วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ผู้ช่วย รมต.กต. ย้ำพาทูตลงพื้นที่ชายแดนพิสูจน์ผลกระทบจากการโจมตีด้วยอาวุธหนักของกัมพูชาต่อเป้าหมายพลเรือน ผิดกฎหมาย-อนุสัญญา ตปท. ร้ายแรง เตรียมเชิญทูต ตปท.ประจำไทยชี้แจงย้ำอีกครั้ง 4 ส.ค.นี้ พร้อมประชุมทูตไทยใน ตปท.ด้วย

 


ผู้ช่วย รมต.กต. ย้ำพาทูตลงพื้นที่ชายแดนพิสูจน์ผลกระทบจากการโจมตีด้วยอาวุธหนักของกัมพูชาต่อเป้าหมายพลเรือน ผิดกฎหมาย-อนุสัญญา ตปท. ร้ายแรง เตรียมเชิญทูต ตปท.ประจำไทยชี้แจงย้ำอีกครั้ง 4 ส.ค.นี้ พร้อมประชุมทูตไทยใน ตปท.ด้วย


วันที่ 1 สิงหาคม 2568 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการร่วมนำคณะทูต และผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร รวมถึงคณะสื่อมวลชนต่างประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์พื้นที่พลเรือนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการโจมตีเป้าหมายพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยจรวด BM-21 ของกองกำลังกัมพูชา โดยเริ่มจากร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมัน ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ถูกฝ่ายกัมพูชาโจมตีอย่างหนักเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้พลเรือนที่ไม่มีอาวุธใด ๆ เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 15 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีแม่และลูกวัย 8 ขวบด้วย รวมถึงยังมีเหตุปะทะตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง บางแห่งโดนอาวุธโจมตีเกิดความเสียหาย เช่นโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และหลายแห่งมีจรวด อาวุธสงครามตกใกล้โรงพยาบาล และอยู่ในระยะรัศมีการโจมตี จึงจำเป็นต้องปิด หรือลดบริการ และอพยพผู้ป่วยเพื่อความปลอดภัย ทั้งที่โรงพยาบาลเป็นสถานที่ปลอดภัย ซึ่งการกระทำของกัมพูชา ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรง และเชื่อว่าข้อเท็จจริงที่คณะทูตตลอดจนสื่อมวลชนจำนวนมากที่มาร่วมในวันนี้จะถูกนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกเข้าใจในวงกว้างต่อไป


ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยอีกว่า ในวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญคณะทูตานุทูตต่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงย้ำถึงสถานการณ์ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมถึงภายในสัปดาห์หน้า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะประชุมเอกอัครราชทูตไทย กงสุลใหญ่ไทย และผู้แทนประเทศไทยในต่างประเทศ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ และติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลกอีกช่องทางหนึ่ง


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ไทยกัมพูชา