้นสื่อ