“ชยพล” จี้กองทัพเปิดรายงานบัญชีธุรกิจ หลัง กมธ. งบขอแต่ไม่เคยได้
พร้อมโชว์จดหมายทางการสหรัฐฯ จี้ ทร.ขอข้อมูล เรือหลวงสุโขทัยล่ม วอน
ทร.เร่งทำตามสัญญา-เปิดข้อมูลให้ประชาชนทราบ
วันที่
18 มกราคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา ชยพล สท้อนดี
สส.กรุงเทพฯ เขต 8 พรรคก้าวไกล
แถลงข่าวเปิดเอกสารการตรวจสอบภายในการดำเนินการกิจการสวัสดิการภายในหน่วยขึ้นตรงทหารบก
พร้อมเปิดจดหมายทวงถามเอกสารข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง
ที่ทางการสหรัฐอเมริกาได้ทำเพื่อทวงถามมาทางกองทัพเรือเป็นครั้งที่สอง
ชยพลระบุว่าเอกสารนี้
พูดถึงการดำเนินกิจการของกิจการสวัสดิการภายในกองทัพบก โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ
เช่น การกีฬา การบันเทิง สถานพักฟื้น/พักผ่อน โรงแรม สโมสรต่างๆ
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือการกำหนดแนวทางในการรับเงินค่าตอบแทนของกำลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการในกิจการสวัสดิการทหารบกและหน่วยขึ้นตรงต่างๆ
ได้แก่ ศูนย์กีฬา ทบ. สนามกอล์ฟ สนามม้า สนามมวย สถานพักฟื้น ทบ.
เว้นกิจการสวัสดิการในเชิงธุรกิจ
สิ่งที่น่าสนใจคือเรื่องของเงินรางวัลการจัดสรรผลกำไรประจำปีของกิจการ
หรือ โบนัส ในอัตราที่กำหนด สำหรับกำลังพลที่มาปฏิบัติหน้าที่หรือช่วยราชการ
ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนอยากให้ทุกคนสนใจติดตาม เพราะในกรรมาธิการงบประมาณ
ตนก็ได้ขอระเบียบดังกล่าวกับทางกองทัพไปแล้ว ว่ามีการแจกโบนัสกันในอัตราเท่าไร
และใช้ระเบียบอะไรในการกำหนด
รวมทั้งเรื่องของกิจการสวัสดิการในเชิงธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในกรอบข้อบังคับนี้
ซึ่งตนอยากให้กองทัพเร่งในการส่งเอกสารมาชี้แจงให้กับกรรมาธิการงบประมาณด้วย
ชยพลกล่าวต่อไป
ว่าแต่สิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ที่ตนอยากให้สื่อมวลชนร่วมกันจับตา
คือการตรวจสอบภายในของกองทัพบกตั้งแต่ปี 2565 โดยคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลและประสิทธิภาพหน่วยทหาร
ทบ.
ซึ่งในส่วนนี้ต้องชื่นชมกองทัพบกที่มีการตรวจสอบภายในและมีการรายงานข้อเท็จจริงออกมาอย่างชัดเจน
ว่าบางหน่วยพบปัญหาในการดำเนินกิจการ เช่น ไม่มีการจัดทำประมาณรายรับรายจ่าย มีปัญหาในการควบคุมรายรับรายจ่าย
การไม่จัดทำรายงานการเงินตามหลักการบัญชีสากล
การดำเนินการด้านภาษีและที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น โดยคณะกรรมการฯ
ได้ขอให้มีการแก้ไขทุกอย่างให้แล้วเสร็จตั้งแต่ภายในเดือนกันยายนปี 2565 แล้ว
ซึ่งในส่วนนี้
มีความเกี่ยวข้องกับข้อสังเกตที่คณะกรรมาธิการงบประมาณชุดปี 2566 ได้ให้ไว้กับกองทัพบก
เกี่ยวกับการเปิดเผยรายละเอียดงบประมาณในการบริหารธุรกิจของกองทัพ
ซึ่งกองทัพบกได้ชี้แจงว่ามีการดำเนินการด้านการเงิน การบัญชี
และการตรวจสอบเป็นไปตามกรอบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ประกาศแล้ว ดังนั้น
ตนคิดว่ากองทัพบกก็ไม่น่าจะต้องมีปัญหาอะไรในการเปิดเผยรายงานบัญชีแล้ว
หลังจากที่ขอกันมานานแต่ไม่เคยได้มีการเปิดเผยสักที
ชยพลแถลงข่าวในประเด็นต่อไป
ถึงกรณีการกู้เรือหลวงสุโขทัยที่อับปางลง โดยได้แสดงเอกสารจาก JUSMAGTHAI
(Joint-United States Military Advisary Group Thailand - คณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย)
ของทางการสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์ทุกอย่างที่มีการซื้อขายกันระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา
ที่ได้แจ้งเตือนมาทางกองทัพเรือไทย ถึงความสำคัญและความเร่งด่วนของการส่งรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับเรือหลวงสุโขทัย
ซึ่งทุกครั้งที่กองทัพไทยเลิกหรือเปลี่ยนวัตถุประสงค์ในการใช้ยุทโธปกรณ์ต่างๆ
ที่ซื้อมาจากสหรัฐอเมริกา จะต้องมีการส่งรายงานให้กับ JUSMAGTHAI ทุกครั้ง ตามสนธิสัญญาที่ไทยมีกับสหรัฐอเมริกา
ซึ่งกรณีเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางลง JUSMAGTHAI ได้มีการทวงถามมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว
ตามเอกสารลงวันที่ 1 ธันวาคม 2023 และกองทัพเรือก็ยังไม่ได้มีการส่งหนังสือชี้แจงอะไรกลับไปให้กับ
JUSMAGTHAI เลย ทั้งที่เป็นหน้าที่ตามสัญญา
ชยพลยังกล่าวต่อไป
ว่าจนถึงปัจจุบันสิ่งที่สาธารณชนต้องการรับทราบ
ยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาแม้แต่อย่างเดียว รวมถึง Detail Survey Report ที่ตนได้ถามหาไปเมื่อครั้งการอภิปรายงบประมาณก็ยังไม่ได้รับ
ซึ่งต่อกรณีนี้ตนได้ถามกับผู้บัญชาการทหารเรือไปเมื่อวานนี้
และได้รับคำตอบว่าทางกองทัพเรือจะเร่งให้ถึงที่สุด
แต่ในอีกแง่หนึ่งกองทัพเรือเคยชี้แจงว่าจะเร่งมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ดังนั้น
การบอกว่าจะเร่งอย่างเดียวก็คงไม่พอ ควรจะมีการเปิดเผยข้อมูลออกมาบ้างได้แล้ว
หรืออย่างน้อยก็ควรจะให้ไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ว่าจะให้ทุกอย่างเสร็จภายในเมื่อไหร่
แต่สิ่งที่น่าสนใจ
คือในข้อที่ 2
ของเอกสารเตือนที่ JUSMAGTHAI ส่งมา
มีการระบุไว้ในลักษณะของคำเตือนอย่างชัดเจน
ว่าผู้ที่จะทำการกู้เรือหลวงสุโขทัยจะต้องผ่านการรับรองโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาก่อน
แปลว่ากระบวนการหาคู่สัญญาในการกู้เรือวันนี้
แม้จะหามาได้แต่หากยังไม่ได้คุยกับทางสหรัฐอเมริกา
การกู้เรือก็อาจจะยังไม่สามารถทำได้
ซึ่งทำให้เกิดคำถามขึ้นว่ากองทัพเรือได้มีการคุยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิดขนาดไหน
ที่สำคัญ
คือในบรรทัดสุดท้ายของข้อที่ 2 ในเอกสารเตือนจาก JUSMAGTHAI มีการระบุด้วยว่าหากกองทัพเรือไทยไม่ยอมทำตามข้อตกลงนี้
จะมีผลต่อการซื้อขายอาวุธระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาต่อไปในอนาคตทั้งหมด
นั่นหมายความว่าถ้ากองทัพเรือทำการกู้เรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาโดยไม่มีการสื่อสารกับทางสหรัฐอเมริกา
ประเทศไทยก็อาจจะมีปัญหาในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ในอนาคตได้
และกองทัพก็จะเสียโอกาสในการมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยไป
กระทบไปถึงเหล่ากองทัพบกและกองทัพอากาศด้วย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาในอนาคตข้างหน้าโดยกองทัพไทย
ผมอยากให้กองทัพเรือมองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ
เพราะเรื่องนี้ไม่เคยมีการสื่อสารมาก่อน
และพอผมจี้ถามไปก็บอกว่าเป็นวาระเร่งด่วนแค่นั้น อยากให้มีการเร่งหาคำตอบให้สังคมโดยเร็วกว่านี้”
ชยพลกล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #ธุรกิจกองทัพ #เรือหลวงสุโขทัย