“เพนกวิน”
แถลงต่อศาล หากได้รับการปล่อยตัว รับเงื่อนไขเช่นเดียวแกนนำราษฎร หากต้องติดกำไล EM ก็ยินดี
แต่อาจจะกระทบต่อการไปเรียนหนังสือ
ยืนยันจะเข้าร่วมเฉพาะกิจกรรมที่สงบสันติและจะไม่ไปร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
พ่อ-แม่-อาจารย์ร่วมรับรองความประพฤติ
วันนี้
(11 พ.ค. 64) จากกรณีที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
3 แกนนำราษฎร ไมค์-แอมมี่-เพนกวิน" วันนี้
เบื้องต้นเวลา
12.35 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แถลงต่อศาลในนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวว่า
ปัจจุบันตนเองอายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และที่ผ่านมามีประวัติด้านการศึกษาได้รับโอกาสไปแข่งขันได้รางวัลถ้วยพระราชทาน
ประกอบด้วยรางวัลเพชรยอดมงกุฏ ด้านประวัติศาสตร์ และรางวัลชนะเลิศตอบปัญหารัฐศาสตร์
ที่จัดขึ้นโดยคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยที่ผ่านมาตนเองไม่เคยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกมาก่อน
ซึ่งก่อนถูกคุมขังตนเองก็พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ โดยมีพ่อแม่เป็นผู้อบรม ดูแล
เลี้ยงดู ให้การศึกษา ในวันนี้หากศาลกำหนดเงื่อนไขเช่นเดียวกับ นายจตุภัทร์
บุญภัทรรักษา และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข
จำเลยในคดีเดียวกันที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ตนเองก็ยินดีรับเงื่อนไข
นายพริษฐ์
ยังแถลงต่อศาลอีกว่าที่ผ่านมาตนเองไม่เคยกระทำการใดที่เป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
และยินดีรับเงื่อนไข จะไม่กระทำการใด ๆ
ที่เป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ไม่เดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล จะเดินทางมาศาลทุกนัด
และได้แต่งตั้งทนายความในคดีแล้ว
อย่างไรก็ตาม
ขณะที่ทนายความจำเลยได้สอบถามจำเลยเกี่ยวกับการยอมรับเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวว่าจะยอมรับเงื่อนไขไม่เข้าร่วมกิจกรรมใด
ๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองด้วยหรือไม่ เพนกวิน
ได้มีการขอซักถามและหารือกับทนายความประมาณ 5 นาที
ศาลจึงระบุว่าการชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้อยู่แล้ว
นายพริษฐ์จึงแถลงยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ชุมนุมอย่างสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ
และจะเข้าร่วมเฉพาะกิจกรรมที่สงบสันติ
จะไม่ไปเข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
จากนั้นทนายความได้สอบถามนายพริษฐ์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ซึ่ง นายพริษฐ์
แถลงว่าตนเองมีโรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัว และหากไม่ได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางอย่างถูกต้อง
อาจเกิดอันตรายต่อชีวิต
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า
ตนเองรู้จักกับผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดี ฝ่ายการนักศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หากศาลกำหนดเงื่อนไขนอกจากให้พ่อแม่ โดยให้มีอาจารย์อดิศร กำชับดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลก็ยินดี
ส่วนการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไล EM ส่วนตัวรู้สึกว่าอาจจะกระทบต่อการไปเรียนหนังสือ
แต่หากศาลกำหนดเงื่อนไขนี้ด้วยก็ยินดี
ทั้งนี้
อัยการโจทก์ ได้ถามค้านนายพริษฐ์
เกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวว่ารวมถึงการกระทำใด ๆ
ในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ที่นายพริษฐ์ดูแลด้วยหรือไม่นั้น
นายพริษฐ์ตอบอัยการโจทก์ว่า
ตนเองไม่เคยใช้สื่อออนไลน์สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์
โดยในวันนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายพริษฐ์ขึ้นมาที่ห้องพิจารณาโดยใช้รถเข็น
ซึ่งนายพริษฐ์สวมเสื้อผู้ต้องขังสีน้ำตาลเข้ม ไม่มีสายน้ำเกลือ
และสามารถแถลงต่อศาลได้ด้วยน้ำเสียงปกติ จากนั้น นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์
แม่ของนายพริษฐ์ได้แถลงต่อศาลในฐานะพยาน ว่าตนเองมีลูก 2 คน
ซึ่งนายพริษฐ์เป็นลูกชายคนโต ที่ผ่านมาพักอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ ซึ่งเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดู
ส่วนประวัติการศึกษา
นายพริษฐ์เป็นเด็กเรียนดีได้ทุนเรียนดีมาโดยตลอดตั้งแต่ระดับประถมศึกษา
มีนิสัยใจดี มีน้ำใจ ไปแข่งขันสร้างชื่อเสียงให้กับสถาบันการศึกษามาโดยตลอด
และถ้าไม่ถูกควบคุมตัวเชื่อว่าปีนี้จะเรียนจบระดับปริญญาตรี และได้รับเกียรตินิยมด้วย
จึงได้ยื่นเหตุผลเรื่องการศึกษาในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ลูกชายได้กลับไปเรียนหนังสือ
และก่อนหน้านี้ นายพริษฐ์ก็ไม่เคยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุดมาก่อน
หากได้รับการปล่อยชั่าวคราวไป
ในฐานะแม่เชื่อว่าจะควบคุมดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลได้
ด้านพ่อของนายพริษฐ์
ก็ได้แถลงต่อศาลในฐานะพยาน
ในทำนองเดียวกันว่าที่ผ่านมาพ่อและแม่เป็นผู้อบรมพฤติกรรมของนายพริษฐ์
หากศาลมีเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ก็ขอยืนยันต่อศาลว่าตนเองจะกำชับให้ลูกชายปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมด
ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิศร
จันทรสุข รองอธิการบดี ฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้แถลงความต่อศาลว่า ตนเองมีหน้าที่ดูความประพฤติ ระเบียบวินัย
และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของนักศึกษา ที่ผ่านมานายพริษฐ์มีผลการเรียนที่ดีมาก
ไม่เคยได้รับการลงโทษใด ๆ อยู่ในเกณฑ์ความประพฤติดี ปัจจุบันได้พักการเรียนไว้
หากได้รับการปล่อยชั่วคราวก็สามารถกลับไปเรียนได้
ส่วนเงื่อนไขที่นายพริษฐ์แถลงต่อศาลก็เชื่อว่านายพริษฐ์จะปฏิบัติตามได้
และยินดีที่จะช่วยศาลกำชับดูแลนายพริษฐ์
นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์
ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ต้องขังทั้งในเรือนจำ และระหว่างเดินทางมาศาล
ได้แถลงต่อศาลว่าระหว่างที่นายพริษฐ์อยู่ในเรือนจำ หรือเดินทางมาศาล
นายพริษฐ์ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ไม่ได้ฝ่าฝืนระเบียบ
และมีความประพฤติเรียบร้อยดี
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์