วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ : เริ่มต้นด้วยอิสรภาพของเด็กในวันพรุ่งนี้เถอะครับ


 

“พี่เต้นชอบกวีคนไหนมากที่สุดครับ” ผมละสายตาจากหนังสือที่อ่าน เงยหน้ามาเจอ”เพนกวิน” เขาลงจากเรือนนอนรอไปพบทนาย

“พี่อ่านงานกวีเยอะเหมือนกันนะ แล้วก็ชอบหลายคนเพราะเขาสุดยอดทั้งนั้น เพนกวินล่ะ” ผมตอบและถามกลับ

“ผมชอบ จิตร ภูมิศักดิ์ครับ” เขาว่า แววตานักสู้เป็นประกายก่อนเจ้าหน้าที่จะตามตัวออกไป 

... 5 พฤษภาคม 2509 “จิตร ภูมิศักดิ์” ปัญญาชนนักปฏิวัติถูกล้อมยิงโดยกระหยิ่มในชายป่าสกลนคร 

55 ปีผ่านไปเด็กหนุ่มผู้มอบศรัทธาให้ “จิตร” กำลังถูกล้อมยิงด้วยกระสุนคดีความ และกระแสความชิงชังจากคนบางกลุ่ม ขณะที่เขาและเพื่อนๆในเรือนจำยืนหยัดอยู่ได้ด้วยหัวใจนักสู้ของตัวเอง ความรักยิ่งใหญ่ของแม่และครอบครัว รวมทั้งพลังของมวลชนอันเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กทั่วประเทศ 

พรุ่งนี้ (6 พ.ค.) ศาลจะไต่สวนคำร้องขอประกันตัวของ “เพนกวิน” “รุ้ง” “แอมมี่” ผมหวังให้อิสรภาพกลับคืนสู่พวกเขา เมื่อรับเงื่อนไขเหมือนอีก 3 คนที่ได้ประกันตัวไปแล้ว ศาลหรือใครก็ตามไม่ควรสร้างเงื่อนไขอื่นให้บรรยากาศการเผชิญหน้าแหลมคมไปกว่านี้ 

แม้ได้สัมผัสกันสั้นๆแต่ผมยืนยันได้ว่าพวกเขาคือคนคุณภาพ เป็นพลังบริสุทธิ์ที่ไม่ยอมถูกครอบงำด้วยความชั่วร้าย ไม่ยอมสยบใต้อำนาจอันไม่ชอบธรรม ไม่ยอมรับสังคมไร้อนาคตที่ถูกยัดเยียดให้ 

อยากให้ทุกคนได้เห็นเวลาพวกเขาคุยกัน เวลาพวกเขากิน หรือกระทั่งนอนหลับ 

อยากให้เห็น”ไมค์”กับ”เพนกวิน”พูดโต้กันเร็วๆด้วยภาษาวัยรุ่น

เห็นแววตาใสๆที่”เพนกวิน”ถามผมว่าถ้าจะเริ่มออกกำลังบ้างต้องทำยังไง 

เห็นเขานั่งหอบตัวโยนเหงื่อเต็มหลังเมื่อผมให้เริ่มด้วยการเดินรอบเรือนนอน 20 นาที 

เห็นน้ำคลอตา”อานนท์”เมื่อพูดถึงลูกสาวคนเดียววัย 5 - 6 ขวบ 

เห็น”แอมมี่”ตอนร้องเพลงตามคำขอของผู้ต้องขัง

หรือเห็นรอยยิ้มซื่อๆกวนๆของ”ไผ่” เวลาอยากได้อะไร 

กระทั่งเห็นคลิป”รุ้ง”ให้สัมภาษณ์พร้อมพี่สาว

อ้อ ! เห็น”เพนกวิน”โชว์ตบมะผาบ ด้วยท่ายกขาที่ทุลักทุเลกว่าจะสอดสองมือเข้าไปตบได้ 

มองด้วยสายตาของความเป็นมนุษย์ ไม่มีอะไรแปลกแยกพวกเขาจากหนุ่มสาวทั่วไป อนาคตที่พวกเขาเรียกร้องก็เป็นอนาคตของคนวัยนี้ที่กำลังเติบโตมาด้วยกัน คนกลุ่มนี้ไม่ใช่เหตุแต่เป็นผลของความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศนี้ 

สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความเปลี่ยนแปลง เราอาจใช้อำนาจบิดเบือนกฎหมายเพื่อทำร้ายผู้คน แต่ไม่มีอำนาจใดบิดเบือนกฎเกณฑ์ของความเปลี่ยนแปลงได้ คนหนุ่มสาวแสดงเจตนารมณ์ของยุคสมัย อยู่ที่เราจะทำความเข้าใจและตอบสนองอย่างไรให้สังคมเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน 

นับจากรุ่นผม มาถึง “โรม” “จ่านิว” ฯลฯ จนถึงรุ่นนี้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของการต่อสู้เร็วและแรงเกินคาดเดา ถ้าไม่ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ คนรุ่นต่อไปจะแสดงพลังออกมาอย่างไร 

เริ่มต้นด้วยอิสรภาพของเด็กในวันพรุ่งนี้เถอะครับ 

ตอนอยู่ในเรือนจำผมมีพันธะต่อการประกันตัวของน้องๆอย่างหนึ่ง วันไหนใครยื่นประกันผมจะออกวิ่งรอบเรือนนอนส่งพลังเอาใจช่วย(ที่จริงก็วิ่งอยู่ประจำ) มันเป็นเรื่องขึ้นมาเพราะ “ไผ่” ยื่นรอบแรกแล้วได้ ระหว่าง “อานนท์” “เพนกวิน” “ไมค์” ห้อมล้อมดีใจกันผมก็เดินพรวดเข้าไปบอกว่า “พวกเอ็งเห็นมั้ย พลังวิ่งของพี่แน่แค่ไหน” จากนั้นก็ต้องวิ่งทุกครั้งที่มีการยื่นประกันจนพวกเขาออกมาครบทุกคน

พรุ่งนี้ผมจะวิ่ง วิ่งเอาใจช่วยน้อง “พวกเอ็งคอยดูนะ พลังวิ่งของพี่ประมาทไม่ได้นะโว้ย” 

ไม่ใช่ผมศักดิ์สิทธิ์หรือถือเคล็ดอะไรนักหนาหรอก มันเกิดจากหัวใจคนติดคุกที่ไม่รู้จะช่วยน้องมันยังไงเท่านั้น 

ป.ล. วิ่งในพื้นที่ส่วนตัวตามสถานการณ์โควิด 19

ที่มา : เพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์