วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ก้าวไกล โต้ ‘ชัยวัฒน์’ กล่าวหาร้ายแรงโยงพรรคการเมือง-ฝ่ายค้านเอี่ยวเผาป่า ก่อฝุ่นพิษ ท้าหากมีมูลให้เปิดหลักฐานโชว์

 


ก้าวไกล โต้ ‘ชัยวัฒน์’ กล่าวหาร้ายแรงโยงพรรคการเมือง-ฝ่ายค้านเอี่ยวเผาป่า ก่อฝุ่นพิษ ท้าหากมีมูลให้เปิดหลักฐานโชว์


วันที่ 19 เมษายน 2567 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์ข้อความผ่านช่องทางออนไลน์ส่วนตัว และให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนในลักษณะที่ทำให้สังคมเชื่อว่าพรรคการเมืองและนักการเมือง รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้าน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาป่า ทำให้เกิดฝุ่นพิษเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ว่า


1. ข้อกล่าวหาดังกล่าว ถือเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีข้อมูลหลักฐาน พรรคก้าวไกลขอให้นำมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมาย และตามแนวนโยบายของรัฐบาล


แต่หากไม่มีข้อมูลหลักฐาน พรรคก้าวไกลถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง


2. ภารกิจหลักในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นพิษเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและหน่วยงานราชการ ส่วนพรรคก้าวไกล ภาคประชาสังคม ร่วมทั้งอาสาสมัครประชาชน ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเครื่องมืออุปกรณ์ กำลังคน อาสาสมัคร การเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดนนโยบายที่เหมาะสมที่สุด ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง


3. พรรคก้าวไกลยังมีแนวนโยบายและการทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติอีกจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นพิษระยะยาวอย่างยั่งยืน


สุดท้าย ขอย้ำเตือนไปยังคุณชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ว่ากรุณาเปิดใจให้กว้าง อย่าผูกขาดความรักป่าไว้เพียงคนเดียว มิเช่นนั้นแล้ว จะนำมาสู่ความคิดที่ว่าตนเองดีและสูงส่งกว่าคนอื่นๆ ซึ่งอาจนำมาสู่การปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจเกินขอบเขตและไม่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชน อย่างที่คุณชัยวัฒน์เคยถูกกล่าวหามาแล้วหลายครั้ง


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล

“วันนอร์” เผยไม่มีสัญญาณเปลี่ยนตัว ปธ.สภาฯ ชี้ ถ้ามีก็รับไม่ได้ เหตุประเพณีไม่มีเปลี่ยนตัวกลางคัน อยู่หรือไปเป็นไปตาม รธน. ย้ำเป็นหนึ่งในสามเสาหลักที่สำคัญ ต้องเป็นกลาง การเมืองแทรกไม่ได้

 


วันนอร์” เผยไม่มีสัญญาณเปลี่ยนตัว ปธ.สภาฯ ชี้ ถ้ามีก็รับไม่ได้ เหตุประเพณีไม่มีเปลี่ยนตัวกลางคัน อยู่หรือไปเป็นไปตาม รธน. ย้ำเป็นหนึ่งในสามเสาหลักที่สำคัญ ต้องเป็นกลาง การเมืองแทรกไม่ได้

 

วันนี้( 19 เมษายน 2567) ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีการเชื่อมโยงมาถึงการเปลี่ยนตำแหน่งประธานสภา มีการส่งสัญญาณมาหรือไม่ ว่า จนถึงขณะนี้ไม่มีสัญญาณอะไร แต่อยากจะเรียนว่าการปรับคณะรัฐมนตรีกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนละเรื่องกัน และไม่เกี่ยวกัน เพราะการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องเลือกในที่ประชุม มีการเสนอชื่อ มีผู้รับรองและต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ วาระการดำรงตำแหน่งของประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานฯ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรข้อ 5 และ 6 ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว

 

