วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566

‘เพื่อไทย’ ตั้งเป้ายกเครื่องบทบาทรัฐสภายุคใหม่ไม่เหมือนเดิม ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน เป็นศูนย์รวมแก้ปัญหาชาติ มีศักดิ์ศรีสมเป็นองค์กรนิติบัญญัติของคนไทย


‘เพื่อไทย’ ตั้งเป้ายกเครื่องบทบาทรัฐสภายุคใหม่ไม่เหมือนเดิม ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน เป็นศูนย์รวมแก้ปัญหาชาติ มีศักดิ์ศรีสมเป็นองค์กรนิติบัญญัติของคนไทย

        

วันที่ 2 มิถุนายน 2566 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ยุติลงแล้วด้วยการจับมือกันเพื่อหาทางออกที่้ดีที่สุด ส่วนตัวมองว่ารัฐสภาในฐานะองค์กรนิติบัญญัติจะไม่เหมือนเดิมเพราะจะต้องถูกปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้ทัดเทียมกับฝ่ายบริหาร การสร้างภาวะสมดุลของ 2 องค์กรแห่งอำนาจอธิปไตย ได้แก่ นิติบัญญัติ และบริหารเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ของประชาชน


ทั้งนี้ เวทีของรัฐสภาภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ที่ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ซึ่งถือว่าเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยจะนำปัญหามาแสดงในที่ประชุมของสภา ,คณะกรรมาธิการ, คณะอนุกรรมาธิการและอื่นๆ เวลาการประชุมจะต้องถูกใช้อย่างมีคุณค่า ไม่สร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชน ความสัมพันธ์ระหว่างสภาผู้แทนฯ วุฒิสภา กับคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานรัฐให้ดำเนินไปด้วยดี โดยทุกฝ่ายให้เกียรติและให้ความเคารพกัน จะต้องไม่เป็นเหมือนในอดีต 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเผชิญหน้าและใช้คำพูดคำจา คำอภิปรายดูถูกเหยียดหยามกัน การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านประสบปัญหาหลายอย่าง ต่อไปนี้ ประธานรัฐสภาจะต้องทำหน้าที่เชื่อมประสาน โดยพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้าน พรรคการเมืองต่าง ๆ วุฒิสภา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีให้เป็นที่เข้าใจกัน ว่าจะสร้างความร่วมมือกันได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การร่วมกันของทุกพรรค ทุกฝ่าย ผลักดัน ให้มีการออกเสียงประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยไม่ชักช้า เพราะประชาชนกำลังเฝ้ารออยู่

  

นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า ศรัทธาของประชาชนต่อสภาผู้แทนฯ, วุฒิสภา ที่เสื่อมถอยไปมาก ไม่มีความเชื่อมั่นต่อคุณภาพสมาชิกรัฐสภาบางส่วน จะต้องถูกฟื้นฟูขึ้นมา การประชุมสภาฯ และการประชุมกรรมาธิการจะต้องได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนที่จะคอยติดตามข่าวสารว่า กลไกของรัฐสภาเหล่านี้จะแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างไร

  

“ถึงเวลาที่นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา นายกฯ รัฐมนตรีจะได้หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกันด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ หน้าที่ความรับผิดชอบต่างกันก็แสดงกันไป แต่เป้าหมายสูงสุดตรงกันคือประโยชน์สุขของประชาชน พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การแบ่งฝ่ายเลือกข้างของประชาชนและนักการเมืองที่สั่งสมมานานเกือบ 20 ปี เกิดความเกลียดชังอาฆาตแค้นมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู ถึงขนาดตายก็ไม่ไปเผาผี ทัศนคติและอารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้จะต้องหมดไป พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ทั้งนายกฯและประธานรัฐสภา ผู้นำสูงสุดของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องแสดงออกให้เห็นและผลักดันให้ปรากฏเป็นจริง เมื่อสมาชิกรัฐสภา ส.ส. วุฒิสภาปรองดองกัน ประชาชนก็จะคล้อยตาม” นางสาวตรีชฎากล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย