วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566

‘ชัยวัฒน์’ กังวล แบ่งจ่ายกี่งวดก็แก้ปัญหาข้าราชการจมกองหนี้ไม่ได้ หากยังโดนหักเงินหน้าซองจนไม่เหลือเงินใช้ แนะรัฐบาลมองไปที่ต้นตอปัญหา หยุดแก้ฉาบฉวย

 


ชัยวัฒน์’ กังวล แบ่งจ่ายกี่งวดก็แก้ปัญหาข้าราชการจมกองหนี้ไม่ได้ หากยังโดนหักเงินหน้าซองจนไม่เหลือเงินใช้ แนะรัฐบาลมองไปที่ต้นตอปัญหา หยุดแก้ฉาบฉวย

 

วันที่ 14 กันยายน 2566 ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงข้อกังวลต่อกรณีการแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ หลังมติคณะรัฐมนตรีนัดแรก วันที่ 13 กันยายน 2566 มีมติเปลี่ยนการจ่ายเงินข้าราชการ จากเดือนละ 1 รอบ เป็นเดือนละ 2 รอบ

 

ชัยวัฒน์ชี้ว่า สาเหตุของปัญหาที่แท้จริงคือข้าราชการจำนวนมหาศาลได้จมอยู่ในกองหนี้เรียบร้อยแล้ว และการจ่ายเงิน 2 รอบ จะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาแต่อย่างใด ถ้าจำนวนเงินเดือน หรือจำนวนเงินที่ถูกหักใช้หนี้ยังเท่าเดิม

 

หากลองดูสถิติเฉพาะที่เป็นหนี้สหกรณ์ ข้าราชการทั้งปัจจุบันและที่เกษียณแล้วกลุ่มต่าง ๆ ติดหนี้สหกรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าจะยกตัวอย่างบางกลุ่มให้เห็นภาพ ก็จะมีข้าราชการครู ประมาณ 9 แสนราย ยอดหนี้รวม 1.4 ล้านล้านบาท ภาระหนี้เฉลี่ยคนละกว่า 1.5 ล้านบาท, ข้าราชการสาธารณสุขประมาณ 3.4 แสนราย ข้าราชการตำรวจประมาณ 2.4 แสนราย ข้าราชการทหารประมาณ 2.4 แสนราย รวมทั้งสิ้นประมาณ 3.1 ล้านราย เป็นข้าราชการที่จมอยู่ในกองหนี้อยู่แล้ว

 

"จากการสำรวจของคณะกรรมการแก้ไขหนี้ครู พบว่ามีครูประมาณครึ่งหนึ่งที่ต้องโดนหักเงินเดือนใช้หนี้ จนเหลือเงินตกถึงมือน้อยกว่า 30% ของเงินเดือน ถ้าเงินเดือน 15,000 บาทก็คือเหลือไม่ถึง 4,500 บาท ที่จะต้องใช้ไป 30 วัน ตกวันละ 150 บาท ที่ต้องมาจ่ายค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามือถือ ค่าเช่าบ้าน แทบไม่พอใช้ ต่อให้จ่ายเงินเดือน 2 ครั้ง ก็จะเหลือเงินตกถึงมือคราวละ 2,250 บาท ที่จะต้องใช้ไปครึ่งเดือน ซึ่งก็คงไม่พอใช้ ต้องไปก่อหนี้เพิ่มอยู่ดี" ชัยวัฒน์ระบุ

 

ชัยวัฒน์เสริมว่า ด้วยความหวังดี ครม. ชุดนี้ไม่ควรกล่าวโทษถึงวินัยการเงินของข้าราชการหรือประชาชนที่ไม่สามารถบริหารจัดการเงินได้ จนเกิดภาระหนี้สิน หากพิจารณาถึงปัญหาหนี้ข้าราชการให้ถ่องแท้ ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่เจ้านายและเจ้าหนี้เป็นคนกลุ่มเดียวกัน กล่าวคือ ผู้อำนวยการเขตการศึกษา จำนวนมากนั่งเป็นกรรมการในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูด้วย และดอกเบี้ยเงินฝากของสหกรณ์เหล่านี้มักจะสูงเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้แทนที่ข้าราชการครูจะได้รับสวัสดิการด้านเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ กลับต้องกู้แพง และโดนหักเงินใช้หนี้หน้าซองที่สูงแบบอันลิมิต จนเหลือเงินตกถึงมือเพียงหลักพัน หลักร้อย ยังไม่นับรวมถึงหนี้นอกระบบ หรือหนี้บัตรเครดิต

 

"ผมหวังว่า เรื่องนี้จะเป็นเพียงแนวคิดตามที่รองโฆษกได้ออกมาแถลงข่าว ว่าจะให้กรมบัญชีกลางได้วิเคราะห์ว่าจะสามารถสร้างระบบการจ่ายเงินเดือนอย่างไรให้ตอบสนอง เพราะนอกจากผมที่มีความเป็นกังวล คงมีพี่น้องข้าราชการอีกเป็นล้านคนที่ต้องการคำตอบอย่างชัดเจนและเหตุผลที่ตรงไปตรงมา โดยเร็ว"

 

ชัยวัฒน์กล่าวว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ต้องตั้งคำถามว่าการคิดนโยบายของผู้กุมอำนาจรัฐนี้ มีการวิเคราะห์ปัญหาที่ลึกซึ้งและรอบคอบแล้วหรือไม่ มีการประเมินว่าจะแก้ปัญหาได้จริง หรือเป็นเพียงการออกมาชกลมเพื่อหวังลดแรงเสียดทาน การทำนโยบายใดๆ ของรัฐก็ตาม ควรคิดมาอย่างละเอียด รอบคอบ และได้ประเมินร่วมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ให้สมกับที่โฆษณาว่า คิดใหญ่ ทำเป็น ไม่ใช่ออกมาโยนหินถามทาง เศรษฐกิจไทยบอบช้ำมามากพอแล้ว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล