'เศรษฐา' แจง รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและประกาศจุดยืนแก้
รธน.ไปแล้ว ต้องฟังเสียงทุกฝ่าย หลังสังคมติง 'หมอชลน่าน'
ปัดไม่เคยพูดแก้จบยุบสภาฯ
วันที่
16 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาล ภายหลังแก้แล้วธรรมนูญ
สืบเนื่องจากกรณีสังคมวิพากษ์วิจารณ์คำพูด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่บอกว่าไม่เคยพูดแก้รัฐธรรมนูญเสร็จยุยสภา
แต่สมัยที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยบอกไว้ว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน นั้น ว่า
ชัดเจน ตนแถลงไปแล้วว่าจะจัดตั้งคณะทำงานเข้ามาเพื่อศึกษาการทำประชามติ เข้าสู่สภา
ซึ่งต้องเป็นเวทีที่ต้องมาถกกันเนื่องจากมีความคิดเห็นที่ยังคงแตกต่างกัน
พร้อมยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญและรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
และก็ได้มีการประกาศในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรกไปแล้ว
พร้อมย้ำกับสื่อว่าชัดเจนนะครับ
เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์
กรณีเช่าเครื่องบินเหมาลำไปประชุมที่สหรัฐอเมริกา โดยใช้งบกว่า 30
ล้านบาท นายเศรษฐา ยืนยันว่า มีการเปรียบเทียบราคาแล้ว อย่าให้พูดต่อเลยดีกว่า
ซึ่งก่อนหน้านี้เลขาธิการนายกฯ ก็ได้มีการชี้แจงไปแล้ว
การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้งจะมีการทำราคาเปรียบเทียบ
เมื่อถามว่า
ส่วนกรณีที่จะไปพบสื่อต่างประเทศใหญ่ถึง 3 สื่อ
จะเอาอะไรไปพรีเซนต์เพื่อให้ชาวโลกหันกลับมามองประเทศไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า
อาจจะมากกว่า 3 สื่อ
ต้องขอดูก่อนว่าแต่ละสื่อจะมีประเด็นอะไรมาถาม ตนไม่อยากให้เป็นประเด็นเดียวกัน
บางสื่ออาจพูดเรื่องเศรษฐกิจ บางสื่ออัดพูดเรื่องความมั่นคง
ซึ่งต้องพูดให้ครบทุกมิติ
เมื่อถามย้ำว่า
จะเป็นการไปเปิดวิสัยทัศน์ต่อสื่อต่างประเทศใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า
ก็คงไม่เชิง หากมีใครจะสัมภาษณ์ตนก็ยินดีตอบ และคำถามก็ต้องเป็นคำถามที่เหมาะสม
ว่ารัฐบาลมีความพร้อมในการตอบแต่ละมิติที่ถามมา
ส่วนจะชี้แจงอย่างไรเนื่องจากความมั่นคงทางสถานการณ์ทางการเมืองไทยส่งผลต่อหลายเรื่อง
นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมว่าขอให้เค้าถามผมก่อนดีกว่า ถ้าเค้าถามผม ก็คิดว่าตอบได้
และวันนี้ผมมี 300 กว่าเสียงเป็นคะแนนเสียงประจากประชาชน แล้ววันนี้ก็เดินหน้าทำงานไม่หยุด
ส่วนความคืบหน้าการติดต่อซื้อเครื่องยนต์เรือดำน้ำจากเยอรมนี
มีการตอบรับตารางเจรจาแล้วหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบ
ยังไม่มีรายงานมาจากทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอเวลาสักนิดยังพอมีเวลาอยู่
ซึ่งพยายามเกลี่ยกันไปเกลี่ยกันมา วันที่ 18 กันยายนช่วงบ่ายๆอาจจะทราบ
และระหว่างเดินทางไปประชุมก็มีการเจรจาขอนัดพบกันอยู่
เมื่อถามย้ำว่า
จะยังไม่มีการยอมรับเงื่อนไขเครื่องยนต์เรือดำน้ำจากทางจีนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย ฉะนั้นจึงยังตอบไม่ได้
ซึ่งถือเป็นวาระหนึ่งที่ตนให้ความสำคัญ อะไรเป็นเรื่องที่ยังไม่ถูกสะสาง
ก็เป็นเรื่องที่ 11 พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องร่วมกันสะสางกันไป
ส่วนกรณีที่นายพิธา
ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ท่านโชคดี
ในเรื่องต่าง ๆ ที่จะทำ ขอให้ไปถามหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดีกว่า
ผมอยู่ในบทบาทการบริหารแล้ว ก็ขอให้ท่านเดินทางในชีวิตการเมืองที่ถูกต้อง
และเป็นที่ชื่นชมของทุกคน