‘พิธา’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ ปูพรมทั่ว อ.แกลง ช่วย ‘โย พงศธร’
หาเสียงเลือกตั้งซ่อมระยองเขต 3 ชี้ ไม่ใช่แค่เลือกตั้งซ่อม
แต่เป็นก้าวแรกสู่ชัยชนะเบ็ดเสร็จของก้าวไกลในการเลือกตั้งหน้า ด้าน ‘พริษฐ์’
ขอแรงชาวระยองเป็นตัวแทนคนทั้งประเทศร่วมพิพากษาการเมืองไทย
วันที่
2 กันยายน 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีมแกนนำและ สส. พรรคก้าวไกล
ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและจากหลายเขตทั่วประเทศ ร่วมกิจกรรมหาเสียงช่วย พงศธร
ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ระยอง เขต 3 (เบอร์
1) สำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้
โดยขบวนหาเสียงในวันนี้ได้กระจายกันออกเป็นสามสายไปทั่วทั้ง
อ.แกลง จ.ระยอง ท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนชาวระยองอย่างอบอุ่นทั้งตามบ้านเรือน
ร้านค้าและผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต่างแสดงออกตอบรับพรรคก้าวไกลเป็นอย่างดี
ก่อนที่ขบวนทั้งสามจะมาร่วมบรรจบกันเปิดเวทีปราศรัยที่แหลมแม่พิมพ์ ในช่วงเย็น
หนึ่งในผู้ปราศรัย
คือ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้
โดยระบุว่าวันนี้ตนมาเพื่อพูดถึง 3ข กับชาวระยอง ข.แรก
คือตนขอขอบคุณชาวระยอง ย้อนไปสี่ปีก่อนหน้านั้นในปี 2562 พรรคก้าวไกลยังไม่มีผู้แทนระยอง
แต่พอมาถึงปี 2566 พรรคก้าวไกลได้มาขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน
ขอให้มีผู้แทนอย่างน้อยสักคน
แต่ผลตอบรับของพี่น้องคือการให้ผู้แทนเรามายกจังหวัดระยอง
ข.ที่สอง
คือขอโทษ ตนเข้าใจว่าชาวระยองและประชาชนทั่วประเทศเลือกก้าวไกลมาด้วยความคาดหวังว่าเราจะเป็นรัฐบาล
เราได้รับความไว้ใจเป็นอันดับหนึ่ง
และเราเชื่อว่ามีพรรคที่น่าจะมีอุดมการณ์เดียวกับเรามากพอมีเสียงพอให้จัดตั้งรัฐบาล
ขับเคลื่อนประเทศไทยให้ไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้
แต่สองเดือนที่ผ่านมาก็ทำให้เห็นว่าแม้เราจะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง
แต่อิทธิฤทธิ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ก็ได้แผลงฤทธิ์
สะท้อนความไม่ปกติของการเมืองไทย ทำให้พรรคก้าวไกล
ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลแห่งความหวังให้ประชาชนได้
ข.ที่สาม
ขอโอกาส แม้วันนี้เราจะเป็นฝ่ายค้าน แต่วันนี้ต้องขอโอกาสจากชาวระยองอีกครั้ง
โดยยืนยันว่าแม้พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน
ก็สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ รัฐบาลนี้อ้างว่าเป็นรัฐบาลพิเศษ
แต่พรรคก้าวไกลรับประกันว่าฝ่ายค้านแบบพรรคก้าวไกลพิเศษกว่า
เพราะเราจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ที่จะไม่เพียงตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล
แต่จะใช้กลไกทุกกลไกของสภาในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงในฝั่งนิติบัญญัติ
การทำงานร่วมกับประชาชนนอกสภา เพื่อรับประกันว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เราจะเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา
พริษฐ์ยังกล่าวต่อไปว่า
ในวันที่ 10
กันยายนนี้ ชาวระยองมีโจทย์ที่พิเศษ ชาวเขต 3 ระยองคือคนกลุ่มแรกที่จะได้เลือกตั้งอีกครั้ง
นับตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม
หลายคนสนับสนุนการทำงานของพรรคก้าวไกลอยู่
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริบทของการเมืองไทยและการเลือกตั้งซ่อม
อาจเกิดคำถามขึ้นว่ากาก้าวไกลแล้วจะได้อะไร ในเมื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็ไม่ได้
แต่ตนยืนยันว่าเสียงของทุกคนมีความหมายอย่างแน่นอน
เพราะทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนจะมอบให้กับพรรคก้าวไกล
จะนำมาสู่ประโยชน์สามเด้งให้ชาวระยองและคนไทยทั้งประเทศ
เด้งแรก
คือการได้คนก้าวไกลครบทุกเขตในระยอง
ที่จะทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ เด้งที่สอง
คือการมีอีกหนึ่งมือก้าวไกลในสภาผู้แทนราษฏร
ที่จะยกให้การผลักดันนโยบายที่พรรคก้าวไกลต้องการขับเคลื่อน
ผ่านกฎหมายหลายฉบับที่เรายื่นเสนอไป ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกเกณฑ์ทหารแบบบังคับ
การกระจายอำนาจ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฯลฯ
และที่สำคัญที่สุด
เด้งที่สาม ชาวระยองเขต 3
กำลังจะได้เข้าไปพิพากษาว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์การเมืองไทยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
หากชาวระยองออกไปใช้สิทธิเลือกพรรคก้าวไกลอย่างท่วมท้น
นั่นจะเป็นการส่งเสียงพิพากษาพวกเขาแทนคนไทยทั้งประเทศ
ในส่วนของพิธา
ได้ขึ้นปราศรัยเป็นลำดับสุดท้ายหลังการสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยของแกนนำและ
สส.พรรคก้าวไกลหลายคน โดยพิธาระบุว่าวันนี้ตนมาตามหาชัยชนะให้พงศธร
วันนี้เป็นสัปดาห์ที่สี่แล้วที่ตนมาช่วยหาเสียง เหลือเวลาอีกเพียง 7 วัน
ประชาชนจะได้มีโอกาสใช้อำนาจที่กลับมาสู่มือของประชาชนอีกครั้ง
วันนี้จึงขอมาพูดถึงสามเหตุผลว่าทำไมต้องเลือกพงศธรและพรรคก้าวไกล
เหตุผลแรก ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนชาวระยองให้ความไว้วางใจพรรคก้าวไกลกว่า
2.3 แสนคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อ และในระดับเขตกว่า 1.8 แสนคะแนน
แต่ก็ประมาทไม่ได้ ถ้าชาวระยองอยากให้พรรคก้าวไกลกลับมาอีกครั้ง
ต้องช่วยกันเลือกพรรคก้าวไกลอีกครั้งให้ถล่มทลาย
ประการที่สอง
คือความสำคัญในระดับจังหวัด ระยองทั้ง 5 เขต พรรคก้าวไกลชนะมาทั้งหมด
เพราะเรามีนโยบายสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนชาวระยอง คือ 4 ส. ที่ประกอบด้วย 1) สาธารณสุข
ที่เราเล็งเห็นปัญหาความขาดแคลนบุคลากรแพทย์และพยาบาล ที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยประเทศไทยถึงสิบเท่า
2) สวัสดิการ 3) สิ่งแวดล้อม และ 4)
เศรษฐกิจ ที่ชาวระยองเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
จากอดีตถึงปัจจุบัน
ระยองเต็มไปด้วยคนที่มีศักยภาพในความสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นสุนทรภู่, อำพล
ลำพูน หรือ กล้า เรโทรสเปกต์ ระยองมีเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้คนระยอง
ก่อนหน้านี้คนมาเที่ยวปีหนึ่ง 7 ล้านกว่าคน แต่ตอนนี้เหลือ 2
ล้านกว่าคนต่อปี นี่คือโจทย์ของพรรคก้าวไกลว่าเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้
ดึงศักยภาพที่มีอยู่นี้มาเพิ่มรายได้ให้คนระยองได้อย่างไร การมี ส.ส. ทั้ง 5
เขต จะทำให้พรรคก้าวไกลทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ คล่องแคล่ว
ผ่านกฎหมายสำคัญที่จะนำไปสู่การบรรลุนโยบาย 4 ส.
ที่ว่ามาข้างต้น
เหตุผลประการที่สาม
เป็นเหตุผลด้านตัวบุคคล พงศธรเป็นปูชนียบุคคลของพรรคก้าวไกล มีอุดมการณ์เด่นชัด
เป็นนักกิจกรรมเพื่อสังคมมาตั้งแต่เป็นนักศึกษา
ทำงานเครือข่ายพื้นที่มาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว
สส.เบญจา แสงจันทร์ เงินเดือนไม่ถึง 15,000 เลยไม่ต้องเสียภาษี
และแม้จะถูกโจมตีด้วยเรื่องดังกล่าว พงศธรก็ยังเป็นคนเข้มแข็ง อดทน จิตใจนิ่ง
สมกับคำว่ามารไม่มีบารมีไม่มา
พิธายังกล่าวต่อไป
ว่าถ้าทุกคนเห็นด้วย ตนขอแค่ไม่กี่อย่างจากชาวระยอง เขต 3 ทุกคน
ให้ช่วยกันบอกเพื่อนบ้าน บอกเพื่อนที่ทำงาน บอกลูกหลานที่ออกไปทำงานนอกพื้นที่
ให้กลับมาเลือกตั้งกันเยอะๆ บอกสามเหตุผลนี้ไปกับพวกเขา
“อย่าไปมองว่านี่เป็นแค่การเลือกตั้งซ่อม
แต่นี่คือการเลือกตั้งครั้งแรกที่จะพาพรรคก้าวไกลเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เวลาของพวกเรากำลังจะมาถึง 151 เสียงไม่พอ ครั้งหน้าขอ 251
เลยได้ไหม ขอแรงหัวคะแนนธรรมชาติ
ช่วยกันบอกให้ทุกคนออกมาเลือกตั้งให้ถล่มทลายให้มากที่สุด
เพื่อบอกกับพวกเขาว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน” พิธากล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล