วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566

แรงงานนัดรวมตัวหน้าทำเนียบ ยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกฯ อนุมัติงบกลาง ช่วยเหลือแรงงานที่ถูกลอยแพ หลังก.แรงงานไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายกับนายจ้างได้ ด้านสมคิด เชื้อคง ตัวแทนรับเรื่อง ขอให้แรงงานมีความหวังกับรัฐบาลเศรษฐา จะดูแลให้ดีที่สุด


แรงงานนัดรวมตัวหน้าทำเนียบ ยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกฯ อนุมัติงบกลาง ช่วยเหลือแรงงานที่ถูกลอยแพ หลังก.แรงงานไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายกับนายจ้างได้ ด้านสมคิด เชื้อคง ตัวแทนรับเรื่อง ขอให้แรงงานมีความหวังกับรัฐบาลเศรษฐา จะดูแลให้ดีที่สุด

 

วันนี้ (26 กันยายน 2566) เวลา 9.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ร่วมกับลูกจ้างบริษัทเอกชน 2 แห่ง กว่า 300 คน เดินทางมาร้องเรียนและยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือ

 

เพื่อขอให้อนุมัติเงินงบกลางมาชดเชยให้กับคนงาน, ให้มีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาดกับฝ่ายนายจ้าง, รวมทั้งเรียกร้องให้เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานในอัตรา 80% ของค่าจ้างเฉลี่ย

 

สืบเนื่องจากบริษัทเอกชนทั้ง 2 แห่ง ไม่จ่ายค่าจ้างและต่อมาได้เลิกจ้างคนงาน โดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน และกระทรวงแรงงานไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายแรงงานตามมาตรา 9 (ผิดนัดจ่ายค่าจ้าง) และมาตรา 118 (ค่าชดเชย) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน

 

โดยคนงานทั้ง 2 บริษัท ได้ร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรกงานแล้ว และมีคำสั่งให้ทั้งสองบริษัทจ่ายเงินค่าจ่างและเงินชดเชย

 

กลุ่มแรงงานฯ ระบุว่า กระทรวงแรงงานล้มเหลว ในการบังคับใช้กฎหมายแรงงานในเรื่องค่าจ้างและค่าชดเชย ทำให้ลูกจ้างไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของกระทรวงแรงงานในการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน ด้วยการอนุมัติเงินจากงบกลางชดเชยให้กับลูกจ้างทั้ง 2 บริษัท รวมเป็นเงินทั้งหมด 52,510,616.25 บาท

 

รวมถึงขอให้รัฐบาลดำเนินคดีทางแพ่ง และอาญาต่อนายจ้างทั้งสองบริษัทอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้นายจ้างละเมิดกฎหมายแรงงานอีก และเพื่อนำเงินที่นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง และค่าชดเชยตามจำนวนเงินดังกล่าวใช้คืนต่อกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างต่อไป

 

อีกทั้งเรียกร้องรัฐบาลให้เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีการว่างงานจากเดิมในอัตรา 50 เปอร์เซ็นต์ เป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 180 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพที่เป็นจริง และเป็นหลักประกันรายได้ดำรงชีวิตระหว่างการว่างงานเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

 

ด้านนายสมคิด ภายหลังรับหนังสือจากกลุ่มแรงงานฯ ได้กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนนายกฯเราเข้าใจในความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลเราแม้จะเพิ่งมา เราจะทำเต็มที่แก้ปัญหาให้พี่น้องตามกฎหมาย อาจทันใจบ้างไม่ทันใจบ้าง แต่เราอยากทำให้ได้ทุกเรื่องตามที่พูด และที่เคยสัญญาไว้ อยากให้พวกเรามีความหวังว่ารัฐบาลเศรษฐา จะดูแลพวกเราตามความสามารถที่มีให้ดีที่สุด

 

จากนั้นนายสมคิด ได้นำตัวแทนจากเครือข่ายแรงงานและตัวแทนจาก 2 บริษัทที่ถูกเลิกจ้าง เข้าไปพูดคุยหารือด้านในทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ธนพร วิจันทร์ ตัวแทนจากเครือข่ายแรงงานฯ ออกมาแจ้งผลการหารือกับพี่น้องแรงงานด้านนอก ระบุว่า ได้ขอให้รัฐบาลอนุมัติงบกลางเพื่อนำเงินมาชดเชยแรงงาน และกลไกของรัฐที่ไม่สามารถจัดการได้

 

สำหรับในการพูดคุยได้ข้อสรุปคือ 1. นายสมคิด เชื้อคง มอบหมายให้กระทรวงแรงงานไปดูเรื่องกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าจะจ่ายเงินให้พี่น้องแรงงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่อย่างไร เพราะตอนนี้เงินในกองทุนฯมีประมาณ 152 ล้านบาท และหากกระทรวงแรงงานไม่สามารถจัดการได้ก็จะรวมตัวให้ปรับ ครม. เป็นรมว.แรงงาน

 

2. ถ้าหากรัฐบาล โดยรัฐมนตรีกระทรวงรงงาน ไม่สามารถทำให้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจ่ายชดเชยแรงงานให้ลูกจ้างทั้ง 2 บริษัทได้ นายกฯ ต้องอนุมัติงบกลางทันที เพราะควาทเดือดร้อนขอวคนงานเป็นเรื่องฉุกเฉิน

 

ธนพร ย้ำว่า ต้องรีบดำเนินการ ซึ่งไม่ใช่ 2 เดือน 1 เดือน แต่ต้องภายใน 7 วัน นี่คือความล้มเหลวของรัฐที่ไม่สามารถดูแลพี่น้องแรงงานได้ วันนี้ถือเป็นการเปิดเกม เปิดประเด็นว่าแรงงานมีความเดือดร้อนอย่างไร และจะมาที่นี่ทุกวันอังคาร จนกว่าพี่น้องแรงงานจะได้เงินคืนชดเชยทุกคนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ธนพร กล่าวทิ้งท้าย ก่อนแยกย้าย

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เครือข่ายแรงงานฯ 

#กระทรวงแรงงาน #รัฐบาลเศรษฐา