ผมไม่ได้ติดยึดกับตำแหน่ง หากทำได้เพื่อประโยชน์ของประชาชนก็ต้องทำเต็มที่ หากทำไม่ได้ ก็พร้อมไป แต่อยากจะย้ำว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ ที่เป็นเสาหลักของประชาธิปไตยในสามเสา คือบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการซึ่ งประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องมีความเป็นกลาง ไม่มีอำนาจใดเข้ามาแทรกแซงได้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็ชัดเจนว่า ประธานและรองประธานสภาฯ ต้องไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความผูกพัน หรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่จากพรรคการเมือง การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปตามข้อบังคับ และกฎหมายรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ ควรจะรักษาเกียรติและระบอบประชาธิปไตยที่เป็นเสาหลักอันนี้เอาไว้ อย่างมั่นคง ผมไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องเกีรยติศักดิ์ศรีของสภาในระบอบประชาธิปไตย ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องรักษาอันนี้ไว้ ผมไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องเกีรยติศักดิ์ศรีของสภาในระบอบประชาธิปไตย ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องรักษาอันนี้ไว้” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว

 

เมื่อถามว่าไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องมาเปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ข้อบังคับและประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมาไม่เคยเปลี่ยนกลางคัน ตนเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกได้ 1 ปี โดยหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ลาออก มีการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้เปลี่ยน อยู่ไปอีก 2-3 ปี การทำงานในระบบของสภาฯ กับฝ่ายบริหาร ก็ไม่ได้มีปัญหา เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรใครมาเป็นต้องมีความเป็นกลาง มิใช่เครื่องมือของพรรคการเมือง

 

เมื่อถามว่ายังยืนยันทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ต่อใช่หรือไม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวย้ำว่า เป็นหน้าที่เป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมายก็ต้องปฏิบัติ หากละเลยไม่ปฏิบัติก็เท่ากับว่าตนไม่รักษาระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมอบหมายไว้

 

เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีใครส่งสัญญาณมาใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าไม่มี และถึงส่งสัญญาณมาก็เป็นสัญญาณที่รับไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องออกจากตำแหน่ง หากปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ก็ต้องไปเอง เพราะตนถือว่า ประโยชน์ของประชาชนประโยชน์ของสภาและศักดิ์ศรีของประชาธิปไตยก็ต้องให้เดินไปตรงแนวทางจะมาบิด ๆ เบี้ยว ๆ เพื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ควรกระทำ ส่วนยังทำหน้าที่ต่อไปได้ใช่หรือไม่ ประเมินตัวเองไม่ได้ ต้องให้สื่อและประชาชนประเมิน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ประธานสภา

รำลึกถึง ‘บิลลี่’ ผู้พิทักษ์สิทธิแห่งบางกลอย ณ ใจแผ่นดิน 10 ปี ถูกบังคับให้สูญหาย ก่อแรงบันดาลใจคนบางกลอยรุ่นใหม่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนกะเหรี่ยง

 


รำลึกถึง ‘บิลลี่’ ผู้พิทักษ์สิทธิแห่งบางกลอย ณ ใจแผ่นดิน 10 ปี ถูกบังคับให้สูญหาย ก่อแรงบันดาลใจคนบางกลอยรุ่นใหม่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนกะเหรี่ยง

 

เมื่อวันที่ 17 - 18 เมษายน 2567 ณ หมู่บ้านโป่งลึก บางกลอย มูลนิธิผสานวัฒนธรรมร่วมกับภาคีเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งชุมชนกะเหรี่ยงใจแผ่นดิน-บางกลอย ร่วมจัดงานจัดงาน รำลึกถึง "บิลลี่" พอละจี รักจงเจริญ เนื่องในวันครบรอบ 10 ปี การบังคับสูญหาย เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการถูกบังคับสูญหาย และการเรียกร้องความยุติธรรม ผ่านการฉายภาพยนตร์ และการเปิดพื้นที่พูดคุยหารือและสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน ผู้ได้รับผลกระทบผ่านกิจกรรม Community Memory Box และแคมเปญเขียนจดหมาย

 

