วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568

“ภัทราภรณ์” แฉงบซ่อมสภา กทม. 194 ล้านบาท อึ้งปีที่แล้วโดนตัด ปีนี้แปลงร่างขอใหม่ ซัด “ชัชชาติ” รู้เห็นเป็นใจหรือไม่

 


“ภัทราภรณ์” แฉงบซ่อมสภา กทม. 194 ล้านบาท อึ้งปีที่แล้วโดนตัด ปีนี้แปลงร่างขอใหม่ ซัด “ชัชชาติ” รู้เห็นเป็นใจหรือไม่


วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ในการประชุมสภากรุงเทพมหานครเพื่อพิจารณาญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ พรรคประชาชน ได้กล่าวถึงงบซ่อมสภากรุงเทพมหานครหรืออาคารไอราวัตพัฒนา


ภัทราภรณ์ กล่าวว่า งบประมาณก้อนนี้มีทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่ารวมกันสูงถึงกว่า 194 ล้านบาท แบ่งเป็นการซ่อมหลังคา ปรับปรุงพื้นที่ชั้นใต้ดิน ซ่อมระบบเครื่องกล และการก่อสร้างห้องสมุดสภา กทม. ที่ห้องโถงชั้น 1 บางคนอาจมองว่าตึกเดียวใช้งบเกือบ 200 ล้านเลยหรือ ซึ่งตนต้องขอย้อนไปในปีงบประมาณ 68 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน 


ปีที่แล้วมีโครงการหนึ่งที่ไม่มีอยู่ในเล่มร่างงบประมาณ แต่ท่านผู้ว่าฯ กลับเร่งยัดเข้ามาในงบแปรญัตติไม่กี่วันก่อนที่จะถึงวันสุดท้ายของการพิจารณางบประมาณ เป็นเลขกลมๆ โครงการเดียวกว่า 573 ล้านบาท ชื่อว่า “โครงการปรับปรุงอาคารไอราวัตพัฒนา” ของสำนักเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร มีตั้งแต่ซ่อมหลังคา เปลี่ยนลิฟท์ทั้งสภา เปลี่ยนบันไดเลื่อนใหม่ทั้งสภา ทำห้องน้ำใหม่ทั้งสภา และอื่นๆ อีกมากมาย 


“การรีบเขียนโครงการ รายละเอียดไม่มี ถามแล้วตอบไม่ได้ แต่ยอดใหญ่ขนาดสร้างตึกใหม่ได้นั้น เราจะเรียกว่าจงใจทุจริตได้หรือไม่ โชคยังดีที่เพื่อนสมาชิกมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ร่วมกันตัดงบของผู้ว่าฯ ตัวนี้ออกอย่างเป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมวิสามัญงบประมาณปีที่แล้ว” 


ภัทราภรณ์กล่าวต่อว่า แทนที่ตัดงบทิ้งไปปีก่อนแล้วจะจบ ปรากฎว่าโครงการนี้ฟื้นคืนชีพกลับมาในร่างใหม่ จากก้อนเดียวก้อนใหญ่ แตกเป็น 4 ก้อน แยกไป 2 สำนัก คือสำนักงานเลขนุการสภากรุงเทพมหานคร และสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สิ่งที่เหมือนกับปี 68 มี 2 อย่าง คืองบประมาณการซ่อมหลังคาอาคารไอราวัตพัฒนา และงบประมาณซ่อมแอร์ ซึ่งปกติเวลาจะมีการทุจริต มักมีการเคาะยอดเงินที่ต้องทอนออกมาเป็นตัวตั้งต้นก่อน แล้วค่อยเขียนโครงการมาสวม ดังนั้นถ้ายอดเดิมคือ 573 ล้านบาท แล้วยอดใหม่ของ 4 โครงการในร่างงบประมาณปี 69 แค่ 194 ล้านบาท เป็นไปได้ที่อีกเกือบ 400 ล้านบาทยังสาละวนอยู่กับการปรับปรุงสภา กทม. เพียงแต่อาจเบ้ไปสายดิจิทัลแทนเพราะมันดูตรวจสอบยาก และอาจจะเข้ามาในรูปแบบของงบแปรญัตติอีก 6 โครงการในปลายเดือนสิงหาคมนี้


