“ทนายอานนท์”
ขึ้นศาลอาญาฟังคำพิพากษา คดี ม.112 ย้ำกำลังใจยังดี
ลั่นแม้สูญเสียอิสระภาพโดยส่วนตัวก็คุ้มค่าด้วยความเต็มใจ ขอนักกิจกรรมสู้ต่อไป
เพราะประเทศเปลี่ยนแปลงไปเกินย้อนกลับ
วันที่ 26 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำอ. 2495/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10
เป็นโจทก์ฟ้องนายอานนท์ นำภา อายุ 39 ปี
ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง,
ร่วมกันมั่วสุมชุมนุม, ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง
พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548,
พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ กรณีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม6253 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดยบางช่วงบางตอนของการปราศรัย จำเลยได้กล่าวแสดงความอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นสถาบันฯ
นายอานนท์กล่าวว่า
ทั้งขบวนคนรุ่นใหม่ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนประเทศไป
จนไม่สามารถย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว ในแง่ของความคิดคน
ตนมองว่าตอนนี้คนทั้งประเทศเชื่อในสิทธิเสรีภาพ เห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นอารยะเห็นได้จากทุกรูปแบบทั้งในสื่อโซเชียล
บนท้องถนน ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ชัดเจนแล้ว
คนรุ่ยใหม่ก็โตมาโดยเชื่อในสิทธิเสรีภาพความเท่าเทียม ตนคิดว่าการชุมนุมในปี 63
ทำให้สังคมเปลี่ยนไปเยอะมากเป็นการต่อสู้ที่คุ้นค่า
เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงนักเคลื่อนไหวในตอนนี้
นายอานนท์ กล่าวว่า อยากให้กำลังใจ วันนี้เรายังไม่ทราบคำพิพากษา
ถ้าออกมาในทางร้ายก็คงติดคุกซึ่งเราก็ต้องสู้ต่อไป
อย่างไรก็ตามหากตนต้องถูกขังภายหลังก็ต้องเบิกตัวตนออกมาศาลเพื่อทำหน้าที่ทนายความและจำเลย
เพราะตนเป็นทนายความให้กับคดีการเมือง กรณีชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าวปี 63 ตนจะทำหน้าที่จากในคุกและนอกคุก
ฝากให้กำลังใจและขอบคุณคนที่สนับสนุน ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด
นายอานนท์กล่าวว่า
ตอนนี้กำลังใจยังดี คำพิพากษาวันนี้เป็นเรื่องเมื่อ 14 ตุลาคม
2563 ซึ่งตนไปปราศรัยเพื่อปรามไม่ให้ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนม
การที่วันนี้อาจจะสูญเสียเสรีภาพตามคำพิพากษา อาจจะหลายปี แต่ก็คุ้ม
ที่เหตุการณ์ดังกล่าวที่เราเดินจากราชดำเนินไปล้อมทำเนียบไม่เกิดการสูญเสีย
เป็นการเสียเสรีภาพโดยส่วนตัวต่อส่วนรวมที่คุ้มค่าอย่างมากด้วยความเต็มใจ
เมื่อถามว่าหากวันนี้นายอานนท์ต้องเข้าคุก
จะมีกลุ่มนักกิจกรรมออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ นายอานนท์กล่าวว่า แน่นอน
เพราะการเคลื่อนไหวยังมีเรื่อย ๆ มีการผ่อนไปตามสถานการณ์แต่เราจะไม่หยุด
การต่อสู้มีเป้าหมายชัดเจนว่าเราต่อสู้เพื่ออะไร