สำหรับกิจกรรมในวันที่ 17 มีทั้งกิจกรรม “กลับมากินข้าวด้วยกันนะ” โดยเชิญชวนเด็ก ๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอม และคนในชุมชนทุกบ้านมาล้อมวงทำอาหารร่วมกัน กับเมนูโปรดของพี่บิลลี่ ล้อมวงสนทนาแลกเปลี่ยนเมนูอาหารถ่ายทอดความทรงจำที่มีต่อพี่บิลลี่และชุมชน ให้มื้อนี้เป็นมือพิเศษของทุกคน

 

รวมถึงนิทรรศการศิลปะ “หากบิลลี่ยังอยู่” และล้อมวงฟังเพลง ถ้าวันนี้พี่บิลลี่ยังอยู่ พี่บิลลี่จะกำลังทำอะไรอยู่นะ ? พร้อมด้วยนิทรรศการศิลปะ ที่จะชวนให้ทุกคนได้รำลึกนึกถึงพี่บิลลี่ ในชุมชนและท่ามกลางผู้คนที่พี่บิลลี่รัก และระหว่างชมนิทรรศการ มีการบรรเลงเสียงเพลงสุดพิเศษโดย “น้ำ อัญชลี อิสมันยี”

 

อีกทั้งกิจกรรม ฉายภาพยนตร์และเสวนา จัดฉายหนัง 3 เรื่องติด! โปรแกรมหนังที่ถูกเลือกและจัดเรียงมาเพื่อถ่ายทอดทั้งเรื่องที่พี่บิลลี่อยากเล่า และเรื่องที่เล่าถึงพี่บิลลี่ ให้เราได้ร่วมรำลึกถึงพี่บิลลี่และสิทธิชุมชนกลุ่มชาติพันธ์ผ่านหลายแง่มุม

- วิถีชีวิต

- Billy and “The Way of Lives”

- The Purple Kingdom

 

ต่อมาวันที่ 18 เมษายน พบกับกิจกรรม Community Memory Box หนึ่งกล่อง ใส่ของได้หลายอย่าง ถ้าให้เลือกใส่ความทรงจำ กล่องนี้จะเปิดมามีอะไรบ้างนะ? ชวนทุกในชุมชนมาร่วมแบ่งปันความคิด ความทรงจำ และความหวังเพื่อความยุติธรรมโดยเขียนข้อความหรือใส่สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ลงในกล่องความทรงจำ

 

น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า บทเรียน 20 ปี ของกรณีทนายสมชาย นีลไพจิตร และ 10 ปี ของ บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ทำให้ประเทศไทยสามารถมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ที่มีบทลงโทษแก่ผู้กระทำผิดบังคับบุคคลให้สูญหายที่ดีกว่าในอดีต และอนาคตเหตุบุคคลสูญหายจะเป็นคดีอาญาที่มีบทลงโทษหนักและมีการดำเนินการทางกฎหมายที่รวดเร็วขึ้น การปฏิบัติการจับกุมของเจ้าหน้าที่จะต้องทีการบันทึกภาพ-เสียงตลอดกระบวนการควบคุมและจับกุมตัว ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์บุคคลสูญหาย

 

นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านในนามกลุ่มบางกลอยคืนถิ่น กล่าวว่า ตอนที่พี่บิลลี่หายตัวไป ตนเพิ่งเรียนจบชั้น ม.2 ยังเป็นเด็กและไม่ได้สนใจปัญหาของชุมชน จนปี 2559 ตัดสินใจลุกขึ้นมาร่วมกับพี่น้องเรียกร้องสิทธิและความเป็นธรรมให้กับชุมชน ที่มีการจับกุมและถูกดำเนินคดีหลายกรณี สำหรับเหตุการณ์สูญเสียบิลลี่เป็นแรงบันดาลใจต่อจิตสำนึกของตน เพราะเชื่อว่าหากพวกเราไม่เริ่มต้นสู้ เราคงต้องอยู่อย่างหวาดกลัวต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ

 

