วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2567

นพ.เหวง โตจิราการ : ชะตากรรม นายกฯ ชินวัตร / นักวิเคราะห์มองว่า คุณอุ๊งอิ๊ง เหมือนตัวประกัน

 


นพ.เหวง โตจิราการ : ชะตากรรม นายกฯ ชินวัตร / นักวิเคราะห์มองว่า คุณอุ๊งอิ๊ง เหมือนตัวประกัน

[ถอดเทป] จากมติชนสุดสัปดาห์ ในรายการ #MatiTalk คุยกับ นายแพทย์ เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. (เผยแพร่เมื่อ 23 สิงหาคม 2567)

ลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=qHYmW5AFy5k


ชะตากรรม นายกฯ ชินวัตร


มันขึ้นอยู่กับว่า พรรคเพื่อไทยล้ำเส้นพวกขวาจัดหรือเปล่า? ล้ำเส้นพวกยึดอำนาจรัฐประหาร อำนาจนิยม อนุรักษ์นิยมหรือเปล่า? ถ้าไม่ล้ำเส้น เป็นเด็กดี ทำตามสิ่งที่เขาต้องการทุกประการ ก็ไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณล้ำเส้นไปก้าวล่วงอำนาจของพวกเขา คือพวกเขาต้องการที่จะเผด็จอำนาจการปกครองของประเทศนี้ไว้ในมือของพวกเขา และสถาปนาอำนาจของพวกเขาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปทุกที ๆ จนไม่อาจจะสั่นคลอนได้


ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่คุณเป็นเด็กดีในโอวาทของเขา เขาก็จะไม่เล่นงานคุณ แต่เมื่อใดก็ตาม คุณไปล้ำเส้นเขานิดเดียว ผมเชื่อว่าคุณโดนแน่นอน และอาจจะโดนหนักกว่าเก่าด้วย เพราะผมไม่เคยเชื่อใจพวกขวาจัดอนุรักษ์นิยมอำนาจนิยมเลย พวกนี้เหี้ยมโหดอำมหิตมาตั้งแต่ 6ตุลา19 แล้ว เห็นมั้ยครับ?


นักวิเคราะห์มองว่า คุณอุ๊งอิ๊ง เหมือนตัวประกันนะ


คำว่าตัวประกันมันเป็นภาษาพูดแล้วทำให้เข้าใจได้ง่าย ๆ แต่ที่ผมเรียนเมื่อสักครู่ก็คือ ต้องมองให้ทะลุรากลึกเลย คือขวาจัด อำนาจนิยม อนุรักษ์นิยม รัฐประหารนิยม พวกเนี้เขาต้องการสถาปนารัฐไทยให้เป็นรัฐขวาจัดที่แข็งแกร่ง ใครก็ตามที่ไปท้าทายสถานภาพอันนี้จะต้องมีอันเป็นไป

 

เขาดูแล้วเมื่อการเลือกตั้งปี 66 โอกาสที่เขาจะสู้กับ “ก้าวไกล” ริบหรี่หรือแทบจะไม่มีโอกาสสู้เลย มีทางเดียวคือต้องดึงเอา “เพื่อไทย” มาเป็นกำลังด้วย ผมก็ไม่แน่ใจนะว่าเขามีการพูดจากันอย่างไร แลกเปลี่ยนผลประโยชน์อย่างไร มีดีลอย่างไร ผมเสียใจมาก เพราะผมเคยมอง “เพื่อไทย” ว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่วันนี้ไม่ใช่ไปแล้ว เขาเปลี่ยนขั้วสลับข้างไปอยู่ฝ่ายโน้นแล้ว เขาเป็นคนบอกเองว่าเขาข้ามขั้ว โอกาสที่จะสถาปนาประเทศไทยที่เป็นประเทศประชาธิปไตยที่แข็งแรงมันหมดไปแล้ว


เพราะฉะนั้น ทางฝ่ายขวาก็เลยฉวยโอกาสอันนั้นไปสร้างมิตรภาพกับพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ ผมก็ไม่รู้นะ จะมีดีล/ไม่มีดีล มีเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังอะไรก็ไม่รู้นะ ก็คือเปลี่ยนขั้วสลับข้าง เปลี่ยนสีแปรธาตุ มันสูญไปแล้ว ฉะนั้นเขากลับมาลำบากแล้ว เขาคงจะต้องทำตามสิ่งที่พวกขวาจัดเขาต้องการนั่นเอง


