‘นายกฯ‘ เข้าเฝ้า ’สมเด็จพระสังฆราช‘
วันปีใหม่ 2567 เผย พระองค์ทรงเป็นห่วงเรื่องบ้านเมือง ย้ำปีนี้รบ.ยังทำงานหนัก-เต็มที่เหมือนเดิม เผยไม่กังวลในเวทีพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ
ปี 67
วันที่
1 มกราคม 2567 เวลา 10.35 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
พร้อมด้วย พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ทันทีที่ นายกฯ และภริยา
เดินทางถึงวัดราชบพิธฯ ได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
จากนั้นทักทายสื่อมวลชนและประชาชนที่มาทำบุญวันปีใหม่ ว่า “สวัสดีปีใหม่”
พร้อมร่วมถ่ายรูปกับประชาชน ก่อนเดินไปเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ
สมเด็จพระสังฆราชฯ ภายในพระอุโบสถ
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเฝ้า
สมเด็จพระสังฆราชฯ ว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานพรให้มีความสุข
โดยท่านสอบถามเรื่องบ้านเมืองที่เป็นห่วงว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
ส่วนความคาดหวังในปีงูใหญ่นั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูที่ประชาชนเป็นหลัก โดยจะต้องดูแลทั้ง 3 สถาบันทั้ง
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง
ซึ่งจะต้องดูให้ทุกมิติ ไม่ใช่แต่เรื่องเศรษฐกิจหรือปากท้องเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องดูในเรื่องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน อย่างอากาศบริสุทธิ์ การประกอบอาชีพ
เพศสภาพ เป็นต้น
พร้อมยืนยันว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้ก็ยังเหมือนเดิมคือการแก้ไขปัญหาประชาชน
ซึ่งจะต้องทำในทุกมิติ
เพราะปัญหาของประชาชนมีความลึกในหลายมิติฉะนั้นต้องทำทุกอย่าง
อะไรทำได้ก็ทำก่อนอย่างเช่น เรื่องการปรับโครงสร้าง การแก้ไขและพัฒนาในหลายเรื่องซึ่งถือว่าเป็นภารกิจที่เยอะและใหญ่
เมื่อถามว่า ปี 2567
จะต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ตนขอใช้คำว่าทำงานหนักเหมือนเดิมดีกว่า เพราะเท่าที่ทำมา
ทุกคนก็ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว รัฐมนตรีทุกคนที่มาจากทุกพรรคก็ทำงานอย่างเต็มที่
นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
2567 ระหว่างวันที่ 3- ว่า
ได้มีการพูดคุยกันและประชุมกันไปแล้วตั้งแต่ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่
และในช่วงปีใหม่ได้เจอกับรัฐมนตรีบางท่านก็ได้มีการพูดคุยกัน
ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ที่เสนอในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรก็มีหน้าที่ตรวจสอบ
และรัฐบาลมีหน้าที่ในการอธิบายก็ทำไปตามหน้าที่
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าเวทีพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ
ปี 67 จะกลายเป็นเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ กล่าวว่า “
ผมเชื่อว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง
วันนี้เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณ เราก็ต้องพูดกันถึงเรื่องงบประมาณ
แต่ถ้ามีข้อกังขาอะไรที่ไม่ชัดเจน เราก็จะพยายามชี้แจงอย่างเต็มที่
เพื่อชี้แจงให้ท่านสมาชิกสภาฯ ทุกท่านผ่านไปยังประชาชนทุกคน
เมื่อถามต่อว่าจะชี้แจงทันทีหรือจะรอให้จบเป็นเรื่อง
ๆ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบต้องไปรอดูที่สภาอีกที เข้าใจว่าตนจะเป็นผู้พูดเปิด
และอ่านให้ฟังว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้มีอะไรบ้าง
ซึ่งเข้าใจว่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
เมื่อถามย้ำว่าในส่วนของนายกฯมีความพร้อมแค่ไหน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ”เตรียมตัวพร้อมครับอย่างไรก็พร้อม
เมื่อถามอีกว่าในระหว่างการพิจารณาจะมีการกำชับในที่ประชุมหรือไม่ว่าจะไม่ให้เกิดการตบทรัพย์เหมือนอย่างที่เคยเกิดเกิดขึ้นที่ผ่านมา
นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยทราบในเรื่องนี้ แต่ทราบว่าทุกท่านเองก็มีศักดิ์ศรี และ
เชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรับได้ ทุกท่านรู้หน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นต้องกำชับ
เมื่อถามต่อว่าจำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์ตัวนายกฯหรือไม่
นายเศรษฐา กล่าวว่า คงไม่มีหรอกครับ ไม่มี ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองและชี้แจงกันไป
เพราะสภาฯเองก็มีหน้าที่ในการสอบถาม
ด้วยความเป็นห่วงหน้าที่ของเราในฐานะผู้บริหารก็ต้องชี้แจง
ส่วนความคืบหน้าภายหลังรัฐบาลส่งหนังสือไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดูรายละเอียดในเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯ กล่าวว่า ยัง เปิดทำการสัปดาห์หน้าจึงจะทราบ
และคงไม่มีการเร่งรัดอะไรไป เพราะเร่งรัดไม่ได้เรื่องพวกนี้ ก้าวก่ายไม่ได้