วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566

“เศรษฐา” ย้ำ “พักหนี้เกษตรกร” ทำควบคู่กับการเพิ่มรายได้ มอบหมายธ.ก.ส.เร่งพิจารณาขั้นตอนและงบประมาณ เตรียมพิจารณามาตรการดูแลหนี้สินครู-ตำรวจและผู้ประสบวิกฤตโควิด (หมวด 21) ไปพร้อมกันด้วย


“เศรษฐา” ย้ำ “พักหนี้เกษตรกร” ทำควบคู่กับการเพิ่มรายได้ มอบหมายธ.ก.ส.เร่งพิจารณาขั้นตอนและงบประมาณ  เตรียมพิจารณามาตรการดูแลหนี้สินครู-ตำรวจและผู้ประสบวิกฤตโควิด (หมวด 21) ไปพร้อมกันด้วย


วันที่ 1 กันยายน 2566 ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายลดราคาพลังงานว่า ได้หารือกับว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก่อนหน้านี้แล้ว และวันนี้ก็จะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับผิดชอบด้านนี้ ก็ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น ๆ รอความชัดเจนอีกนิดหนึ่ง ทั้งในเรื่องของขั้นตอนและงบประมาณ เพราะเราต้องดูแลให้ครบทั้งองค์รวม


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้รับทราบว่าประธานสภาอุตสาหกรรมแสดงความกังวลในการลดค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการ ไม่ว่าค่าไฟ ค่าพลังงาน ซึ่งทางเราคำนึงสูงสุดและได้ชี้แจงไปแล้วว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด


สำหรับความคืบหน้าการพักหนี้เกษตรกรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ซึ่งกำลังพิจารณารายละเอียดว่าจะพักหนี้จำนวนเท่าไร นานเท่าไร และอย่างไร แต่จะมีการพักทั้งต้นและดอก หลักการคือเราต้องการให้พี่น้องเกษตรกรมีเวลาไปพื้นฟูตัวเอง ไปทำมาหากินโดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องหนี้สิน จะได้มีขวัญและกำลังใจในการรายได้ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะทำได้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ขณะนี้ได้ให้ ธ.ก.ส. ไปดูเรื่องของขั้นตอนต่าง ๆ โดยประสานงานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ได้พูดคุยกับทางสถาบันจัดอับดับหนี้ ซึ่งดูแลหนี้สินทั้งหมดของพี่น้องประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่ได้ดูแลแค่พี่น้องเกษตรกร แต่ยังจะดูแลครู ตำรวจและผู้ที่ประสบภัยพิบัติในช่วงโควิด (หมวด 21) ที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย ดังนั้นจึงขอเวลาในการพิจารณา แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะดูแลให้ครบทุกภาคส่วนเพื่อให้คนไทยทุกคนที่ประสบปัญหาได้มีขวัญและกำลังใจกลับมาทำงานอีกครั้ง


“การลดหนี้ชั่วคราวเป็นการบรรเทาความทุกข์ เป็นการฟื้นฟูจิตใจให้มีขวัญและกำลังใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการเพิ่มรายได้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นนโยบายของพรรคเพื่อไทยคือเราจะพยายามเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งก็ต้องเร่งทำ” นายกรัฐมนตรีกล่าว


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ภาคธุรกิจมีคำถามเกี่ยวกับแนวนโยบายการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องของวีซ่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนหมายถึงวีซ่าฟรี คือไม่ต้องขอวีซ่า เพราะฉะนั้นถ้าไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศ ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า ซึ่งเป็นความประสงค์ที่เราได้พูดคุยกันมาโดยตลอด และมั่นใจว่าทุกภาคส่วนเข้าใจว่าเรายกเว้นการขอวีซ่า ซึ่งน่าจะเป็นชั่วคราวก่อนในช่วงไฮซีซั่น ยืนยันว่าในส่วนนี้เราไม่ได้ดูแค่กระทรวงการต่างประเทศที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยตรง แต่ได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน รวมไปถึงการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยด้วย เพื่อพิจารณาทั้งหมด ทั้งการเดินทางเข้าประเทศ การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงรถโดยสารสาธารณะที่จะเข้าไปในสถานบินด้วยอีกหลายเรื่อง ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้วและเห็นชอบในหลักการ รวมทั้งได้พูดคุยกับทางว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เห็นด้วยและพร้อมผลักดันให้เกิดขึ้นได้


ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายนี้จะสามารถเริ่มได้เมื่อไร นายกรัฐมนตรี ตอบว่า เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในตอนต้นไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงพีคซีซั่นพอดี ก็หวังว่าจะเริ่มต้นภายใน 1 ตุลาคมครับ


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมาได้เชิญผู้เกี่ยวข้องกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามาหารือกัน ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทยยังมีเรื่องกองทุนพัฒนากีฬา เข้าใจว่าอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงกีฬาเอเชียนเกมส์แล้ว แต่หลายสมาคมยังไม่ได้รับเงินอุดหนุน และค้างกันมาหลายล้านบาท ก็ฝากผู้ดูแลทางด้านกองทุนพัฒนากีฬาด้วยว่าหากจ่ายเงินได้ก็จะเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาไทยที่จะไปช่วงชิงเหรียญทองมาเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประเทศชาติ เพราะเท่าที่ฟังมาหลายๆสมาคมเดือดร้อน และค่อนข้างน่าเป็นห่วง 


ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรี ซึ่งยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กรณี นายพิชิต ชื่นบาน อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ไม่อยากให้เน้นไปที่นายพิชิต เพียงคนเดียว เพราะมีการพิจารณาคนอื่นๆ ด้วยเช่นกันเพื่อให้ถูกต้องที่สุด


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุสภาล่มเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมาด้วยว่า ความรับผิดชอบต่อสภาเป็นเรื่องสำคัญ ในการประชุม สส. อีกครั้งในวันสัปดาห์หน้าก็คงมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เพราะไม่ควรเกิดขึ้น


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการตั้งกระทู้ถามพร้อมไปตอบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเป็นฝ่ายบริหารต้องมีความรับผิดชอบต่อฝ่ายนิติบัญญัติด้วย หากฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อกังวล มีความเป็นห่วงก็เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องเข้าไปตอบหรืออาจจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตอบ ยืนยันว่าจะต้องให้ความเคารพต่อสภา


นายเศรษฐา เปิดเผยถึงการพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วยว่า ในวันที่ได้เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ได้สอบถามว่าหลังจากนี้จะไปทำอะไร ซึ่งเข้าใจว่าพลเอกประยุทธ์ ชอบตีกอล์ฟ ก็ได้แนะนำว่าควรไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็บอกว่า ลูกสาว 2 คนไปเที่ยวแล้วสนุก ก็เลยแนะนำลองให้ลูกสาวพาไปเที่ยวบ้าง ก็ขอให้พลเอกประยุทธ์ได้ไปเที่ยวต่างประเทศและรักษาสุขภาพให้ดี


ผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ตอบว่า อย่างที่บอกเรื่องของ ดร.ทักษิณ เป็นเรื่องส่วนตัว แล้วก็ทาง ดร.ท่านก็บอกแล้วทางพรรคการเมืองไม่เกี่ยวข้องด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เศรษฐาทวีสิน #เพื่อไทย