วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ตำรวจร้องขอถอนประกัน 4 จำเลย คดี 19 กันยา สมยศ, ภัทรพงศ์, ชินวัตร และ ณัฐชนน เหตุถูกดำเนินคดีชุมนุมหน้าศาลอาญา ศาลเลื่อนนัดไต่สวนไป 22 มิถุนายน นี้

 


ตำรวจร้องขอถอนประกัน 4 จำเลย คดี 19 กันยา สมยศ, ภัทรพงศ์, ชินวัตร และ ณัฐชนน เหตุถูกดำเนินคดีชุมนุมหน้าศาลอาญา ศาลเลื่อนนัดไต่สวนไป 22 มิถุนายน นี้ 


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่ศาลอาญา รัชดา ห้องพิจารณา 914 มีนัดสืบพยานในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่สนามหลวงและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 63 ซึ่งมีผู้ถูกฟ้องคดีเป็นนักกิจกรรม “ราษฎร” รวมทั้งสิ้น 22 คน โดย 7 คน ถูกฟ้องในฐานความผิด “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” และเป็นคดี 112 คดีแรกที่อัยการยื่นฟ้อง จากเหตุการณ์ชุมนุมตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 เป็นต้นมา  


ก่อนหน้านี้ทนายความได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานในคดีช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนออกไป เนื่องจากจำเลยและทนายจำเลยหลายคนติดโควิด หรือต้องกักตัวดูอาการหลังสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และเจ้าหน้าที่ศาลได้ติดต่อแจ้งว่าศาลมีคำสั่งให้เลื่อนคดีออกไป หากแต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ศาลได้ติดต่อว่าต้องให้ทนายและจำเลยที่สามารถเดินทางมาได้เดินทางมาศาลในวันนัดนี้ก่อน เพื่อมีคำสั่งทางคดีต่อหน้าคู่ความ


ด้านห้องพิจารณาคดีมีเจ้าหน้าที่ศาลและตำรวจคอยรักษาความสงบเรียบร้อย 3-4 นาย มีการตั้งจุดเรียกเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และโทรศัพท์มือถือของผู้เข้าห้องพิจารณาทุกคน ด้านจำเลยในคดีนี้เดินทางมาศาลได้จำนวน 6 คน และมีผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยที่ไม่สามารถมาศาลได้ เดินทางมาแทนด้วย


จำเลยที่ไม่ได้เดินทางมาศาลจำนวน 16 คน มีผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จำนวน 4 คน  และทนาย 1 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีจำเลยที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และจะต้องทำการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน รวมทั้งยังไม่สามารถเดินทางมาจากต่างจังหวัดได้ 


ทนายจำเลยแต่ละรายที่มาศาลได้ ได้แถลงถึงเหตุจำเป็นในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 นี้ ทำให้จำเลยต้องรับการรักษาอาการ ต้องกักตัว หรือไม่สามารถเดินทางมาจากต่างจังหวัดได้ เนื่องจากมีการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทำให้ต้องเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปก่อน พร้อมยื่นคําร้องขอเลื่อนคดีเพิ่มเติม


ทางฝ่ายอัยการโจทก์แถลงไม่คัดค้านการเลื่อนคดี แต่ต้องยกเลิกการส่งหมายเรียกพยานที่นัดไว้เดิม และต้องขอหมายเรียกพยานพร้อมแจ้งวันนัดใหม่ และขอให้ศาลกําหนดวันนัดพร้อมก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์อีกครั้ง เพื่อสะดวกในการบริหารจัดการคดี


ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจําเลย 4 ราย และทนายจําเลย 1 ราย ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และอยู่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จำเลยอีก 7 ราย อยู่ในระหว่างกักตัว กรณีมีเหตุสมควรจึงต้องเลื่อนคดีไป 


ศาลได้กำหนดวันนัดพร้อมเพื่อกําหนดแนวทางการบริหารจัดการคดีในวันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. และให้ยกเลิกวันนัดสืบพยานโจทก์ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2564 ที่นัดไว้เดิม ยกเว้นวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ส่วนนัดอื่นให้คงไว้เดิม


ทั้งนี้ คดีนี้ได้มีการนัดสืบพยานล่วงหน้าไว้ โดยหลังจากวันที่ 22 มิถุนายน จะมีวันนัดสืบพยานที่กำหนดไว้ คือวันที่ 8-9 กรกฎาคมเป็นต้นไป 


++ พนักงานสอบสวนยื่นขอถอนประกัน 4 จำเลย เหตุถูกกล่าวหา “ดูหมิ่นศาล” ++ 


ในวันเดียวกันนี้ ศาลยังได้นัดไต่สวนคำร้องขอถอนประกันตัวจำเลย 4 ราย ในคดีนี้ ได้แก่ สมยศ พฤกษาเกษมสุข, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, ณัฐชนน ไพโรจน์ และ ภัทรพงศ์ น้อยผาง เนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้มายื่นคำร้องไว้ 


พนักงานสอบสวนอ้างเหตุจากการที่จำเลยทั้งสี่ได้กระทำการละเมิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว โดยต่างไปถูกกล่าวหาดำเนินคดีสืบเนื่องจากเหตุชุมนุมหน้าศาลอาญา รัชดา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังในคดีทางการเมือง เมื่อวันที่ 29-30 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยทั้งสี่ได้ถูกศาลอาญาออกหมายจับในข้อหา “ดูหมิ่นศาล” และข้อหาอื่นๆ จากการเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าว 


ในการนัดไต่สวนคำร้องขอถอนประกันตัว สมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้แถลงว่าเนื่องจากวันนี้เพิ่งได้รับหมายนัดไต่สวน ยังไม่ได้รับสําเนาคําร้อง และเนื่องจากวันนี้ทนายความจําเลยที่ 4 ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ไม่สามารถมาศาลได้ จึงจะขออนุญาตศาลเลื่อนคดีออกไปก่อน


ขณะที่ทนายความได้แถลงว่าณัฐชนนเองก็ป่วย และกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยยื่นสำเนาใบรับรองแพทย์ประกอบต่อศาล ส่วนชินวัตรและภัทรพงศ์ก็ต้องกักตัวเนื่องจากสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด ทั้งสามคนจึงไม่อาจมาศาลได้ จึงขอเลื่อนการไต่สวนคดีออกไปก่อน 


ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ากรณีมีเหตุจําเป็น จึงให้เลื่อนไปนัดไต่สวนคําร้องขอเพิกถอนคําสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวของทั้งสี่คน ไปเป็นวันที่ 22 มิ.ย. 64 เวลา 09.00 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์