‘รมว.กลาโหม’ เคลียร์ 3 ปม ‘น้ำมันทหาร 2 แสนลิตร’ หาย สัปดาห์หน้ารู้ข้อเท็จจริง ยันมีคนผิดต้องรับผิดชอบ
ด้าน ‘เรือดำน้ำ’ ขอรอ ‘ผบ.ทร.’ ส่งรายงาน
ขณะที่การ ‘กู้เรือหลวงสุโขทัย’ ยันไม่เอื้อประโยชน์ใคร
วันที่
28 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม
นายสุทิน
คลังแสง รมว.กลาโหม ลุกขึ้นตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาฯ
กรณีน้ำมันของหน่วยงานทหารที่ จ.สระบุรี หาย จำนวน 2 แสนลิตร ซึ่งตั้งถามโดยนายจิรัฎฐ์
ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ว่า กองทัพได้ตรวจสอบ
และพบว่ามีเบาะแสรวมถึงความพิรุธ เบื้องต้นพบว่าน้ำมันดีเซลหาย 2.5 แสนลิตร ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่ามีความล่าช้านั้น
เป็นกระบวนการตรวจสอบที่ต้องทำให้รอบคอบก่อนจะลงโทษผู้กระทำผิด โดยภายในสัปดาห์สรุปผลเสนอ
ผบ.ทบ. ได้ โดยผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษทางวินัย และทางอาญา
รวมถึงสิ่งของทางราชการต้องได้คืนในทางแพ่ง เพื่อให้ได้คนที่ทำผิดจริง
การสอบสวนต้องละเอียด ซึ่งไม่ใช่ความล่าช้า เมื่อมีของหายปี 2565 และตรวจพบในปี2566 ตนมองว่าไม่ล่าช้า
“ในการทำงานของผมยึดหลักคนดีก็ชม คนไม่ดีต้องจัดการ
หากพบว่าสิ่งใดที่ทำมาในสิ่งที่ต้องการให้กำลังใจ
หากทำนอกเหนือจากนั้นไม่ต้องปกป้อง ต้องดูต่อไป ทั้งนี้ผมไม่มีเจตนาปกป้องกองทัพ
หรือให้ร้ายใครหากไม่อยู่ในฐานที่มีความผิดจริง ซึ่งมาตรการลงโทษที่เอาจริงจะเป็นการปรามไม่ให้เกิดเหตุอีก
พร้อมกับกำชับการตรวจสอบภายในที่ต้องเข้มแข็ง คือ ระหว่างหน่วย, การส่งกำลังบำรุงและการใช้จริง, ใช้กรรมการตรวจจากจเรรทหาร
และชุดตรวจพิเศษ ซึ่งผมจะกำกับให้เป็นมาตรการที่จะใช้อย่างจริงจังต่อไป” นายสุทิน
กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
นายจิรัฎฐ์ ได้ถามกระทู้สดนอกเหนือประเด็นที่ตั้งคำถาม คือ
ประเด็นปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ของ กองทัพเรือ หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ
และรมว.คลัง ได้หารือกับทางเยอรมันเพื่อแก้ปัญหากับเครื่องยนต์
รวมถึงได้ซักถามถึงกรณีที่กองทัพ ตั้งงบ 300 ล้านบาท
เพื่อนำมาใช้ในระบบสื่อสาร ทั้งที่ควรเป็นระบบที่ติดตั้งมาพร้อมกับเรือ รวมถึงปัญหาของระดับความลึกในทะเลที่ไม่เหมาะสม
พร้อมกับเสนอแนะให้ยกเลิกโครงการ
นายสุทิน
ชี้แจงว่า เรือดำน้ำสั่งซื้อจากจีน แต่เครื่องยนต์ไม่ตรงสเปค คือ คนจัดซื้อและกองทัพเรือ
ซึ่งต้องรอให้กองทัพเรือพิจารณาก่อนส่งต่อมายังตนฐานะรมว.กลาโหมให้พิจารณา
หากตนไม่เห็นด้วยจะส่งให้ ครม. พิจารณา
ทั้งนี้ในขั้นตอนขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกองทัพเรือที่ต้องพิจารณาและมีข้อสรุป
โดยขณะนี้ยังไม่มีประเด็นที่ส่งมายังตนให้พิจารณา
“ผมทราบว่า ผบ.ทร. คนที่จะเกษียณ ว่าสรุปว่าจะเดินหน้าต่อ
ซึ่งผมยังรอเรื่องที่เป็นข้อสรุปจากกองทัพเรืออีกครั้ง
ดังนั้นผมยังไม่สามารถให้คำตอบใดๆ ได้ หากผมด่วนสรุปจะไม่เป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้
กรอบการดำเนินการการจัดซื้อระหว่างประเทศ คือ
จีนกับเยอรมันมีกรอบอยู่ที่เดือนธันวาคม ดังนั้นยังมีรายละเอียดที่พอพิจารณาได้ 2-3เดือน” นายสุทิน กล่าว
รมว.กลาโหม
ชี้แจงด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายกฯ เจรจากับประเทศเยอรมันนั้น เป็นมาตรการเสริม
ทางใดที่รักษาประโยชน์ของประเทศมากที่สุด ในภาวะปกติ จะเจรจากับผู้ขายไม่ได้
แต่ขณะนี้ไม่ปกติ เพราะทราบว่าจะไม่เกิดตามสัญญาทำให้ไทยเสียประโยชน์ ดังนั้นทางใดที่เป็นประโยชน์จึงต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้กองทัพเสียประโยชน์
ส่วนรายละเอียดที่นายกฯ ไปเจรจาตนยังไม่ทราบรายละเอียด
รมว.กลาโหม
ยังตอบคำถามถึงการกู้เรือหลวงสุโขทัยล่ม ด้วยว่า
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนตนรับตำแหน่ง 2-3เดือน
ดังนั้นต้องติดตามเรื่อง ทั้งนี้ตนให้ฝ่ายจเรทหารสอดส่องดูแลหากพบความไม่ชอบมาพากล
หรือ นอกเหนือระเบียบราชการ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับใคร ตนจะจัดการแน่นอน ไม่ปล่อย