วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

8 องค์กรสิทธิฯและประชาธิปไตย ขานรับ 3 ข้อ ห่วงตะวัน-แบม-สิทธิโชค ให้รักษาชีวิต เดินเท้ายื่นปธ.ศาลฎีกา จี้ ให้ประกันผตห.การเมือง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์

 


8 องค์กรสิทธิฯและประชาธิปไตย ขานรับ 3 ข้อ ห่วงตะวัน-แบม-สิทธิโชค ให้รักษาชีวิต เดินเท้ายื่นปธ.ศาลฎีกา จี้ ให้ประกันผตห.การเมือง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์

 

วันนี้ (2 ก.พ. 66) เวลา 11.00 น. องค์กรประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน นำโดย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.), สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา, คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD), สถาบันสังคมประชาธิปไตย และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเสวนา “คำขานรับข้อเสนอตะวัน-แบม แนวทางการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย” ที่หอประชุมอนุสรณ์สถาน 14

 

จากนั้น 12.40 น. ได้ตั้งขบวนบริเวณแยกคอกวัวก่อน ที่จะเดินเท้าไปยื่นจดหมายปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา เพื่อขอให้ประธานศาลฎีกาเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว การกำหนดหลักประกันและเงื่อนไข การถอนประกันตัว นักกิจกรรมทางการเมืองอย่างเร่งด่วน

 

เวลา 13.20 น. ขบวนได้เดินทางถึงที่หน้าสำนักประธานศาลฎีกา โดย น.ส.ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข ผู้จัดการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เป็นตัวแทนอ่านข้อเรียกร้องต่อกระบวนการยุติธรรม ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักกฎหมาย และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และอุดมการณ์ของผู้พิพากษา มีรายละเอียดว่า

 

ตลอดระยะเวลาของการใช้สรีภาพในการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากต้องตกเป็นผู้ต้องหาและจำเลยในกระบวนการยุติธรรมอันเนื่องมาจากความเห็นต่างทางการเมือง อาจกล่าวได้ว่า เป็นกลไกเพื่อสนองนโยบายรัฐในการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของประชาชนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 การปล่อยตัวชั่วคราว ถูกใช้เป็นกลไกสำคัญในการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ผ่านการไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ห้ามไปกระทำการในลักษณะเดียวกันกับคดีเดิมอีก การกำหนดเวลาห้ามออกนอกเคหสถานในบางช่วงเวลาร่วมกับการใส่กำไล EM การอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยให้ใส่กำไลติดตามตัว (EM) ร่วมกับคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวที่เข้มงวดกว่าอาชญากรที่ก่ออาชญากรรม

 

และการมีคำสั่งถอนประกันได้โดยง่ายเหล่านี้ ถือเป็นการละเมิดสิทธิในกระบวนการ ถูกปฏิบัติโดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และไร้ซึ่งมนุษยธรรม ทั้งนี้ ยังสะท้อนถึงความพยายามในการเข้ามามีบทบาทรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเสียเอง ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง เพราะมีองค์กรอื่นทำหน้าที่อยู่แล้ว กระบวนการยุติธรรมมีหน้าที่รักษาและดำรงความยุติธรรมในสังคมอย่างเป็นอิสระ โดยอาศัยหลักกฎหมายเพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนทุกคนจะได้รับความยุติธรรมแม้จะมีข้อพิพาทกับรัฐ หรือเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐก็ตาม

 

แต่ปรากฏว่ากรณีที่ไม่ใช่คดีการเมือง เช่นกรณีของ พ.ต.อ.หญิงวัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ จำเลยที่ 8 ภรรยานายตู้ห่าวชาวจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานว่ามีพฤติการณ์ข่มขู่พยาน เป็นการผิดเงื่อนไขการประกันของศาล แต่กลับไม่ถอนประกัน โดยอ้างว่ามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไปแล้ว แต่พนักงานสอบสวนมายื่นเอกสารแบบกระชั้นชิด ทำให้การยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการประกันตัว พ.ต.อ.หญิงวัทนารีย์ ดังกล่าว จึงเป็นเพียงคำร้องที่ประกอบการพิจารณา กรณีที่แตกต่างกันดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความลักลั่นและปัญหาการปล่อยชั่วคราวสำหรับผู้ต้องหาและจำเลยในคดีการเมือง

 

การถูกปฏิบัติโดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และไร้ซึ่งมนุษยธรรมโดยกระบวนการกล่าว นำมาสู่การอดอาหารและน้ำของตะวันและแบมเพื่อทวงถามหาความยุติธรรม และเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จนร่างกายของทั้งสองเข้าขั้นวิกฤตและสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตอย่างมาก

 

สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพิจารณาทบทวนบทบาทในการใช้ดุลยพินิจในการปล่อยชั่วคราวให้เป็นไปตามหลักกฎหมาย คำนึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และคำนึงถึงอุดมการณ์ของผู้พิพากษาตามประมวลจริยธรรม ในการประสาทความยุติธรรมให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน อย่างไม่เลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากความคิดเห็นทางการเมือง ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้ง พิจารณาอรรถคดีไปในทางส่งเสริมความเป็นมนุษย์ให้ดำรงอยู่ พัฒนาและงอกงามขึ้นในสังคม ไม่ใช่พรากศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไปจากประชาชน หรือกดความเป็นคนให้ต่ำลงเพื่อให้ยอมจำนนต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรม

 

จากนั้น นายธนากร พรวชิราภา หัวหน้าส่วนกฎหมายและระเบียบ สำนักงานประธานศาลฎีกา ในฐานะตัวแทนประธานศาลฎีกา เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว โดยไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น รับหนังสือและเดินเข้าไปเลย ซึ่งทาง 8 องค์กรสิทธิฯ จะเฝ้าติดตามสถานการณ์และมาทวงคำตอบอีกครั้ง

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ตะวันแบม