ถ้าดีลลับมีจริง ทำไม “เศรษฐา” ถึงหลุดได้


ผมเองไม่ได้ไปคลุกคลีตีโมงกับนักการเมืองโดยใกล้ชิด ผมจึงไม่มีข้อมูลในระดับลึกว่ามันคืออะไร แต่ผมดูแล้ว สิ่งที่ฝั่งขวากังวลใจเป็นอย่างมากก็คือดิจิทัลวอลเล็ต ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยเขามุ่งหน้าอย่างยิ่งในการทำดิจิทัลวอลเล็ตให้สำเร็จให้ได้ เพราะมันหมายถึงคะแนนนิยมของเขา ซึ่งตอนนี้เขาไม่มีอะไรมาสร้างคะแนนนิยมในหมู่ประชาชนอีกแล้ว ตรงนี้หรือเปล่าที่ทำให้ฝ่ายขวาจัดเขาไม่ค่อยสบายใจ จะเรียกว่าไม่ค่อยพอใจก็ได้ กับการเดินแต้มทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ของนายกฯ เศรษฐา


วิธีกู้คืนความหวัง กู้คืนศรัทธา? พรรคเพื่อไทย


อย่างที่ผมเรียนเมื่อสักครูว่า 1) รัฐไทยขณะนี้ฝ่ายขวาจัดเขากุมอำนาจอยู่ 2) ฝ่ายขวาจัดเขาประสงค์อยากจะสร้างรัฐไทยที่เป็นขวาจัด อำนาจนิยม รัฐประหารนิยม อนุรักษ์นิยมที่แข็งแกร่งขึ้นมา ดังนั้น อะไรก็ตามที่ไปสั่นคลอนรากฐานอันนี้ เขาไม่พอใจอย่างแน่นอน และทักษิณไม่มีทางเลือกแล้ว ถึงคุณทำเศรษฐกิจดีอย่างไรก็ตามแต่ คุณก็ไม่สามารถชนะใจประชาชนได้ต่อไปแล้ว อย่างที่ผมเรียนว่าพรรคเพื่อไทยเขาประเมินประชาชนผิด เขาเห็นประชาชนหยุดนิ่งอยู่กับที่ เขาเห็นประชาชนเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตทางเศรษฐกิจ ประชาชนไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทางเศรษฐกิจนะ ประชาชนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอุดมการณ์ และอุดมการณ์ที่สำคัญที่สุดคืออุดมการณ์ทางการเมือง


เห็นได้อย่างชัดเจนเลย ตอนแรก ๆ ที่ประชาชนออกมาต่อสู้ ยังไม่ได้สวมเสื้อแดงนะ แต่ทันทีที่มีวาระว่าจะ รับ/ไม่รับ รัฐธรรมนูญ 50 ของพวกเผด็จการ คปค. หรือ คมช. มันเลยปรากฏสัญลักษณ์เสื้อแดงขึ้นมาเพื่อที่จะให้คนทุกคนที่ไม่สนับสนุนรัฐธรรมนูญ 50 ผนึกรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ฉะนั้น สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านเผด็จการ ถ้าคุณเอาสีแดงไปใช้คุณต้องยึดมั่นกับเรื่องนี้ ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่องนี้แต่คุณใช้สีแดงไปใช้อย่างเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างพลังนิยมให้กับพรรคตัวเองนั้น จบเลย! แปลว่าคุณอ่านประชาชนไม่ออก อ่านประชาชนไม่ขาด ประชาชนเขาต้องการต่อต้านรัฐประหาร


พรรคเพื่อไทยยังจมปรักกับความเชื่อว่า “คนเสื้อแดง” หลงใหลได้ปลื้มเชื่อมั่นศรัทธาพรรคเพื่อไทยหรือคุณทักษิณอย่างหัวปักหัวปรำ ใช่ครับมีจำนวนหนึ่ง แล้วผมก็เคารพนะ เขามีสิทธิ เพราะคุณทักษิณเขามีความสามารถในการทำให้เศรษฐกิจของคนรากหญ้าดีขึ้น ทำให้คนรากหญ้าจำนวนไม่น้อยเขานิยมชมชอบศรัทธาชื่นชม “ทักษิณ” อย่างมาก แต่ผ่านจากการต่อสู้ทางการเมืองตั้งแต่การยึดอำนาจรัฐประหารปี 49 จนถึงการฆ่าคนกลางเมืองปี 53 ความตื่นตัวทางการเมืองของคนระดับรากหญ้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยว่าประเทศไทยต้องต่อต้านรัฐประหาร ต้องต่อต้านอำนาจนิยม ต้องต่อต้านการที่พวกเผด็จการใช้กองทัพมาฆ่าประชาชนสองมือเปล่า ต้องต่อต้านเรื่องนี้ให้ได้ ถ้าต่อต้านเรื่องนี้ไม่ได้ประเทศไทยไปไหนไม่ได้


