วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

ทนายวิญญัติ’ คาด ‘19 แกนนำนปช.’ พ้นผิดคดีตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ


‘ทนายวิญญัติ’ คาด ‘19 แกนนำนปช.’ พ้นผิดคดีตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ วันนี้ (16 ม.ค. 62) เหตุคำสั่งคสช.ที่ 3/58 ห้ามชุมนุมทางการเมือง ถูกยกเลิกแล้ว

นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) ให้สัมภาษณ์แฟนเพจ ‘ยูดีดีนิวส์ - UDD news’ ถึงคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 19 คน ถูกกล่าวหาตามคำฟ้องของอัยการศาลทหารกรุงเทพฯ ฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 เรื่องการห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จากกรณีร่วมกันจัดแถลงข่าวตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2559

โดยนายวิญญัติ กล่าวว่า วันนี้นี้ (16 ม.ค. 62) ศาลทหารกรุงเทพฯ นัดสอบคำให้การเพิ่มเติมและนัดพร้อมในเวลา 8.30 น.

ทีมทนายจำเลยทั้ง 19 คน เห็นตรงกันว่า คดีนี้เนื่องจากได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ซึ่งมีการออกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 22/2561 ในข้อ 1 (7) ของคำสั่งดังกล่าว ได้สั่งให้ยกเลิกข้อ 12 ของคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 อันเป็นข้อหาตามคำฟ้องในคดีนี้


จึงมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องขอให้ศาลทหารวินิจฉัย โดยเมื่อพิจารณาตามมาตรา 2 ของประมวลกฎหมายอาญา ได้รับรองหลักไม่มีโทษโดยไม่มีกฎหมาย ว่า “บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้น ต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย”

นอกจากนี้ ตามหลักมาตราเดียวกันนี้ยังบัญญัติว่า หากมีกฎหมายบัญญัติขึ้นในภายหลังให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป ก็ให้ผู้กระทำความผิดนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด หรือหากขณะนั้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษเเล้ว ก็ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด หรือหากได้รับโทษอยู่ ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงอีกด้วย

‘ดังนั้น แม้ตามข้อ 2 ของคำสั่งที่ 22/2561 จะบุว่า การยกเลิกบรรดาประกาศ/คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามข้อ 1 ไม่กระทบกระเทือนถึงการดำเนินคดี การดำเนินการ หรือการปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งที่ได้กระทำไปก่อนการยกเลิกโดยคำสั่งนี้

ผมเห็นว่า หลักการในข้อดังกล่าว เป็นการเขียนไว้เพื่อปกป้องการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ได้กระทำไปก่อนจะมีคำสั่งยกเลิกนี้ เพื่อรับรองการกระทำและผลจากการใช้อำนาจตามที่ได้อาศัยอำนาจตามคำสั่งเดิมไปแล้วให้ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนคดีความทางอาญา เมื่อไม่มีกฎหมายลงโทษหรือบัญญัติเป็นความผิดแล้ว ก็ต้องจำหน่ายคดีออกไป การนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับลงไปด้วยนั่นเอง’ นายวิญญัติกล่าว

สำหรับแกนนำ นปช. 19 คน ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ นายสมหวัง อัสราษี นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ นายเกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์ นายอารี ไกรนรา นายสมชาย ใจมุ่ง นายพรศักดิ์ ศรีละมุด นายนิสิต สินธุไพร นายยศวริศ ชูกล่อม และนายศักดิ์รพี พรหมชาติ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21ก.ย. 2561 ศาลทหารกรุงเทพฯ ได้มีการนัดสอบคำให้การ ซึ่งทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยกเว้น นายแพทย์เหวง ไม่ได้มาศาลทหารในวันดังกล่าว เนื่องจากป่วย หลังจากผ่าตัดไส้ติ่งมีปัญหาระบบทางเดินหายใจต้องพักรักษาตัวและอยู่ในการควบคุมของแพทย์

(สัมภาษณ์โดย ฟ้ารุ่ง ศรีขาว)