“10 ปีที่ผ่านมา จากที่ไม่เคยมีทางออก ตอนนี้เริ่มมีความหวัง เราเรียกร้องจนมีคณะกรรมการ 3 ฝ่าย มีแนวทางผลักดันให้ชาวบ้านสามารถกลับไปอยู่ที่ใจแผ่นดิน แต่ยังมีอุปสรรคอยู่อีกมาก” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #บิลลี่ #พอละจีรักจงเจริญ #บางกลอยใจแผ่นดิน #รำลึกบิลลี่






วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

ก้าวไกลแถลง 5 ข้อ แนะรัฐบาลจัดการ “กากแคดเมียม” จี้เร่งค้นหาอีก 1,265 ตันที่ยังไม่พบ เยียวยาประชาชนให้ทั่วถึง วางมาตรการขนย้ายกลับต้นทางให้รัดกุม พร้อมขอ สส.ช่วยกันผลักดันร่างกฎหมาย PRTR เพื่อป้องกันเหตุในอนาคต

 


ก้าวไกลแถลง 5 ข้อ แนะรัฐบาลจัดการ “กากแคดเมียม” จี้เร่งค้นหาอีก 1,265 ตันที่ยังไม่พบ เยียวยาประชาชนให้ทั่วถึง วางมาตรการขนย้ายกลับต้นทางให้รัดกุม พร้อมขอ สส.ช่วยกันผลักดันร่างกฎหมาย PRTR เพื่อป้องกันเหตุในอนาคต


วันที่ 18 เมษายน 2567 ณ ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร เขต 1 ภัสริน รามวงศ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 7 คริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก เขต 1 และพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ แถลงข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการจัดการกับกากแคดเมียม ที่มีต้นตอจากบ่อฝังกลบถาวรที่จังหวัดตาก แต่ถูกขนย้ายออกมาอย่างผิดกฎหมายและพบกระจายอยู่ในโกดังทั้งที่จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ


เดชรัตกล่าวว่า หลังจากตรวจพบกากแคดเมียมที่ลักลอบขนย้ายออกมา พรรคก้าวไกลนำโดยกลุ่มก้าวกรีน (เครือข่ายสิ่งแวดล้อมก้าวไกล) ก็ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งต้นทางที่จังหวัดจาก และปลายทางที่จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ล้วนเป็นพื้นที่ของ สส.ก้าวไกลทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนอย่างมาก พรรคก้าวไกลจึงติดตามและตรวจสอบกรณีนี้ร่วมกับคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม และคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของสภาผู้แทนราษฎรมาอย่างต่อเนื่อง


เดชรัตกล่าวต่อไปว่า ความคืบหน้าล่าสุดคือกระทรวงอุตสาหกรรมจะขนย้ายกากแคดเมียมกลับไปเก็บถาวรที่จังหวัดตาก ซึ่งเป็นจุดต้นทาง โดยการเก็บถาวรจะเป็นไปตามมาตรฐานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรื่องมาตรการการลดและป้องกันผลกระทบ และจะเริ่มต้นขนย้ายในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตาม จากการประเมินปริมาณกากแคดเมียมทั้งหมดพบว่าการขนย้ายจะต้องใช้รถ 480 เที่ยว และใช้ระยะเวลา 1-2 เดือนกว่าจะแล้วเสร็จ


ด้วยเหตุนี้ พรรคก้าวไกลจึงมีข้อกังวลและข้อเสนอแนะเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการใน 5 ประเด็น ได้แก่ 


1. กากแคดเมียมซึ่งตรวจพบที่จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ยังไม่ครบ 13,800 ตันที่ขนย้ายออกมาจากจังหวัดตาก โดยขาดอยู่ 1,265 ตัน ล่าสุดมีข่าวว่าส่วนต่างอาจจะเกิดจากความชื้นและการคำนวณน้ำหนักที่ไม่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลในนามกลุ่มก้าวกรีนยังมีข้อกังวลต่อข้อสันนิษฐานดังกล่าว โดยอาจมีความเป็นไปได้อื่น ๆ ใน 2 แนวทาง คือ อาจจะยังมีการกักเก็บกากแคดเมียมไว้ในพื้นที่อื่น ๆ ที่ยังตรวจไม่พบ หรือเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการหลอมกากแคดเมียมไปแล้วบางส่วน โดยเฉพาะพื้นที่สมุทรสาครและชลบุรี ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญที่พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบ และเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบอย่างโปร่งใสและเร่งด่วน


2. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบกากแคดเมียมและสารปนเปื้อนในร่างกายและสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุมและโปร่งใส โดยในกรณีที่มีการตรวจพบสารแคดเมียมในดิน น้ำ อากาศ หรือสิ่งมีชีวิต และกรณีที่มีการตรวจพบค่าแคดเมียมที่เกินมาตรฐานในร่างกายของคนงานและประชาชน รัฐบาลจะต้องกำหนดมาตรการฟื้นฟูและเยียวยาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้กับประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบโดยทันที โดยไม่อ้างข้อติดขัดใด ๆ ทั้งทางงบประมาณ หรือระเบียบในการดำเนินการ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการพบการปนเปื้อน ผู้ว่าราชการจังหวัดควรประกาศเขตควบคุมมลพิษไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มลพิษนั้นแพร่กระจายไปสู่สิ่งแวดล้อมในเขตที่กว้างขวางขึ้น 


3. การขนส่งกากแคดเมียมกลับไปยังพื้นที่ถาวรเดิม คือ จังหวัดตาก จำเป็นต้องตรวจสอบความพร้อมของพื้นที่งานจัดเก็บโดยบุคคลที่สาม หรือบุคคลที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเสียก่อน เนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อกักเก็บกากแคดเมียมที่จังหวัดตากของพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 11 เมษายนและ 17 เมษายน พบว่าบ่อกักเก็บถาวรเกิดความเสียหายจากการใช้เครื่องจักรไปขุดกากแคดเมียมขึ้นมา จนอาจจะไม่สามารถกักเก็บกากแคดเมียมโดยไม่มีการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมตามรายงาน EIA ได้ ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสภาพบ่อกักเก็บถาวรโดยเร่งด่วนและโปร่งใส ก่อนที่จะมีการดำเนินการขนย้าย


4. ในเรื่องการขนส่งกากแคดเมียมซึ่งคำนวนกันว่าจะต้องใช้รถมากกว่า 480 เที่ยว และการดำเนินการจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน จนเกิดข้อกังวลกันว่าอาจจะมีการปนเปื้อนสารแคดเมียมระหว่างทาง ดังนั้น การขนส่งกากแคดเมียมต้องมีความเข้มงวดเพื่อลดการปนเปื้อน และรถที่ใช้ขนส่งต้องได้รับอนุญาตให้ขนส่งวัตถุอันตรายอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ รวมถึงรัฐบาลต้องมีมาตรการป้องกันและแก้ไขในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุด้วย ซึ่งคาดหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น


5. เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงข้อบกพร่องในกลไกการป้องกันเหตุที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโรงงานต้นทาง ดังนั้น รัฐบาลจะต้องใช้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน โดยในระยะสั้น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จะต้องตรวจสอบหาข้อผิดพลาด และหามาตรการในการแก้ไขอย่างทันท่วงที ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีมาตรการในการตรวจทานร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนดำเนินการเคลื่อนย้ายสารมลพิษใด ๆ โดยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส เปิดเผยต่อสาธารณะ และเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบได้


นอกจากนี้ รัฐบาลและพรรคการเมืองต่าง ๆ ควรให้การสนับสนุนและช่วยกันเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (PRTR) รวมถึงร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการขยะและการหมุนเวียนทรัพยากร เพื่อให้การควบคุมและการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายหรือสารมลพิษต่าง ๆ กระทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และเปิดเผยอย่างโปร่งใสต่อประชาชน โดยพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว และหวังว่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยเร็ว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #กากแคดเมียม

