ศาลอาญากรุงเทพใต้
พิพากษาจำคุกคดี #ม112 “บอย” ธัชพงศ์ - “แอมป์” ณวรรษ -
ฉัตรรพี คนละ 3 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี
โดย ไม่รอลงอาญา ธัชพงศ์ - ณวรรษ และให้ฉัตรรพีรอลงอาญา เหตุอ่านแถลงการณ์ #ม็อบ14พฤศจิกา64 คัดค้านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีล้มล้างการปกครองฯ
หน้าสถานทูตเยอรมนี ด้านสส.แก้วตา-สิริน และมวลชน รอให้กำลังใจ
วันนี้
21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น.
ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาคดีของ ธัชพงศ์ แกดำ หรือ “บอย”, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือ “แอมป์” และ ฉัตรรพี อาจสมบูรณ์
ที่ถูกฟ้องในข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
และ “ยุยงปลุกปั่นฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จากเหตุการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 14 พ.ย.
2564
โดยการชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้น
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การชุมนุมเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่
10 สิงหาคม 2563 เป็นการล้มล้างการปกครอง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า
แถลงการณ์มีเนื้อหาว่าประเทศไทยอยู่ในระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์
ซึ่งขัดแย้งกับมาตรา 2
ของรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560 ที่บัญญัติไว้ว่า
"ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
การกล่าวว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยจึงไม่ตรงกับความเป็นจริง
ส่วนการกล่าวว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นการกล่าวอ้างลอย
ๆ ไม่มีหลักฐานสนับสนุน
ถ้อยคำแถลงการณ์ที่กล่าวว่าอำนาจอธิปไตยไม่ได้อยู่ในมือชาวไทยอีกต่อไปก็ไม่เป็นความจริง
ในเมื่อกษัตริย์ทรงใช้อธิปไตยผ่านรัฐสภา
ส่วนข้ออ้างที่ว่าแถลงการณ์ไม่ไดัระบุถึงกษัตริย์
แต่กล่าวถึงกลุ่มกษัตริย์นิยมและศาลรัฐธรรมนูญจึงฟังไม่ขึ้น
จำเลยย่อมทราบข้อเท็จจริงและเห็นแถลงการณ์มาตั้งแต่ต้น
ข้ออ้างที่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อนจึงฟังไม่ขึ้น
พิพากษาว่าจำเลยทั้ง
3 มีความผิดตาม ม.112 ส่วนในความผิด ม.116 พยานหลักฐานโจทก์ไม่แน่ชัด ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ให้จำคุกตาม
ม.112 คนละ 3 ปี
ก่อนลดโทษหนึ่งในสามเนื่องจากทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ คงจำคุกคนละ 2 ปี
เห็นว่าฉัตรรพีไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน
ให้รอลงอาญาไว้ 2
ปี คุมประพฤติ 1 ปี
และต้องเข้าพบคลีนิกจิตสังคมของศาลจำนวน 4 ครั้ง
ส่วนธัชพงศ์และณวรรษโทษจำคุกไม่รอลงอาญา
ขณะนี้กำลังยื่นประกันตัว
“บอย” ธัชพงศ์
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #มาตรา112