แต่ว่าพรรคเพื่อไทยยังไปหยุดอยู่แค่มองเห็นประชาชนเป็นโหวตเตอร์ทางการเมืองเฉย ๆ เท่านั้นเอง โดยไม่ได้มองว่าประชาชนเขาพัฒนาจิตสำนึกทางการเมืองขึ้นไปสู่ระดับที่เขาต้องการที่จะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศไทยที่แข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว ถ้าเขาดูและอ่านออกนะ ตอนที่เขาเลือกยิ่งลักษณ์ ประชาชนเลือกยิ่งลักษณ์ด้วยคะแนนเสียง 15.75 ล้านเสียงวันนั้น คือเขาไปอ่านแค่ว่าคนเสื้อแดงรักทักษิณ คนเสื้อแดงรักพรรคเพื่อไทย ก็เลยเทคะแนนให้ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้อ่านลงไปเลยว่าคนเขาเกลียดการฆ่าคนกลางถนนของศอฉ. ให้ทหารกองทัพไทย 6 หมื่นคน ใช้กระสุน 2 แสนนัด ฆ่าคนเสื้อแดงจำนวน 90 กว่าศพ ถ้ารวมทหารด้วยก็ 100 กว่าศพ เขาต้องการลงโทษศอฉ. ต้องการลงโทษเผด็จการที่ใช้ทหารฆ่าคนมือเปล่ากลางเมืองที่เพียงแต่มาเรียกร้องให้ยุบสภาเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นก็เลยเทคะแนนเสียงให้ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่ว่ายิ่งลักษณ์เก่งมหาศาล ใช้เวลา 49 วัน เอาชนะใจคน 15 ล้านคน ไม่ใช่ครับ เขามองไม่ออก


จริง ๆ ถ้าเขารู้จักถอดบทเรียนหลังจากยึดอำนาจปี 57 แล้วมีการเลือกตั้งปี 62 คะแนนเสียงของเพื่อไทยตกต่ำอย่างมากใจหายเลย จาก 15 ล้าน มาเหลือแค่ 7.8 ล้าน ทำไมคุณไม่อ่านให้ทะลุ ทั้งที่วันนั้น พรรคอนาคตใหม่ เพิ่งตั้งไม่กี่เดือนนะ แต่ว่าอนาคตใหม่เขาแสดงตัวชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะให้ประเทศมีโครงสร้างทางการเมืองที่แข็งแรงในระบอบประชาธิปไตย คนเลยเทคะแนนเสียงไปให้อนาคตใหม่ ใกล้เคียงนะ 6.33 ล้าน เพื่อไทยได้ 7.88 ล้าน ต่างกันประมาณ 6 แสนเท่านั้นเอง แล้วก็เพื่อไทยตกลงมาจาก 15 ล้าน มาเหลือ 7 ล้าน เขาอ่านตรงนี้ไม่ออกไง


แล้วพอมาเลือกตั้งครั้งใหม่เขาเอาสีแดงมาอีก ทีจริงไม่ผิดนะ เอาสีแดงนี้มาถูก แต่คุณต้องเอาแก่นนี้มาด้วย แก่นของสีแดงคือต่อต้านรัฐประหาร ต่อต้านอำนาจนิยม ต่อต้านอนุรักษ์นิยมจารีตนิยม ปรากฏว่ายังจับแก่นนี้ไม่ได้เลยตอนหาเสียงยังโลเลในการพูดถึงเรื่องสองลุง จนพอคะแนนเสียงของก้าวไกลขึ้น ๆ ๆ ในช็อตสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งถึงไปประกาศว่าไม่เอาสองลุง 1) มันช้าไปเสียแล้ว 2) คุณให้สัญญาประชาคมกับประชาชนทั่วทั้งประเทศแล้วว่าคุณไม่เอาสองลุง แต่พอมาจัดตั้งรัฐบาล สุดท้ายคุณอ้างบอกว่าก้าวไกลไม่สามารถสร้างคะแนนนิยมให้เกิน 375 ได้ คุณได้ฉีกตัวไปเพื่อเอาคะแนนนิยมคืนมา คุณอ้างว่าจำเป็นต้องทำอย่างนี้เนื่องจากว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ความจริงคือคุณประสงค์ที่อยากจะไปร่วมมือกับพวกเผด็จการ มันก็เลยจบเลย


มีคนเขาบอกว่า 14 ล้านเสียงของก้าวไกลมาจาก Gen Y, Gen Z ผมว่ามีส่วนจริงบ้าง แต่อย่าลืมนะว่าเดิมเพื่อไทยเขาได้ 15.75 แต่มาหล่นเหลือ 10.9 คุณหายไป 5 ล้านเสียง ซึ่ง 5 ล้านเสียงไม่ใช่ Gen Z แล้ว คือเป็นพวก Babyboom กับ Gen Y ที่เขายืนหยัดต่อต้านรัฐประหารและต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง เขาเทคะแนนมาให้ก้าวไกล แล้วกลับกลายเป็นว่าพวกที่หลงใหลได้ปลื้มหรือศรัทธาเชื่อมั่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องนะ ไม่ได้ผิดพลาดอะไรนะ เพื่อไทยตั้งตัวเป็นศัตรูกับคนที่ไปเลือกก้าวไกล โจมตีใส่ร้ายป้ายสี หาว่าพวกนี้เป็นด้อมส้ม หาว่าไปกินส้มเน่า หาว่าเป็นสลิ่มเฟส 2 คือไปสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น โดยไม่ไปอ่านว่าพวกนี้เขาต้องการประชาธิปไตย ถ้าหากว่าเพื่อไทยยังจับมือกับก้าวไกลนะ คุณได้ 320 กว่าแล้วนะ คุณก็รออีก 10 เดือน สว. 250 คนที่มาจากการคัดเลือกหรือคัดสรรของคสช. ก็หมดอำนาจในการเลือกนายกฯ แล้ว ก็ตั้งรัฐบาลได้ แล้วทำไมคุณไม่รอ คุณไปร่วมกับพวกเขา ก็แปลว่าเพื่อไทยเขาอ่านไม่ออกเลย


ฝากการบ้านถึง นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร


ผมต้องเรียนว่าความหวังของผมริบหรี่นะ แต่ผมก็ยังอยากจะหวังอยู่เหมือนกัน ข้อที่ 1) อยากให้พรรคเพื่อไทยจริงจังกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องให้ประชาชนทั้งประเทศเลือกสสร.โดยตรง และให้สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เลย ถ้าคุณทำอย่างนี้ โอกาสที่คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยจะคืนมามีสูง


2) นิรโทษกรรมทางการเมือง ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองทั้งหมด รวมทั้ง 112 ด้วยนะ คนที่ติดคุก 112 ในวันนี้เพราะเขาแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ 112 แล้ว 112 นี้เป็นกฎหมายที่ถูกแก้โดยคณะรัฐประหาร 6ตุลา19 ฉะนั้นพูดถึง 112 ได้ สามารถแก้ไข 112 ได้


ฉะนั้นผมถึงอยากจะฝากคุณอุ๊งอิ๊งว่า นิรโทษเที่ยวนี้ขอให้นิรโทษรวมทั้ง 112 ด้วย ที่สำคัญที่สุด พรรคเพื่อไทยเป็นคนที่ได้อานิสงส์มากที่สุดจากการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนปี 53 เพราะฉะนั้น ผมทวงความยุติธรรมจากพรรคเพื่อไทยครับ ว่าคุณจะคืนความยุติธรรมให้คนตายปี 53 อย่างไร? ผมจะเติมว่า “ทวงความยุติธรรมให้คนตาย นิรโทษกรรมให้คนเป็น” ครับ


ผมอยากให้พรรคเพื่อไทยมองให้เห็นนะว่า ประเด็นทางการเมืองเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณสามารถที่จะเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองของประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรงได้ ประชาชนก็จะกลับมาสนับสนุนคุณใกล้เคียงกับของเก่า วันนี้มันอาจจะลำบากแล้วเพราะมันมีก้าวไกล ซึ่งปัจจุบันเขาเปลี่ยนชื่อไปเป็นประชาชน ไม่ทราบว่าจดทะเบียนเสร็จแล้วหรือยัง แล้วก็เป็นทางการแล้วหรือยังนะ พรรคนี้เขาแสดงท่าทีชัดเจนเลยว่าเขาต้องการเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองของประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรง ถ้าคุณต้องการที่จะต่อสู้กับพรรคประชาชนหรือแย่งคะแนนเสียงจากพรรคประชาชน คุณต้องแสดงจุดยืนว่าคุณต้องการที่จะทำให้โครงสร้างทางการเมืองของประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรง แต่วันนี้ผมรู้สึกว่าคุณช้าไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังไม่สายนะ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #หมอเหวง #เพื่อไทย #การเมืองไทย