วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568

“ณัฐพงศ์” เปิดงบ ทบ. ขอสร้างอาคารราชการ 4,700 ล้านบาท ดูเหมือนไม่ผูกพันแต่แอบเนียนผูกพัน ขอซ้ำเข้ามาแบบเดิมติดต่อกันเกือบสิบปีจนงบพุ่งเฉียด 32,000 ลบ. แนะขอเป็นโครงการผูกพันเพื่อความโปร่งใส

 


“ณัฐพงศ์” เปิดงบ ทบ. ขอสร้างอาคารราชการ 4,700 ล้านบาท ดูเหมือนไม่ผูกพันแต่แอบเนียนผูกพัน ขอซ้ำเข้ามาแบบเดิมติดต่อกันเกือบสิบปีจนงบพุ่งเฉียด 32,000 ลบ. แนะขอเป็นโครงการผูกพันเพื่อความโปร่งใส


วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 วาระที่ 2 และ 3 ณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ สส.กรุงเทพ พรรคประชาชน ได้อภิปรายในมาตรา 8 งบประมาณกระทรวงกลาโหม โดยขอแปรญัตติปรับลดงบประมาณในส่วนของกองทัพบก ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการลง 5%


โดยณัฐพงศ์ระบุว่าในช่วงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่หนึ่ง ตนเคยอภิปรายเรื่องของการก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการของหน่วยงานต่างๆ รวมงบประมาณทั้งสิ้นหลักแสนล้านบาท รวมถึงงบผูกพันที่จะเกี่ยวเนื่องไปในอนาคตด้วย แต่ในวันนี้ตนขออภิปรายถึงในส่วนของกระทรวงกลาโหมโดยเฉพาะ ด้วยเหตุว่าหน่วยงานที่มีการก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการมากที่สุดในปี 2569 คือกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ในสังกัดกระทรวงกลาโหม


กองทัพบกมีโครงการสร้างอาคารสถานที่ราชการอยู่ถึง 4,700 ล้านบาทในปี 2569 เป็นงบประมาณก้อนใหญ่ ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างโดยใช้งบประมาณปีเดียวทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่โครงการเดียวที่เป็นโครงการผูกพัน โดยที่คณะกรรมาธิการฯ มีการปรับลดงบประมาณไปเพียงแค่ 30 ล้านบาท หรือไม่ถึง 1% ของงบประมาณเท่านั้น นอกจากนี้กองทัพต่างๆ ในสังกัดของกระทรวงกลาโหมก็ล้วนแต่ติดอยู่ใน 10 ลำดับแรกทั้งนั้น 


ณัฐพงศ์กล่าวต่อไปว่าแต่ทุกหน่วยงานล้วนมีโครงการผูกพัน มีแค่หน่วยงานเดียวคือกองทัพบกที่ไม่มีโครงการผูกพัน ซึ่งหากดูเช่นนี้จะเห็นเหมือนว่าโครงการของกองทัพบกทั้งหมดสามารถดำเนินการเสร็จได้ภายในปีเดียว แต่เมื่อลงไปดูเนื้อหาในเอกสารงบประมาณที่เข้าพิจารณาในวาระที่หนึ่ง ย้อนไปในช่วงประมาณ 9-10 ปีก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงปี 2561-2569 ก็จะพบว่าในส่วนของโครงการที่มีการของบประมาณก่อสร้างมาปีนี้เป็นงบประมาณปีเดียว ความจริงแล้วเป็นการขอปีเดียวแบบขอมาซ้ำทุกปี ทั้งหมด 47 รายการ ไม่รวมในส่วนของโครงการที่มีงบประมาณต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีเพียงแค่ 3 โครงการที่มีการของบประมาณปี 2569 เป็นปีแรก


บางโครงการจะเห็นได้ว่ามีการของบประมาณมาทุกปีด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการย้ายที่ตั้งโรงเรียนนายสิบ ปีนี้มีการของบประมาณมาเพียงแค่ 26 ล้านบาท แต่ความจริงมีการขอมา 8 ปีติดต่อกัน รวมเป็นงบประมาณทั้งหมด 604 ล้านบาท ขณะที่โครงการซ่อมปรับปรุงเรือนแถวนายทหารสัญญาบัตร ของบประมาณปีนี้มา 264 ล้านบาท แต่ถ้ามองย้อนไป 9 ปีเป็นอย่างน้อยจะเห็นว่าโครงการนี้ใช้ไปแล้วถึง 2,000 ล้านบาท หลายโครงการก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือมีการของบประมาณอย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 7-9 ปี รวมแล้วหลายโครงการเป็นงบประมาณถึงหลักพันล้านบาท


ณัฐพงศ์กล่าวต่อไปว่าดังนั้น ทั้งหมด 47 โครงการของกองทัพบกที่มีการขอเข้ามาในปี 2569 อาจจะดูเหมือนว่าเป็นงบประมาณ 4,700 ล้านบาท แต่ถ้าดูตัวเลขที่รวมโครงการที่ดูเหมือนจะไม่ผูกพันแต่ความจริงผูกพันนี้แล้ว จะเห็นว่าเป็นงบประมาณมากถึง 32,000 กว่าล้านบาท ซึ่งถือเป็นงบประมาณก้อนใหญ่มาก ขณะที่หน่วยงานอื่นไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือ กองทัพอากาศ หรือกองบัญชาการกองทัพไทย ล้วนมีการตั้งงบประมาณโครงการก่อสร้างเป็นลักษณะโครงการผูกพันหรือเป็นแผนกันอย่างชัดเจนทั้งสิ้น 


แต่ในส่วนของกองทัพบก การตั้งงบประมาณในลักษณะนี้ทำให้สภาไม่สามารถที่จะเห็นได้ว่าตัวเลขงบประมาณโดยภาพรวมทั้งหมดที่จะทำจนแล้วเสร็จจะเสร็จในปีไหน อย่างไร และใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการดำเนินการทั้งหมด ประชาชนเองก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบความคืบหน้าได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อีกทั้งเป็นโครงการที่ใช้คำใหญ่ๆ กว้างๆ แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในอนุกรรมาธิการฯ หรือได้ไปดูเอกสารในอนุกรรมาธิการฯ จะไม่สามารถเห็นรายละเอียดด้านในได้เลยว่าความจริงแล้วในหนึ่งโครงการนั้นแบ่งย่อยเป็น 30-40 โครงการย่อย ทำให้คณะกรรมาธิการฯ หรือสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถที่จะพิจารณางบประมาณได้อย่างมีเวลามากเพียงพอ และพิจารณาได้เพียงแค่ในชั้นอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งมีเวลาน้อยมาก


ณัฐพงศ์กล่าวต่อไปว่าการที่ตนอภิปรายในวันนี้ ความจริงแล้วตนมีความเข้าใจดีว่าบางโครงการมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่เรื่องของรูปแบบโครงการและการของบประมาณก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเป็นไปในมาตรฐานเดียวกันกับหน่วยงานราชการอื่น หรืออย่างน้อยควรเป็นมาตรฐานเดียวกันกับหน่วยงานด้านความมั่นคงหน่วยงานอื่น


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #อภิปรายงบประมาณ #งบ69