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2567

“ดีอี-ตำรวจไซเบอร์” เปิดปฏิบัติการ “The Purge" กวาดล้างอาชญากรข้ามโลก จับต่างชาติตัวการแก๊ง Hybrid Scam ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 250 ล้านบาท พร้อมเตรียมเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

 


“ดีอี-ตำรวจไซเบอร์” เปิดปฏิบัติการ “The Purge” กวาดล้างอาชญากรข้ามโลก จับต่างชาติตัวการแก๊ง Hybrid Scam ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 250 ล้านบาท พร้อมเตรียมเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย


วันนี้ (17 เมษายน 2567) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษาผบก.สอท.4, นายวิทยา เนติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย หัวหน้าโฆษกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ คุณ Akbar A. Head of Investigation - APAC (Binance) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการ “The PurgeW กวาดล้างอาชญากรข้ามโลก จับต่างชาติตัวการแก๊ง Hybrid Scam ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 250 ล้าน พร้อมเตรียมเฉลี่ยคืนแก่ผู้เสียหาย


สืบเนื่องจากปฏิบัติการ “Trust No OneW EP.1-5 กรณีผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนในลักษณะ Hybrid Scam ซึ่งคนร้ายใช้วิธีการชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุนสกุลเงินดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มปลอม จากนั้นให้ผู้เสียหายซื้อเงินสกุล USDT และโอนไปตามเลขกระเป๋าเงินดิจิทัลตามที่คนร้ายระบุ ก่อนที่จะถูกโอนเข้าบัญชีของแพลตฟอร์มเทรดเงินดิจิทัล เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนจนได้ข้อมูลที่เชื่อมโยงไปสู่คนร้ายตัวจริงที่ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลดังกล่าว คือ นายซู (Mr.Shaoxian Su) ชาวสัญชาติจีนกับพวก และยังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงนอมินีที่จดทะเบียนเพื่ออำพรางการทำธุรกรรม สามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีน 3 ราย โดยยึดทรัพย์สินไว้ 15 รายการ ราคาประมาณ 600 ล้านบาท และได้ลงประกาศให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์คืน


ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนขยายผลจนพบว่า คนร้ายใช้วิธีสุ่มติดต่อหาประชาชนผ่านแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลต่างๆ แล้วชักชวนให้เกิดความเชื่อว่าคนร้ายสอนการลงทุนเทรดคริปโตเคอเรนซีเพื่อได้ผลกำไรจริง โดยผู้เสียหายถูกชักชวนให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของบุคคลต่าง ๆ (บัญชีม้า) ที่คนร้ายอ้างว่า เป็นบัญชีตัวแทนรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลดิจิทัล เพื่อโอนเข้าแอปเทรดเหรียญดิจิทัล (แอปปลอม) โดยหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการเป็นกลุ่มชาวจีน และ ชาวจีนสิงคโปร์ จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเอาไว้แล้ว จำนวน 26 คนและขอหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ จำนวน 4 จุด สามารถจับผู้ต้องหารายสำคัญได้ จำนวน 4 ราย คือ นายวศิษฎ์ อายุ 31 ปี, น.ส.สิรภัทร อายุ 25 ปี, นายตงเจี้ยน สัญชาติ จีน อายุ 45 ปี และนายเว่ย คิง เคก สัญชาติ สิงคโปร์ อายุ 41 ปี โดยได้ทำการอายัดบัญชีเงินฝาก รวมถึงตรวจยึด อายัดทรัพย์สินและบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ต้องหาและบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องในคดีรวมมูลค่าประมาณ 252.5 ล้านบาท พร้อมส่งดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนอันเป็นปกติธุระโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่,ร่วมกันเป็นซ่องโจร,ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ และร่วมกันฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน นอกจากนี้ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี


กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดน ในการดำเนินการขยายผลจับกุมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ ซิมผี และบัญชีม้า เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ในการตรวจสอบระงับยับยั้ง นายประเสริฐ กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กระทรวงดีอี #ตำรวจไซเบอร์




“พวงเพ็ชร” เนรมิตโฉมกองทุนชุมชนเมือง ดึงปชช.มีส่วนร่วม เดินหน้า “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส”