“ท่านผู้ว่าฯ อาจจะใช้มุกเดิม บอกว่าข้าราชการทำเอง ท่านไม่เคยทราบ ดิฉันว่าท่านเลิกดูถูกพี่น้องประชาชน คำขอจากหน่วยงาน 2 สำนักที่ว่า ท่านแทบไม่ได้ตัดงบอะไรที่สำนักขอมาเลย จากเกือบ 200 ล้าน ตัดรวมกันไปแค่ 1.8% จากที่ขอมาเท่านั้น”


สำหรับโครงการแรก งานปรับปรุงหลังคาไอราวัตพัฒา 52.6 ล้านบาท งานหลักคือการซ่อมหลังคา แม้ตนเห็นด้วยว่าควรทำใหม่ แต่ราคาสูงเกินไปหรือไม่ เช่นงานรางน้ำแสตนเลสอาคารไอราวัต ราคารางน้ำปกติที่ใช้สำหรับคอนโดสูงจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อเมตร แต่ราคาที่ผู้ว่าเสนอมาอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเมตร มีส่วนต่างสูงถึง 1,430,000 บาท 


โครงการที่สองเป็นงานปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารไอราวัตพัฒนา ชั้น B2 ราคา 43 ล้านบาท เหตุผลความจำเป็นของโครงการนี้ หลักๆ คือห้องประชุมไม่เพียงพอและห้องงบประมาณใช้ไม่สะดวก แต่จากที่ตนใช้มา 3 ปีก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร อุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน อีกทั้งยังมีการใส่จำนวนตรม.มาเกินความเป็นจริงไปมาก จากห้องประชุมใหญ่พื้นที่ 243 ตรม. กลับใส่มา 2,972 ตรม. ทำให้มีส่วนต่างเพิ่มขึ้นมา 13,645,000 บาท จากยอดเดิมเพียง 1,215,000 บาท


ตนเทียบราคามาครุภัณฑ์มาให้หมดแล้วทุกรายการ ส่วนต่างฉ่ำๆ 59% และที่ราคาครุภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์บวมขนาดนี้ได้ เพราะทั้งหมดเป็นการเสนอราคามาเทียบ 3 เจ้า บ้านเดียวกันหมดเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่อาจไม่ผิดกฎหมาย ผิดที่ กทม. มีระบบที่เอื้อและเห็นดีเห็นงามต่อการทุจริต ทำให้ผู้ประกอบการต้องใช้วิธีแบบนี้เพื่อให้ได้งาน ใช่หรือไม่ 


โครงการที่สามเป็นงานปรับปรุงระบบเครื่องกลหรือระบบแอร์และลิฟท์ในอาคารไอราวัตพัฒนา ราคา 55.8 ล้านบาท เหตุผลความจำเป็นของโครงการ มีตั้งแต่แอร์ในอาคารไม่เย็นบางจุด น้ำแอร์หยด ค่าบำรุงรักษาแพง ระบบท่อและวาล์วชำรุด ลดขนาดห้องเครื่องเพื่อประหยัดพลังงาน และอื่นๆ อีกมากมาย ฟังแล้วเหมือนจะพังทั้งระบบ ตนในฐานะผู้ใช้งานอาคารก็เห็นตามเนื้อผ้าแค่ว่าห้องประชุม 2-3 ห้องแอร์ไม่เย็นเท่านั้น ส่วนอื่นๆยังไม่เห็นหลักฐาน ซึ่งคงต้องขอเอกสารเพิ่มเติม


แต่ในส่วนของงบประมาณที่ขอมา โครงการนี้ควรจะลงรายละเอียดและมีความชัดเจนที่สุดแล้ว เพราะเป็นงานติดตั้งและงานจัดซื้อเครื่องจักรใหญ่ แต่ก็เป็นที่น่าสงสัยมากๆ ว่าทำไมกลับเขียน BOQ ให้คลุมเครือจนไม่รู้ว่าแต่ละรายการทำอะไร


