"เพนกวิน" ส่งสาส์นแรก หลังถูกปล่อยตัวชั่วคราววานนี้
12
พ.ค. 64 วันนี้ที่เพจเฟซบุ๊ก เพนกวิน - พริษฐ์
ชิวารักษ์ Parit Chiwarak ได้มีการเคลื่อนไหว
หลังจากเมื่อวานศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน
โดยใช้หลักทรัพย์ประกันตัว 2 คดี คือคดีชุมนุม 19 ก.ย. และคดี Mobfest ศาลให้วางเงินประกันคดีละ 2
แสนบาท และมีเงื่อนไขคือ
ห้ามกระทำการตามที่ถูกฟ้องหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง,
ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์,
ห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่รับอนุญาต
ต่อมาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
"เพนกวิน" ถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลของโรงพยาบาลวิภาวดีเพื่อไปรักษาอาการป่วยต่อไป
ในเช้าวันนี้
"เพนกวิน" ได้โพสต์ข้อความถึงผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ความว่า
[สาส์นแรกแห่งอิสรภาพ]
สวัสดีครับ
พ่อแม่พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน
การคุมขังผม
93 วัน และการอดอาหารประท้วงความอยุติธรรมเป็นเวลา 57 วันของผมสิ้นสุดลงแล้ว
โดยที่เมื่อวานนี้ ศาลได้คืนสิทธิประกันตัวให้ผมและพี่แอมมี่แล้ว
แม้จะเป็นการประกันตัวโดยที่ศาลกำหนดเงื่อนไขมาบางประการ
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นเพื่อสกัดกั้นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ผมจะถือว่าการที่ศาลเอาเรื่องทางการเมืองมาตั้งเงื่อนไขนี้เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาตัวเองว่าดำรงตนในความยุติธรรมหรือไม่
อย่างไรก็ดี นี่คือการวางบรรทัดฐานว่าคดีมาตรา 112 ก็มีสิทธิได้รับการประกันตัว
จากเดิมที่ในอดีตนั้นแทบไม่มีการได้ประกันตัวเลย และผมเชื่อว่ากฎหมายป่าเถื่อนมาตรานี้จะถูกยกเลิกไปในไม่ช้า
ในส่วนของเงื่อนไขนั้น
ผมเห็นว่าไม่ได้ขัดข้องอะไรต่อการเคลื่อนไหว
เพราะเงื่อนไขข้อที่ว่าห้ามมิให้สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์นั้น
ผมก็ไม่เห็นว่าผมจะสร้างความเสื่อมเสียอะไรให้สถาบันกษัตริย์
เพราะผมไม่คิดว่าสถาบันกษัตริย์จะเสื่อมเสียลงเพียงเพราะการที่ประชาชนพูดความจริง
เช่นเดียวกับเรื่องการเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ทวงคืนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
(เช่น หุ้น SCB) ยกเลิกกองกำลังส่วนพระองค์
เหล่านี้ผมไม่เห็นว่าจะสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันกษัตริย์ได้อย่างไร
หากจะมองว่าการเรียกร้องให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องเสื่อมเสีย
ก็คงจะต้องถามกันต่อว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขหรือปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กันแน่
ดังนั้นแล้ว
สำหรับผม การต่อสู้เพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จะดำเนินต่อไป
สำหรับเงื่อนไขเรื่องห้ามเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น
ผมยืนยันว่าตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา ผมยึดมั่นในหลักการไม่ใช้ความรุนแรง
การชุมนุมที่ผมเข้าร่วม หรือได้มีส่วนร่วมจัดนั้นล้วนแต่เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ
และปราศจากอาวุธทั้งสิ้น เท่าที่เห็นก็มีแต่จะไม่สงบบ้างเพราะถูกเจ้าหน้าที่
ผู้ชุมนุมฝ่ายรัฐ และผู้ไม่ประสงค์ดีมาใช้กำลังเพียงเท่านั้น ดังนั้น
ผมจึงเห็นว่าเงื่อนไขข้อนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการต่อสู้ของผมเช่นกัน
และผมพร้อมที่จะเข้าร่วมทุกกิจกรรมหลังจากที่วิกฤติการณ์โรคระบาดระลอกนี้
(ซึ่งเกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล) ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะยังดำเนินต่อไปด้วยความเข้มข้นและเข้มแข็ง
การต่อสู้ของเราดำเนินอยู่บนสัจธรรมความจริง
เพราะไม่มีพลังใดจะยิ่งใหญ่เท่าพลังแห่งความจริง
และความจริงย่อมเป็นสิ่งนิรันดร์ประดุจดวงดาว เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่มุมใดของฟ้า
ดวงดาวก็จรัสแสง เช่นเดียวกับความจริง ไม่ว่าจะอยู่ในกรงขัง ในเครื่องทรมาน
หรือที่หลักประหาร ความจริงก็ยังคงเป็นความจริงที่ทรงพลังและไม่มีวันตาย
ก้าวต่อไปเฉพาะหน้า
เราจะต้องช่วยกันปลดปล่อยผู้พูดความจริงอีกหลายคนที่ยังถูกจองจำอย่างไม่เป็นธรรม
ไม่ว่าจะเป็นทนายอานนท์ พี่ไมค์ ระยอง แฟรงค์ ณัฐชนน และอีกหลาย ๆ ท่าน
เราผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายยังจะต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นอย่างสมบูรณ์ว่าการพูดความจริงไม่ผิด
และความเท็จไม่อาจคุมขังปิดบังความจริงได้ตลอดไป
ผมยังคงเป็นผม
และยังคงศรัทธาในความจริงที่ว่าไม่มีใครหมุนเข็มนาฬิกากลับได้
และสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งกำลังพัดโบกจะพาเราไปสู่อีกด้านหนึ่งของขอบฟ้าในไม่ช้านี้
ส่วนในระหว่างนี้
ตัวผมขอพักฟื้นร่างกายและหาอะไรกินก่อนจะเดินไปกับพี่น้องทุกท่านอีกครั้ง
ผมยังคงเป็นคนเดิม สู้เพื่ออุดมการณ์ดังเดิม และจะมุ่งมั่นต่อการต่อสู้มากกว่าเดิมครับ
ศักดินาจงพินาศ
ประชาราษฎร์จงเจริญ |||
เพนกวิน
พริษฐ์ ชิวารักษ์
12
พฤษภาคม 2564 (1 วันหลังคืนสู่อิสรภาพ)
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์