 


“พวงเพ็ชร” เนรมิตโฉมกองทุนชุมชนเมือง ดึงปชช.มีส่วนร่วม เดินหน้า “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส”


วันที่ 17 เมษายน 2566 ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ  ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของกองทุนชุมชนเมืองรุ่งมณีพัฒนา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร


กองทุนชุมชนเมืองรุ่งมณีพัฒนา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2546 ปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 469 คน ได้รับการจัดสรรงบประมาณการดำเนินงานตั้งต้นจากรัฐบาลในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  เป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท จากนั้นได้รับงบประมาณสมทบ ระยะที่ 2-3 ในยุคของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  เป็นเงินจำนวน 1,200,000 บาท และได้รับการสมทบในระยะต่อมาอีกจำนวน 1,200,000 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับเงินกู้จากธนาคารออมสิน สาขาโชคชัย 4 เป็นเงินจำนวน 5,000,000 บาท เพื่อซื้ออาคาร นำมาจัดทำเป็นร้านค้าสวัสดิการกองทุนฯ และแบ่งเช่า สร้างรายได้ให้กองทุนฯ อีกทางหนึ่ง ปัจจุบันทางกองทุนฯ มีเงินหมุนเวียน รวมทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านบาท โดยมีการจัดสรรเป็นเงินปันผลให้แก่สมาชิก และสวัสดิการต่างๆ  และยังมีการนำเทคโนโลยีมีใช้กับการชำระกู้ ทำให้สามารถติดตามการบริหารจัดการเงินกู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ขอชื่นชมกองทุนชุมชนเมืองรุ่งมณีพัฒนา และต้องขอขอบคุณคณะกรรมการทุกท่าน ที่มุ่งเน้นการบริหารงานเพื่อสมาชิกและชุมชนอย่างแท้จริง เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนที่ท่านนายกฯ ทักษิณ ได้วางแนวทางไว้ ว่าจะนำพาชุมชนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจุดเด่นของกองทุนฯ นี้ คือการบริหารจัดการเงินทุนอย่างเป็นระบบ โปร่งใส และมีสวัสดิการที่ช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกได้ในยามยาก หวังว่าแนวทางการดำเนินงานของกองทุนฯ นี้ จะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ เป็นโมเดลผลสำเร็จที่รัฐบาลสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” ดร.พวงเพ็ชร กล่าว


ดร.พวงเพ็ชร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในยุคการบริหารงานของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เราได้สานต่อแนวทางการดำเนินงานของท่านนายกฯ ทักษิณ และท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมาพบว่าบางกองทุนฯ ประสบความสำเร็จ บางกองทุนฯ ล้มเหลว เราจะทำการตรวจสอบและฟื้นฟู ให้กองทุนต่างๆ กลับมาดำเนินงานได้ โดยปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน ของเดิมมีกรรมการกองทุนฯ ขับเคลื่อน แต่กองทุนฯ โฉมใหม่ เปิดโอกาสให้สมาชิกเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนากองทุนมากขึ้น สามารถบริหารงานได้ตรงต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ตามเป้าหมาย “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส”


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กองทุนชุมชนเมือง




'พริษฐ์' ถามกกต. เมื่อไหร่ระเบียบ - ประกาศเลือก สว.ถึงจะเสร็จ หวั่น หากรับรองชุดใหม่ช้า ส่งผลชุดปัจจุบัน (สว. 250)จะรักษาการลากยาวแบบไม่มีกำหนด

 


'พริษฐ์' ถามกกต. เมื่อไหร่ระเบียบ - ประกาศเลือก สว.ถึงจะเสร็จ หวั่น หากรับรองชุดใหม่ช้า ส่งผลชุดปัจจุบัน (สว. 250)จะรักษาการลากยาวแบบไม่มีกำหนด

 