โครงการสุดท้ายคือ งานก่อสร้างห้องสมุดสภากทม. อาคารไอราวัตพัฒนา ราคา 43,030,000 บาท โครงการนี้ตนหนักใจมาก พยายามหาเหตุผลความจำเป็นอย่างสุดกำลัง ขุดแล้วขุดอีกก็ไม่เจอความสมเหตุสมผล เริ่มกันที่ความต้องการให้ห้องสมุดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของห้องสมุดทั้ง กทม. ในแบบก่อสร้างมีทั้งหลังคาเปิด-ปิดได้พร้อมมอเตอร์อัตโนมัติยอดรวมกว่า 16 ล้านบาทที่ไม่รู้ว่าทำทำไม แล้วยังมีโรงหนังมินิโฮมเธียเตอร์ขนาด 20 ที่นั่ง ถามจริงๆ ว่าท่านผู้ว่าฯ จะให้สภาฉายอะไรและใครจะมาดู ท่านผู้ว่าฯ ไปขอแบบจากโรงหนัง 4D สุดปังของรัฐสภามาหรือเปล่า


ทั้ง 4 โครงการซ่อมสภากทม.ที่กล่าวมา นี่คือการซ่อมสภาภาค 2 ที่ภาคแรกนั้นเป็นการซ่อมรัฐสภาใหญ่ที่สส.สว.ใช้งานกันอยู่ มาครบจัดเต็ม น่าจะเอาต้นแบบจากรุ่นพี่ตึก สตง. มีทั้งการกินส่วนต่างครุภัณฑ์อย่างหน้าไม่อาย มีการกินโครงสร้างตึกตั้งแต่รางน้ำฝนยันตกแต่งภายใน ส่วนที่น่าจะเจริญรอยตามรุ่นพี่รัฐสภาไป ก็มีทั้งความลักลั่นที่จะเอาส่วนต่างจากการปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณใหม่และโรงหนังที่ไม่รู้ว่าเอามาดูอะไร หรือไม่ 


ตอนแรกตนคิดไปเองว่าหรือการทุจริตที่ง่ายที่สุดมันคือการซ่อมสภาที่นักการเมืองอยู่กันเองนี่แหล่ะ เพราะเหตุผลความจำเป็นก็มาจากคนตรวจสอบงบ เวลาก่อสร้างก็งุบงิบทำไปเพราะไม่มีประชาชนมาร้องเรียน แต่เพราะหากเราดูกันที่รัฐสภานั้น งานซ่อมรัฐสภาปกติจะมาจากประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ นั่นก็คือประธานสภา แต่สภากรุงเทพมหานครนั้นต่างออกไป เราเป็นสภาท้องถิ่น อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทยที่มีผู้ว่าฯเป็นฝ่ายบริหาร ดังนั้นงบซ่อมสภากทม.นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีฝ่ายบริหารกทม.จัดให้ และผู้ว่าฯเป็นคนเซ็นอนุมัติ 


ข้อเสนอของดิฉันต่อคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณฯที่กำลังจะเริ่มทำงานในอีกไม่กี่วันนี้ คือ ให้ปรับลดงบประมาณลงมากกว่า 50% จากร่างงบประมาณที่ขอมาให้เหมาะสมกับปริมาณงานจริง ได้แก่ โครงการงานปรับปรุงหลังคา และงานปรับปรุงระบบเครื่องกลหรือระบบแอร์และลิฟท์ ส่วนที่ให้ตัดทิ้งทั้งรายการเนื่องจากไม่มีเหตุผลความจำเป็น ได้แก่ โครงการปรับปรุงพื้นที่ชั้น B2 และงานก่อสร้างห้องสมุดสภากทม. ซึ่งอย่างน้อยที่สุดจะช่วยประหยัดภาษีของพี่น้องประชาชนไปได้ถึง 140,230,000 บาทเพื่อนำไปพัฒนากรุงเทพมหานครให้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ในด้านอื่นต่อไป 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์