“ลูกเกด ชลธิชา” เสนอตัดงบ พช. 10 เปอร์เซ็นต์ แนะกำหนดตัวชี้วัด-ประเมินโครงการโคกหนองนาอย่างจริงจัง-ช่วยออกแบบโครงการให้สอดคล้องกับพื้นที่และทรัพยากร เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี เขต 3 พรรคประชาชน อภิปรายตัดลดงบประมาณของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในส่วนกิจกรรมโครงการที่เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักทฤษฎีใหม่ และโคกหนองนา
โดยระบุว่า ตนสนับสนุนการทำโครงการเกษตรที่จะยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน แม้ว่าที่ผ่านมามีประชาชนหลายคนที่เข้าร่วมโครงการแล้วประสบผลสำเร็จจริง ๆ เช่นที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและโคกหนองนา ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ตนเพิ่งเข้าเยี่ยมชม พบว่าทำไว้ได้ดีมาก
อย่างไรก็ดี ยังมีประชาชนอีกหลายกลุ่มที่ล้มเหลวกับการทำโครงการและต้องสูญเสียเงินไปจำนวนมาก เช่น ผู้ที่ทดลองทำโครงการในภาคใต้เล่าว่าสาเหตุหลักที่ล้มเหลวเพราะโครงการถูกออกแบบมาอย่างสำเร็จรูปโดยกรมการพัฒนาชุมชน การที่เกษตรกรจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบตามความต้องการและศักยภาพ รวมถึงทรัพยากรของตนเองนั้นเป็นไปได้ยากมาก อีกทั้งโครงการไม่ตอบโจทย์สภาพที่แตกต่างกันของพื้นที่จริง ขาดการวัดผลประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ
การตัดลดงบประมาณตนจึงจะเน้นไปที่แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างพลังทางสังคม ที่เกี่ยวข้องกับ ผลผลิตที่ 2 การสร้างความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ 457 ล้านบาท และผลผลิตที่ 3 การเสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการชุมชน 552 ล้านบาท แค่ 2 ผลผลิตนี้ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงและโคกหนองนา ของบรวมกันกว่า 1,000 ล้านบาท และถึงแม้จะแยกผลผลิตกันหรือของบประมาณกันมาคนละก้อน แต่ในรายละเอียดกิจกรรมกลับมีความคลุมเครือและคล้ายคลึงกันมาก
ที่สำคัญงบประมาณส่วนนี้ถูกใช้สำหรับพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง 755 หมู่บ้าน และพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ประยุกต์สู่โคกหนองนาอีกกว่า 1,200 แห่ง รวมๆ กันแล้วเกือบ 2,000 แห่ง ตนไม่เห็นด้วยที่กรมการพัฒนาชุมชนจะหว่านแหทำโครงการที่เน้นแต่จำนวนเพียงอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพในการทำโครงการอย่างเเท้จริง เพราะในหลายโครงการที่มีการของบประมาณมา ไม่มีการชี้แจงผลที่คาดว่าจะได้รับจากการทำโครงการด้วยซ้ำ
จึงขอฝากเป็นข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ หากกรมการพัฒนาชุมชนเห็นว่าโครงการเหล่านี้สำคัญและจำเป็นต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนจริง ๆ ท่านควรต้องมีตัวชี้วัด มีเกณฑ์การประเมินความสำเร็จของโครงการที่ชัดเจน มีระบบติดตามผลอย่างจริงจัง รวมถึงต้องมีการสนับสนุนพื้นที่ที่สำเร็จเดิมอยู่แล้ว และพื้นที่กำลังพัฒนาที่มีแนวโน้มที่ดีให้มีศักยภาพเพียงพอในการสร้างเครือข่ายและอยู่ได้ด้วยตนเอง และต้องไม่เน้นการเพิ่มจำนวนโครงการจนเกินไป โดยไม่ได้คำนึงถึงความพร้อมและความสามารถของหน่วยงานในการติดตามดูแลโครงการที่เข้าร่วมโครงการ
ที่สำคัญควรมีการประเมินความพร้อมของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการก่อนเริ่มทำเพื่อประเมินความเสี่ยงและเตรียมพร้อมรับมือ รวมถึงต้องปรับแนวทางการทำโครงการให้ยืดหยุ่นขึ้น ไม่เป็น one size fits all เพื่อป้องกันความล้มเหลว ไม่ให้เป็นการใช้งบประมาณของรัฐไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ด้วยเหตุผลทั้งหมด จึงขอให้ตัดลดงบประมาณของกรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทยลง 10 %
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ประชุมสภา #อภิปรายงบ #งบ69 #กรมการพัฒนาชุมชน