วันนี้(17 เมษายน 2567) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ระเบียบ-ประกาศ ทั้งหมดของ กกต. เรื่องการคัดเลือก สว. จะเสร็จกี่โมง?” โดยระบุว่า ในอีกไม่ถึง 1 เดือน สว. ชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงและเราจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก สว. ชุดใหม่ อย่างเป็นทางการ

 

แต่นับถึงวันนี้ เกณฑ์และกติกาทั้งหมดที่เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าวยังไม่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ แม้ตัวแทน กกต. เคยได้ชี้แจงในการประชุม กมธ. พัฒนาการเมืองฯ ที่สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ว่าระเบียบและประกาศทั้งหมดที่เหลืออยู่ ควรจะเสร็จสิ้นและเผยแพร่ได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์

 

ในบรรดาระเบียบและประกาศที่ยังไม่มีการเผยแพร่ มีอยู่ 2 ฉบับ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการให้ความชัดเจนต่อคำถามที่หลายคน (โดยเฉพาะผู้ที่สนใจจะลงสมัคร สว.) ยังคงมีข้อสงสัยจำนวนมาก

 

1. ประกาศเกี่ยวกับคุณสมบัติของ 20 กลุ่มอาชีพ - เช่น นิยามโดยละเอียดของแต่ละกลุ่มอาชีพที่ผู้สมัคร สว. ต้องเลือกในการสมัครรับคัดเลือก

 

2. ระเบียบเกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้สมัคร - เช่น ผู้สมัครแนะนำตัว-รณรงค์อย่างไรได้บ้าง? ผู้สมัครประกาศจุดยืนหรือแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ (เช่น จุดยืนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ) ได้หรือไม่? ประชาชนทั่วไปสามารถแนะนำตัว-รณรงค์ให้ผู้สมัครที่ตนสนับสนุนอย่างไรได้บ้าง?

 

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กกต. จะ :

 

(1) เร่งหาข้อสรุปและเผยแพร่ ระเบียบ/ประกาศ โดย “เร็ว” ที่สุด

 

(2) ออกแบบกฎเกณฑ์และกติกาใน ระเบียบ/ประกาศ ให้ “เปิดกว้าง” ที่สุด เพื่อให้

- (i) ผู้สมัครแต่ละคนได้แนะนำตนเองได้อย่างครอบคลุมที่สุด

- (ii) ผู้สมัคร (ซึ่งจะเป็นผู้มีสิทธิเลือก สว.) เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครคนอื่นได้อย่างรอบด้านที่สุดเพื่อประกอบการพิจารณา

- (iii) ประชาชน (แม้ไม่มีสิทธิเลือก สว. โดยตรง) มีส่วนร่วมในกระบวนการได้อย่างกว้างขวางที่สุด

 

ยิ่งกติกาดังกล่าวออกมา “ช้า” เท่าไหร่ และออกมาในลักษณะที่สร้าง “ข้อจำกัด” มากเท่าไหร่ ความไม่ชัดเจนที่ตามมา ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้กระบวนการที่มีความซับซ้อนอย่างมากอยู่แล้ว มีปัญหาในเชิงปฏิบัติมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจกระทบต่อความเที่ยงตรงและเป็นธรรมของกระบวนการทั้งหมด

 

โดยข้อกังวลหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือหากกระบวนการคัดเลือก สว. มีปัญหาและนำไปสู่ข้อร้องเรียนจำนวนมาก จนทำให้ กกต. ไม่พร้อมจะยืนยันว่าการคัดเลือกดังกล่าว “เป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม” ทาง กกต. มีช่องในการที่จะยังไม่ประกาศผลการคัดเลือก สว. ชุดใหม่ (ตามระเบียบว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ข้อ 154) ซึ่งจะทำให้ สว. 250 คน ชุดปัจจุบัน รักษาการต่อไปโดยไม่มีกำหนด โดยแม้จะไม่มีอำนาจตามบทเฉพาะกาลแล้ว แต่ก็จะมีอำนาจเทียบเท่ากับ สว. ชุดใหม่ที่กำลังถูกคัดเลือก (เช่น อำนาจยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อำนาจรับรองตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ-ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ)

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กกต #สว #ไอติมพริษฐ์